วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เผยโฉม Suzuki Ciaz RS อีโคคาร์ซีดานเสริมภาพลักษณ์สปอร์ต

   หลังจากที่ Suzuki ได้ทำการเปิดตัวและเปิดขาย Suzuki Ciaz เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็มีหลายคนให้ความสนใจพอสมควร แม้ว่ายอดขายที่ช่วงหลังๆจะเริ่มแผ่ว และกระแสที่ไม่ค่อยบูม สวนทางกับความดีของตัวรถอันเป็นผลมาจากพิษเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามค่าย Suzuki ก็สู้ไม่ถอย ได้ส่งอีโคคาร์ตัวท็อปคันใหม่ของค่ายอย่าง Suzuki Ciaz RS มาลงตลาด

   ซึ่งภายนอกของรถได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมในส่วนของชุดสเกิร์ตรอบคันที่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับตัวรถที่มากกว่าเดิมไม่น้อย นอกจากนี้ยังได้ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์และโลโก้ RS บริเวณฝากระโปรงท้าย ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ

   ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งแบบหุ้มหนัง ตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุโครเมียมคุณภาพสูง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วน โดยระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถมากับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นวิทยุ USB MP3 และฟังก์ชั่นการใช้งานเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และยังมี Apple CarPlay ที่เพียงเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และสั่งงานโดยใช้เสียง หรือใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอ ให้ผู้ขับขี่สามารถดูแผนที่ รับสายโทรเข้า-โทรออก รับหรือส่ง ข้อความ และฟังเพลง ภายใต้แนวคิด Listen-Call-Drive-Connect


   ขุมพลังของรถยังคงมากับเครื่องยนต์ เครื่องเบนซิน 1.25 ลิตรแบบเดียวกับ Swift มากับพละกำลัง 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ CVT สำหรับระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็มี ระบบเบรก ABS EBD BA ถุงลมคู่หน้า

   ราคาค่าตัวของ Suzuki Ciaz RS นั้นอยู่ที่ 675,000 บาท มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl , สีขาว Snow White Pearl และสีดำ Super Black Pearl ซึ่งใครอยากชมตัวจริงสามารถชมได้แล้วที่โชว์รูม Suzuki หรือรอชมในงาน Motor Expo 2015 วันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีครับ

ที่มา Suzuki
 มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!

   

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบสเปคกลุ่มกระบะตอนเดียวในเมืองไทย

   ตลาดกระบะในเมืองไทย ถือว่ากลุ่มตลาดรถที่ใหญ่กลุ่มหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ และที่กำลังจะพูดถึงก็คือกลุ่มตลาดกระบะตอนเดียวซึ่งก็เป็นกลุ่มที่มีลูกค้าซื้อกันพอสมควร โดยเฉพาะวงการอุตสาหกรรม หรือวงการพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายที่ซื้อรถแนวนี้ไปใช้ขนผักผลไม้ไปขาย หรืออย่างรถประเภทตอนเดียว 4x4 ก็ถือว่าเป็นที่นิยมสำหรับชาวสวนยางทั้งหลาย หรือไม่ก็กลุ่มขาลุยที่เอารถไปแต่งต่อยอดเพิ่มเติม

   ซึ่งเพราะเหตุผลเหล่านี้ ผมเลยจัดทำบทความเปรียบเทียบสเปคของกลุ่มกระบะตอนเดียวเมืองไทย ทั้งตอนเดียวแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และตอนเดียวขับเคลื่อน 4 ล้อ เชิญรับชมได้เลยครับ

Part I : ตอนเดียวรุ่นท็อป(ขับเคลื่อน 2 ล้อ)
ภายนอก

ภายใน
(ส่วน Mazda BT-50 Pro ไม่มีรูปภายในตอนเดียวที่ใกล้เคียงสเปคจริงครับ)
Spec

Part II : ตอนเดียวรุ่นเครื่องยนต์เล็ก
ในส่วนของตอนเดียวรุ่นต่ำสุดนั้น ผมจะไม่ได้ทำในส่วนของระบบความปลอดภัย และขนาดของตัวรถ เพราะ ระบบความปลอดภัยต่างๆนั้นและขนาด จะเหมือนกับพาร์ทแรกทุกประการครับ
Part III : ตอนเดียวขับเคลื่อน 4 ล้อ
   ปืดท้ายด้วยพาร์ทสุดท้ายที่เป็นการเปรียบเทียบของกระบะแบบตอนเดียว ซึ่งก็เป็นตลาดกลุ่มที่พ่อค้าแม่ขายค่อนข้างนิยมกันพอสมควร ผมเลยไม่พลาดที่จะทำตารางเปรียบเทียบมาให้ชมด้วยครับ
 ภายนอก

