วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Toyota Camry 2014 ได้เวลาปฏิบัติการเตะแข้ง Honda Accord และเผยโฉม Camry 2.0G Extremo 2014 แต่งใหม่หล่อกว่าเดิม

  หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา Honda Accord 2013 ได้ทำการเตะเข้า Goal ของ Toyota Camry ได้สำหรับจนได้  ด้วยหน้าตาที่ดูหรูหราสวยงาม(บางครั้งแอบหรูกว่าพวก 3 Series หรือ C-Class อีก) รวมทั้ง Option ที่จัดเต็มจน Toyota ต้องเงิบ จน Toyota ทำอะไรไม่ถูก ดังนั้น Toyota จึงมีแผนแก้ขัดเลยปรับออปชั่นใหม่ใน Camry รุ่นปี 2014 พร้อมทั้งเผยโฉม Camry 2.0G Extremo ที่แต่งหล่อจนหล่อกว่าเก่าด้วย
   สำหรับ Toyota Camry 2014 ในรุ่น 2.0 และ 2.5 ที่ได้รับการปรับปรุงอุปกรณ์เพิ่มเติม ในส่วนของระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเพื่อให้ตัวรถดูครบครันและสมบูรณ์แบบขึ้น (เล็กน้อย แต่ยังสู้ Accord ไม่ได้หรอก) โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้ครับ
 -ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
-ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
-ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC – Vehicle Stability Control)
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
  สำหรับราคาของ Toyota Camry 2014 มีดังนี้ครับ รุ่น 2.0 G ราคา 1,279,000 บาท (-20,000 บาท) และรุ่น 2.5 G ราคาเท่าเดิม 1,509,000 บาทครับ
   พร้อมกันนี้ Toyota ยังเผยโฉม Camry 2.0G Extremo รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่ได้รับการตกแต่งที่เท่และหล่อล่ำกว่าเดิม รูปกายภายนอกมากับชุดแอโร่พาร์ททรอบคัน สเกิร์ตใหม่รอบคัน ไฟหน้าและไฟท้ายรมดำ ชุดแต่งรอบคัน สเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้างซ้าย-ขวา และ สปอยเลอร์หลัง พร้อมกระจังหน้าพื้นสีดำ ระบบไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Lights (DRL) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55/R17 สัญลักษณ์ “Extremo” บริเวณฝากระโปรงหลัง และสเกิร์ตด้านข้าง 
   ภายในนั้นตกแต่งด้วยโทนสีดำ มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX, USB ระบบนำทางรองรับ Smart G-Book,ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) พร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ที่พวงมาลัย,กล้องมองหลัง,แผงคอนโซลหน้าลายไม้ดีไซน์พิเศษแบบ Extremo,ไฟส่องสว่างที่ประตูคู่หน้าพร้อมสัญลักษณ์ Extremo,พรมปูพื้นสีดำ Extremo
    สำหรับราคาค่าตัวของ Toyota Camry 2.0G Extremo มีค่าตัวเท่าเดิมที่ 1,359,000 บาทครับ


