วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

All-New Ford Fiesta มาดใหม่ที่ดูดีและมากด้วยเทคโนโลยี

  สิ้นสุดการรอคอยสำหรับชาวโลกเมื่อค่าย Ford ได้ทำการเปิดตัว All-New Ford Fiesta ซึ่งเป็นโฉมใหม่หมดจด การเปิดตัวนั้นมีขึ้นในเมืองโคโลญน์ ประเทศเยอรมัน และในการเปิดตัวครั้งแรกในแผ่นดินยุโรปนั้นก็ถือว่าเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของตลาดรถกลุ่มซับคอมแพกต์ในยุโรปด้วยเช่นกัน

รุ่น Titanium

   เมื่อดูดีไซน์โดยรอบตัวรถนั้น ทุกคนคงเฉลียวใจว่ามันเป็นรถ All-New จริงๆเหรอ เพราะมันช่างคล้ายรุ่นเดิมหรือเกิน เหตุผลก็คือรถคันนี้ยังคงสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรุ่นปัจจุบัน แต่ตัวรถก็ถูกเพิ่มความยาวขึ้นอีก 71 มม. และกว้างขึ้นอีก 12 มม.

  ด้านหน้าตัวรถนั้นจะมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Ford รุ่นใหม่ๆหลายรุ่น โดยเฉพาะในส่วนกระจังหน้าที่พาลให้นึกถึงสปอร์ตหรู Aston Martin เส้นสายด้านข้างนั้นยังดูคล้ายคลึงกับรุ่นเดิมแต่ถูกออกแบบให้ดูเฉียบคมขึ้นเพื่อให้เข้ากับหน้าตาของรถและในส่วนของด้านท้ายที่มากับชุดไฟท้ายทรงใหม่แบบทรงแนวนอน ซึ่งดูสวยงามกว่าเดิมมาก รวมทั้งมีการเล่นรายละเอียดกรอบไฟตัดหมอกหลังบริเวณกันชนท้ายด้วย

   ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดให้ดูสวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้นกว่าโฉมเดิม พวงมาลัยนั้นยกมาจากรุ่นพี่อย่าง Focus มาเลย การตกแต่งภายในใช้วัสดุที่ดูแพงยิ่งขึ้น กลางคอนโซลติดตั้งจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 4.2 / 6.5 และ 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ SYNC3 นอกจากนั้นแล้วลูกค้ายังสามารถเลือกออปชั่นระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Bang & Olufsen ได้ด้วย

รุ่น ST

   Ford Fiesta โฉมใหม่จะมี 4 รูปแบบที่แตกต่างกัน ได้แก่รุ่นปกติ Titanium จะมาแนวเรียบหรูธรรมดา แต่ถ้าชอบความสปอร์ตเร้าใจก็ต้องเลือกรุ่น ST ที่จะออกแบบกระจังหน้าและกันชนให้สปอร์ตยิ่งขึ้น รวมทั่งล้ออัลลอยลายที่สปอร์ตเข้ากับตัวรถ ติดตั้งเฟืองท้ายแบบสปอร์ต รวมทั้งภายในห้องโดยสารที่ติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยดีไซน์พิเศษเดินด้ายตะเข็บแดง ถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เน้นความแรงแบบ ST แท้ๆ

รุ่น Vignale

ในขณะที่รุ่น Vignale จะมาสายหรู ด้วยชุดกระจังหน้าแบบตะแกรงรังผึ้ง พร้อมกันชนดีไซน์หรู ภายในห้องโดยสารเพิ่มเติมจากรุ่นอื่นๆคือการเดินด้ายตะเข็บแท้และบุนุ่มคอนโซลให้ดูแพงยิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งดีไซน์หรู

รุ่น Active Crossover

ปิดท้ายรุ่น Active Crossover สำหรับที่ใครชอบความเท่ ด้วยชุดแต่งรอบคันในสไตล์รถครอสโอเวอร์