ภายในห้องโดยสาร
ภาพจาก http://www.one2car.com/for-sale/toyota-hilux-revo-single-j-4x4-bangkok-metropolitan-lak-si-sapanmai-chaeng-watthana/2470938/

Spec
   และทั้งหมดนี้ก็คือการเปรียบเทียบสเปคในกลุ่มกระบะตอนเดียวในเมืองไทย ที่รวบรวมข้อมูลมาให้ละเอียดเท่าที่จะหามาได้ ซึ่งผมหวังว่าข้อมูลตรงนี้จะสามารถประกอบการตัดสินใจในการซื้อรถของท่านผู้อ่านทั้งหลายได้ครับ

 มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!

   

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

All-New Mazda CX-9 ชมโฉมรถอเนกประสงค์มาดหรูจากมาสด้า

   ค่ายรถจากแดนซามูไร Mazda ได้ทำการเปิดตัวรถอเนกประสงค์เรือธง 7 ที่นั่งโฉมใหม่ล่าสุดอย่าง All-New Mazda CX-9 เป็นที่เรียบร้อยในงาน Los Angeles Auto Show 2015 ซึ่งยังคงมากับแนวการออกแบบ Kodo Design และมาพร้อมขุมพลังเทอร์โบชาร์จใหม่อีกด้วย

   ภายนอกของรถยังคงมากับแนวการออกแบบที่เป็นทิศทางเดียวกับ Mazda รุ่นใหม่ๆที่ผ่านมา นั่นก็คือ Kodo Design ซึ่งในรุ่นนี้ได้รับการออกแบบกระจังหน้าทรงเอกลักษณ์ของรถให้มีขนาดใหญ่โตกว่ารุ่นอื่นๆที่ผ่านมา ตกแต่งด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหรา ออกแบบกันชนหน้าสไตล์สปอร์ตให้เข้ากับหน้าตาของรถ เส้นสายด้านข้างของรถดูปราดเปรียวกว่าเดิม พร้อมตกแต่งประตูด้านข้างด้วยขอบโครเมียมเติมความหรูหรา ต่อท้ายไปถึงด้านท้ายที่ออกแบบทรงไฟท้ายให้ดูเรียวและกันชนท้ายทรงสวย โป่งล้อขนาดใหญ่รองรับล้ออัลลอยที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18-20 นิ้วได้สบาย

  ขนาดของตัวรถนั้นมีความยาว 5,095 มม. ซึ่งสั้นกว่ารุ่นก่อน 30 มม. แต่ทว่าความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 55 มม. ซึ่งน่าจะส่งผลต่อพื้นที่ห้องโดยสารที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วทางวิศวกรยังสามารถลดน้ำหนักตัวรถจากรุ่นเดิมในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าได้ 90 กก. และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ได้ 130 กก. และยังสามารถลดเสียงรบกวนที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสารได้ 12% ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จากรุ่นก่อนหน้า

   ภายในห้องโดยสารของรถได้รับการออกแบบให้ต่างจากรุ่นเดิมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ออกแบบคอนโซลหน้าให้ดูสวยงามและดูดีกว่าเดิม ตกแต่งห้องโดยสารด้วยโทนสีแบบทูโทน ภายในห้องโดยสารยังคงกว้างพอสำหรับ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเฉพาะแถว 3 ที่กว้างพอให้เด็กเข้าไปนั่งได้โดยง่ายๆ ตกแต่งภายในด้วยแสงไฟ LED ระบบอินโฟเทนเมนต์มากับหน้าจอขนาด 7-8 นิ้วแล้วแต่รุ่นย่อยพร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อได้ตั้งแต่ USB Bluetooth โทรศัพท์ และรองรับการฟังวิทยุอินเทอร์เน็ต Pandora / Aha และ Harman มาตรวัดของรถมากับหน้าจอ TFT แสดงข้อมูลขนาด 4.6 นิ้ว และยังมีจอ Active Driving Display แสดงความเร็วติดตั้งมาให้ด้วย