  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

MINI Clubman Concept ใกล้ความจริงแล้วสำหรับ MINi Clubman รุ่นโปรดักชั่น

   และแล้ว MINI ก็เซอร์ไพรซ์มวลมหาประชาชนแฟนๆ MINI ทั่วโลก ด้วยการปล่อยรูป MINI Clubman Concept ซึ่งจะเป็นคำใบ้ที่จะบอกว่า MINI Clubman รุ่นใหม่จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
   สำหรับต้นแบบคันนี้นั้น มีสัดส่วนองค์เอวยาว 4,223 มิลลิเมตร กว้าง 1,844 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร    MINI Clubman Concept นั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของค่ายรถเล็กแฟชั่นค่ายนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้ฟังคำบ่นของลูกค้าของประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวา ที่ MINI Clubman MK2 และ MK3 ไม่ทำประตูตู้กับข้าวแบบ 2 ฝั่ง เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าออกสะดวก ซ้ำยังประตูเล็กนี้ยังแคบเสียด้วย
    ดังนั้น MINI Clubman Concept จึงแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ Clubman โฉมใหม่ที่จะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ด้วยการเปลี่ยนจากประตูตู้กับข้าวแค่ฝังขวากลายเป็นประตูคู่หลังบานใหญ่ 2 บาน ซึ่งรูปร่างตัวรถนั้นยังคงไว้ซึ่ง DNA ของ MINI ครบถ้วน โดยเฉพาะครึ่งคันหลังนั้น ถือเป็นการพลิกการออกแบบครั้งสำคัญของค่ายนี้เลย ซึ่ง MINI มักจะยึดแต่รูปแบบเดิมๆ ดังนั้นได้เวลาเปลี่ยนกันแล้วครับ เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ดีกว่าอยู่ในบรรทัดฐานเดิมๆ จริงมั้ยครับท่านผู้อ่าน
   โดยรวมนั้น MINI ก็ยังคงเสน่ห์แบบ Clubman ไว้ครับ ซึ่งบานฝากระโปรงท้ายก็ยังเป็นประตูตู้กับข้าวแบบเดิม หากเราสังเกตดีๆ มันซ่อนรูปเนียนจนบางคนอาจไม่รู้ว่ามันเป็นประตูตู้กับข้าวเลย
   ของใหม่ที่ค่าย MINI นำเสนอก็คือ ม่านอากาศบริเวณซุ้มกันโคลนล้อหน้า เพื่อให้ประสิทธิผลตามหลักอากาศพลศาสตร์
   ภายในนั้นคล้ายๆกับ MINI Cooper Hatchback แต่ออกแบบใหม่ในส่วนด้านล่างและแผงข้างประตูใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ไม่รู้ว่าสวยๆแบบนี้จะได้เห็นในรุ่น Production หรือเปล่า ยังไงก็ติดตามกันครับ สำหรับ MINI Clubman Concept จะเผยโฉมต่อสาธารณชนที่งาน Geneva Motor Show 2014 ส่วนรุ่นขายจริงนั้น เรายังไม่สามารถฟันเฟิร์มว่าเมื่อไหร่ แต่น่าจะปีนี้แน่นอนครับ
  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

มาชมสุดยอด(แห่งความเห่ย)ยนตรกรรมของเมืองจีนกันดีกว่า

   หากพูดถึงประเทศจีนนั้นหลายคนคงรู้ดีว่ามันเป็นเจ้าแห่งการก๊อปปี้ ก๊อปปี้สินค้าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเหมือนเสียเกือบทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่รถที่จีนยังก๊อปปี้ยี่ห้อดังๆ มาเป็นแบรนด์ของตน และไม่ใช่เพียงเท่านี้ หลายค่ายที่ฉลาดแกมโกงที่นำเอาตัวถังรถของแบรนด์ใหญ่ๆ มาดัดแปลงเป็นรถของตน ซึ่งบทความเรื่องนี้ เราจะพาชมสุดยอดยนตรกรรมของเมืองจีนที่จีนทำเองครับ (สุดยอดตรงไหน อยากรู้จังเลย)
   เริ่มด้วยรถคันนี้เลย ค่าย Dongfeng-Nissan ร่วมมือกันผลิตรถใหม่ในนาม Venucia R50 ความเลวร้ายของมันก็คือมันเอาตัวถังของ Nissan Tiida รุ่นเก่ามาแต่งหน้าทาปากเป็นรุ่นใหม่ มันก็เลยดูแปลกๆแบบนี้ละครับ
   มาดูซุปเปอร์แห่งความเลวร้ายกันครับ กับกระบะ Gonow Troy ความเลวร้ายของมันอยู่ที่มันเอาตัวถังของ Isuzu Dragoneye ที่มีอายุอานามมากว่า 10 ปีแล้ว มาดัดแปลงแล้วเลียนแบบหน้าของ Toyota Prado ใส่เข้าไป กลายเป็นกระบะรุ่นใหม่ของค่าย ซึ่งไอ้คันนี้มันก็ขายในจีนสักพักแล้ว และมันยังมีมาขายบ้านเราด้วย สงสัยคนจะหวั่นเกรงอานุภาพ เลยไม่ค่อยเห็นมีมาวิ่งเลย
   รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่เคยมาเอาจำหน่ายแบบจริงจังในไทย มันคือรถตู้ Foton View ที่ดูจากหน้ารู้เลย มันเอาของ Toyota ใช้วิธีการดัดแปลงแบบฉลาดๆแกมโกง ด้วยการเอาหน้าตาของ Toyota Alphard รุ่นเก่า มาใส่กับ Toyota Commuter รุ่นเก่าเช่นกัน เชื่อว่าหลายคนเคยเห็นมันวิ่งเป็นรถตู้วินครับ ตอนนี้เลิกขายไปแล้ว
   มาต่อกันด้วยรถ MPV ในเมืองจีนคันนี้นามว่า Dongfeng Fengxing MPV เซียนรถต้องดูออกแน่ว่ามันคือการเอาตัวถังของ Hyundai H-1 มาปรับปรุง แล้วเอาหน้าของ Toyota Alphard มาใส่ กะให้คนซื้อคิดว่าซื้อ Alphard ในราคาถูกใช่ป่าว
   รถอเนกประสงค์ของจีนคันนี้ก็เช่นกัน หน้าตาถือว่าดูหล่อไม่ด้วย ถ้าไม่ติดว่าจิ๊กตัวถัง Isuzu Cameo มาทำ มันคือ Foton Explorer 6 ที่มีหน้าตาดีไม่น้อย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสอบผ่านมาตรฐานการชนหรือเปล่า
   มาที่รถตู้อีกสักคันครับ ค่าย Polarsun หากใครจำได้ ไอ้คันนี้มันเคยเอามาขายในเมืองไทยด้วย เป็นรถตู้ที่เอาตัวถัง Toyota Hiace Commuter มาทำหน้าใหม่ หน้าตาดูตลกเอามากๆ 
   ลองมาดูอีกคันของค่าย Polarsun ครับ ในรุ่น Family MPV ที่ทำงานหยาบเอาตัวถังของ Honda Jazz รุ่นเก่าสุดๆ มาดัดแปลงใหม่ หน้าตามันดูน่าเกลียดยังไงไม่รู้
   ต่อที่ค่าย BYD ที่มีรถเก๋งนามว่า BYD F3 ที่ทำงานหยาบเหมือนค่ายอื่นๆ ที่เอาตัวถังของ Toyota Corolla Altis หน้าหมู มาแปลงหน้าใหม่ ความเลวร้ายของมันที่ทำเอาผู้เขียนเงิบก็คือ มันเอาไฟท้ายของ Honda City แมลงสาบ มาใส่เข้าไป ดูแล้วยังไง ไม่ผ่าน!!!!!!
   มาที่ค่าย Greatwall กันดีกว่า เมื่อเห็นรถเล็กรุ่นนี้ ทุกคนต้องรู้เลยว่ามันคือ Toyota Yaris ที่แต่งหน้าทาปากใหม่ กลายเป็น Greatwall Phenom i7 หน้าตาไม่เข้าเลย
   กลับมาที่ค่าย Dongfeng อีกครั้ง สำหรับคันนี้จะไม่ใช่รถที่ดัดแปลงมาจากรุ่นไหนใดๆ แต่รูปร่างหน้าตามันเหมือนกับเอา Mitsubishi Space Wagon มาย่อส่วน แล้วก็มาในชื่อ Dongfeng Fengxing Jingyi ครับผม
    ขอปิดท้ายบทความนี้กับค่าย Chang'an ที่เป็นซับแบรนด์ของ Mazda ซึ่งทางค่ายได้นำเอาตัวถังของ Mazda 3 เจเนเรชั่นแรกมาแปลงโฉมใหม่กลายเป็น Chang'an Cinturx ก็ดูดีแต่มันก็ของเก่าแล้ว
   ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของรถเมืองจีนที่หลายค่ายทำออกมาแบบลวกๆ พอแล้วมือ ไม่สนมาตรฐานความปลอดภัย ก็ยกเว้นแต่เจ้าใหม่ Qoros ที่กำลังจะโกอินเตอร์ยุโรปแล้ว ด้วยการผ่านมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว มากที่สุดของปี 2013 และเป็นรถที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของจีนด้วย แต่ถึงอย่างไร รถจีนหลายยี่ห้อนั้น บอกไม่ถูก อยากจะใช้คำหยาบกับค่ายพวกนี้จัง ไม่แปลกเลยที่คนจีนส่วนใหญ่ซื้อรถยนต์ของสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง
  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปรียบเทียบมวยคู่เดือด ตอนที่ 5 : Toyota Ventury VS. Hyundai H-1