  ขุมพลังของรถนั้น ไฮไลต์สำคัญคือการโละเครื่อง 3.7 ลิตร V6 ออกไป แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยขุมพลัง SkyActiv-G Turbo ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ มากับพละกำลัง 254 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที (ตลาดญี่ปุ่นจะลดพละกำลังเหลือ 230 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

   สำหรับระบบความปลอดภัย ทาง Mazda ก็ได้จัดระบบต่างๆให้รุ่นใหญ่อย่าง CX-9 มาแบบเต็มๆ โดยมีตั้งแต่
- ะบบ Advanced Blind Spot Monitoring เตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
- ระบบ Radar Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันความเร็ว ทำงานได้ในช่วง 30 - 145 กม./ชม.
- ระบบ Lane- Keep Assist ป้องกันการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
- ระบบ Lane Departure Warning เตือนเมื่อผู้ขับออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
- ระบบ High Beam Control ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบ Smart City Brake Support ช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.
- ระบบ Distance Recognition Support System เตือนเมื่อมีการเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป
- ระบบ Forward Obstruction Warning เตือนผู้ขับด้วยเสียงในกรณีที่อาจเกิดการชน ทำงานร่วมกับระบบ Smart Brake Support ช่วยเบรคอัตโนมัติในขณะใช้ความเร็วปานกลาง - สูง ลดความเสียหายในกรณีเกิดการปะทะ

    All-New Mazda CX-9 ยังไม่มีการประกาศค่าตัวออกมา โดยจะวางขายในอเมริกาช่วงต้นปี 2016 ส่วนเมืองไทยคงยากที่จะเข้ามาขายครับ

ที่มา Carscoops

 มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!

   

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เผยโฉมรุ่นพิเศษ Nissan NP300 Navara Sportech เสริมความหล่อตามคู่แข่ง

  ค่ายกระบะทั้งหลายต่างงัดไม้เด็ดออกมาสู้กันอย่างสนุกสนานในปีนี้ มีหรือที่ค่าย Nissan จะนิ่งเฉยได้ และล่าสุดทาง Nissan ก็เตรียมปล่อยเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษออกมากระตุ้นตลาดอย่าง Nissan NP300 Navara Sportech ซึ่งจะนำไปแสดงภายในงาน Motor Expo 2015 ด้วย

   ภายนอกได้รับการตกแต่งให้ต่างจากเวอร์ชั่นปกติพอสมควร ตัวรถมากับกระจังหน้าใหม่เป็นแบบตะแกรงตาข่าย ตัวรถตกแต่งด้วยสเกิร์ตทรงสปอร์ตรอบคันตั้งแต่หน้าจรดท้าย บันไดข้างใหม่สี Smoke Chrome ติดตั้งสปอร์ตบาร์ด้านหลัง ไฟส่องสว่างกระบะท้ายพร้อมสวิตซ์เปิด-ปิด พื้นกระบะท้ายไลน์เนอร์ กันชนท้ายสี Smoke Chrome ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว เพลทท้ายรถ " Sportech "และ โละเสาอากาศในรุ่น Double Cab 4x4 แล้วแทนที่ด้วยเสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark fin แทนซึ่งสงวนไว้เฉพาะตัวถัง Double Cab ครับ

   ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นมีการตกแต่งสีเบาะด้วยโทนสีดำตัดสีเงิน พวงมาลัยหุ้มหนัง และในรุ่นเกียร์อัตโนมัติจะได้เกียร์หุ้มหนังด้วย นอกจากนี้แล้วภายนอกยังมีสีพิเศษเพิ่มอีก 1 สีคือ สีน้ำเงิน Dark Blue

   Nissan NP300 Navara Sportech มีราคาค่าตัวดังนี้ครับ
- รุ่น 2.5 Sportech Calibre EL 6MT ราคา 806,000 บาท
- รุ่น 2.5 Sportech Calibre EL 6MT ราคา 887,000 บาท
- รุ่น 2.5 Sportech Calibre V 7AT ราคา 960,000 บาท
- รุ่น 2.5 Sportech Calibre VL 6MT ราคา 966,000 บาท
- รุ่น 2.5 Sportech 4WD VL 7AT ราคา 1,041,000 บาท

ชมรูปภาพ

   










มาร่วมพูดคุยกันสนุกๆเรื่องรถยนต์ประดุจเพื่อนข้างกาย 
พร้อมเกาะติดข่าวการเปิดตัวรถใหม่กันแบบฉับไว
กดไลค์แฟนเพจของ Cars New Update ด้านล่างได้เลยครับ!!!
   

Like Box