 แม้ว่าตลาดรถตู้นั้นจะเป็นตลาดกลุ่มเล็ก แต่ก็ถือว่าเป็นตลาดหนึ่งที่น่าจับตามองไม่น้อย ซึ่งตลาดกลุ่มนี้ก็มีคู่แข่งแค่ไม่กี่ราย บทความเรื่องนี้เราจึงจับ Toyota Ventury ซึ่งเพิ่งไมเนอร์เชนจ์ไปหมาดๆ มาเทียบกับ Hyundai H-1 ที่ถือเป็นพระเอกของ Hyundai ได้เลยเพราะช่วยนำพายอดขาย Hyundai ให้ไปถึงฝันได้ ซึ่งการเทียบครั้งนี้แม้จะเป็นรถคนละประเภท ซึ่ง Toyota Ventury ถือเป็นรถตู้หรูที่มีพื้นฐานมาจากรถเพื่อการพาณิชย์ Hiace แต่ Hyundai H-1 เป็นรถ MPV ตั้งแต่เกิด แต่เนื่องจากทั้ง 2 คันนี้ มีเป้าหมายกลุ่มลูกค้าเดียวกัน ก็คือ กลุ่มครอบครัว ฉะนั้นเราจึงนำมาเปรียบเทียบกันครับ
ชื่อเสียง
Toyota Ventury
   Toyota ยกระดับรถตู้ Hiace ให้หรูนั้นมานานแล้ว ถ้าจำไม่ผิด ก็จะมีรุ่น Hiace Super Custom ที่มีหลังคาซันรูฟมาให้ด้วย ต่อด้วย Toyota Hiace Grand Wagon ที่มากับชุดแต่งรอบคัน และตามด้วย Toyota Ventury ที่ยกระดับความหรูหราให้มากกว่าเดิม จนมาถึงรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ ที่ได้ใส่ฟังก์ชันอันทันสมัยมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
Hyundai H-1
   Hyundai นั้น ได้รีเทิร์นอีกครั้งในช่วงปี 2008 หลังจากหายไปในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตกปี 1997 หลังจากการกลับมา Hyundai ก็ได้นำเสนอ H-1 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จนตอนนี้ก็วิ่งบนท้องถนนกว่าหลายหมื่นคันแล้ว ด้วยความเป็นรถที่คุ้มค่า ราคาพอรับได้ ทำให้ได้การตอบรับเป็นอย่างดี
รูปร่างหน้าตา
Toyota Ventury
    รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกับรถตู้รุ่นหนึ่ง ที่แต่งองค์ทรงเครื่องจนมีความหรูหรากว่าเดิม รูปร่างหน้าตาในรุ่นปรับโฉมนั้น มองไปแล้วดูแปลกตากว่าเดิม เหมือนไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ รุ่นก่อนหน้ายังดูดีกว่านี้ แต่ยังไงมันก็ยังดูมีความหรูหราไม่น้อย ยังมีราศีของความหรูหราผู้ดีอยู่ อันนี้ก็แล้วแต่ท่านจะมองครับ
Hyundai H-1 
    ฮุนไดนั้นหลังจากการไมเนอร์เชนจ์เมื่อปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าหน้าตาสอบผ่าน ด้วยหน้าตาที่ดูหรูหรา สวยงาม และรูปร่างทรวดทรงองค์เอวที่ดูดี มองเผินๆอาจดูมีชาติตระกูลกว่าเจ้า Ventury เสียด้วยซ้ำ ซึ่งไม่แปลกใจที่จะมีหลายคนยอมเสียเงินล้านๆกว่าเพื่อรถคันนี้
ฟังก์ชัน
    หากพูดถึงเรื่องฟังก์ชันนั้น ดูเหมือนว่าเจ้าตลาดนั้นกับค่ายรถแดนโสม จัดฟังก์ชันให้มาไม่แพ้กันเลย มากกว่าน้อยกว่ากันเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น เราลองมาเทียบฟังก์ชันของรุ่นท็อปของทั้งคู่ สำหรับ Toyota Ventury 3.0V กับ Hyundai H-1 Deluxe ครับ
ฟังก์ชัน
Toyota Ventury 3.0V
Hyundai H-1 Deluxe
พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ
มี
มี
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
-
มี
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID
มี
-
กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงสะท้อน
แบบอัตโนมัติ พร้อมแสดงภาพจากกล้องมองหลัง
มี
กุญแจรีโมท
มี
มี
ชุดอุปกรณ์ความบันเทิงด้านหน้า
2 DIN วิทยุ DVD/ MP3 4 ลำโพง พร้อมจอ LCD แสดงผล
เครื่องเสียงวิทยุ CD DVD แบบ 2 DIN รองรับไฟล์ MP3 พร้อมจอสัมผัส 7 นิ้ว
ชุดอุปกรณ์ความบันเทิงด้านหลัง
จอ LCD 10.2” พร้อมรีโมทควบคุม
จอ LCD 10.1 นิ้ว เชื่อมต่อได้กับ USB HDMI
ลำโพง
4 ตัว
6 ตัว
ระบบปรับอากาศ
ธรรมดา
ธรรมดา พร้อมระบบปรับอากาศแยกด้านหลัง
ระบบบริหารหลังไฟฟ้า 3 จุด (ด้านหลัง เบาะแถวที่ 1)
มี
-
เซ็นทรัลล็อก
มี
-
สวิตซ์เปิด-ปิดประตูบานสไลด์ด้านซ้าย อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
มี
-
มาตรวัดเรืองแสง Optitron
มี
-
ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแยกสำหรับด้านหลัง
-
มี
ช่องลมปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
-
มี
เบาะแถว 2 หมุนแบบ 180 องศา
-
มี
Bluetooth
-
มี
ช่องเชื่อมต่อ USB AUX
มี
มี
ระบบนำทาง
-
มี
Pust Start
มี
-
เครื่องยนต์

Toyota Ventury
    สำหรับเครื่องยนต์นั้นทาง Toyota มีให้เลือก 2 ขุมพลัง ได้แก่ เครื่องเบนซิน 2.7 ลิตร VVT-i ให้พละกำลัง 151 แรงม้าที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตรที่ 3,800 รอบ/นาที และขุมพลังดีเซลใหม่ 3.0 ลิตร คอมมอนเรล ให้กำลัง 136 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตรที่ 1,200-2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
Hyundai H-1 
   เครื่องยนต์ของฮุนไดนั้นแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัด มากับขุมพลังดีเซล 2.5 ลิตร คอมมอนเรล มากับพละกำลัง 175 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที มากับแรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแบบซีเควนเซียล
ความปลอดภัย 
   ดูเหมือนว่าระบบความปลอดภัยนั้นทาง Hyundai จะเสียคะแนนไปให้เจ้าตลาดอย่าง Toyota แต่ก็ถือว่าจัดมาได้อย่างคุ้มค่าและครบครันทั้งสองรุ่น มาดูออปชั่นเปรียบเทียบในรุ่นท็อปของทั้งสองครับ

ฟังก์ชัน
Toyota Ventury 3.0V
Hyundai H-1 Deluxe
ระบบเบรก ABS
มี
มี
ระบบเสริมแรงเบรก BA
มี
-
กล้องมองหลัง
มี
มี
ระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer)
มี
-
ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
มี
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
มี
-
ระบบถุงลมเสริมความ ปลอดภัย (SRS Airbag)
มี
มี
เข็มขัดนิรภัย ห้องโดยสารด้านหน้า
ELR ยึด 3 จุด 2 ที่นั่ง (พร้อมระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ)
มี
แป้นเหยียบเบรกแบบยุบตัวได้
มี
-
ราคา
Toyota Ventury
   พี่เบิ้ม Toyota นั้น จำหน่าย Ventury ทั้งหมด 3 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ 2.7G เบนซิน ราคา 1,354,000 บาท รุ่น 3.0G ดีเซล ราคา 1,432,000 บาท และ รุ่น 3.0V ดีเซล ราคา 1,645,000 บาท
Hyundai H-1 
   ค่ายฮุนไดนั้น ให้ทางเลือกสำหรับผู้ซื้อ H-1 ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น Touring ราคา 1,099,000 บาท รุ่น Elite 1,449,000 บาท รุ่น Executive ราคา 1,489,000 บาท และรุ่น Deluxe ราคา 1,599,000 บาท
สรุป...
   ได้เวลาสรุปกันแล้วครับ ทั้งสองคันนี้ก็ถือว่ามีคุณสมบัติที่น่าสนใจทั้งหมด ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรา สวยงาม สะกดสายตา และเอาใจครอบครัว สำหรับ Toyota นั้นมีชื่อเสียงเรื่องรถตู้มานมนานแล้ว สำหรับ Hyundai นั้น เพียงผู้เล่นรายใหม่ แม้ว่าจะเป็นรถคนละประเภทกัน แต่ก็จัดว่าเป็นรถครอบครัวทั้งคู่ สำหรับ Toyota นั้นหลังจากการไมเนอร์เชนจ์ Ventury ก็ได้เติมความคุ้มค่า ใส่ฟังก์ชันมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าราคาที่สูงโดยเฉพาะรุ่นท็อปที่โดดไปถึง 1.6 กว่าล้านบาท ซึ่งมากับออปชั่นครบ ซึ่งทำให้เราต้องคิดหนักหน่อย แต่สำหรับ Hyundai H-1 นั้น มากับออปชั่นที่มากมายพอสมควร และถือว่าคุ้มค่าพอสมควร ด้วยค่าตัวที่กำลังดี สำหรับการเปรียบเทียบครั้งนี้ ผู้มีชัยผมขอยกตำแหน่งให้ Hyundai H-1 ครับ

  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

Like Box