   Ford Fiesta โฉมใหม่จะมีขุมพลังให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล โดยเริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost ที่มีพละกำลังให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ 100 , 125 และ 140 แรงม้า ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนรุ่นพละกำลัง 100 แรงม้าจะมีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (ยังไม่ทราบว่าเป็นเกียร์ลูกใหม่ใน Focus หรือ Powershift) ให้เลือกเป็นออปชั่นด้วย

ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซลจะมีให้เลือกในความจุ 1.5 ลิตร กับพละกำลัง 2 ระดับ ได้แก่ 85 และ 120 แรงม้า ซึ่งมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 82 และ 89 กรัม/กม. ตามลำดับ

ในรุ่นเริ่มต้นจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.1 ลิตร พละกำลัง 70 และ 85 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเป็นมาตรฐาน ค่าการปล่อย CO2 อยู่ที่ 101 กรัม/กม. สำหรับรุ่นเบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost และรุ่นดีเซล 85 แรงม้าจะมีกระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ Active Grille Shutter ติดมาให้ด้วย ทุกรุ่นที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะมีโหมดการขับขี่ Eco ที่ช่วยปรับตั้งค่าเครื่องยนต์และคันเร่งเพื่อส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น

   นอกจากนี้ Ford ยังได้ปรับปรุงการเก็บเสียงใน Fiesta โฉมใหม่ ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วราวๆ 7%

   Ford Fiesta โฉมใหม่จะมาถึงในตลาดยุโรปช่วงปี 2017 ส่วนเมืองไทยนั้นคาดเดาว่าน่าจะมีการเปิดตัวช่วงปลายปี 2017 เป็นอย่างเร็วหรืออย่างช้าต้นปี 2018 ครับ

ที่มา Carscoops


มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

แอบถ่าย Mercedes-Benz C-Class Minor Change กับภาพภายในห้องโดยสาร

   ค่ายดาวสามแฉก Mercedes-Benz ได้ทำการวิ่งทดสอบ C-Class Minor Change มาได้หลายเดือนแล้ว และล่าสุดก็มีคนสามารถจับภาพภายในห้องโดยสารของ C-Class รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ได้แล้ว

   เห็นได้ชัดเจนว่าภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงใหม่ในส่วนของพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้น ปรับรายละเอียดชุดหน้าจอใหม่ให้กว้างกว่าเดิม และใช้ขอบสีดำล้วน นาฬิกาอะนาล็อกแบบรุ่นปัจจุบันนั้นถูกเอาออกไป และในส่วนของปุ่ม Touchpad บริเวณฐานคอนโซลก็ถูกเอาออกไป คาดว่าน่าจะย้ายไปทำงานร่วมกับปุ่ม Comand เลย ทำให้ฐานเกียร์ดูสะอาดตาขึ้น

   และจากภาพแอบถ่ายภาพนอกล่าสุด ก็ได้เห็นการพรางบริเวณกันชนหน้าแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยสับขาหลอกวิ่งทดสอบโดยใช้กันชนเดิม ซึ่งการออกแบบกันชนหน้านั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดเพราะพรางไม่ให้เห็นรายละเอียดเลย ก็คาดว่าน่าจะนำเอาแนวการออกแบบจากรุ่นพี่มาประยุกต์ให้เข้ากับ C-Class มากขึ้น และนอกจากนั้นก็จะเห็นถึงรายละเอียดไฟหน้าใหม่แบบ Multi-beam LED

   ทางด้านขุมพลังนั้นจะมากับขุมพลังใหม่แบบโมดูล่าร์และเครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียงใหม่ที่มีแผนจะเปิดตัวปีหน้าพร้อมกับ S-Class Minor Change

   Mercedes-Benz C-Class Minor Change จะมีการเปิดตัวในตลาดโลกช่วงปีหน้า หรืออย่างช้าต้นปี 2018 ครับ

ที่มา Motor1.com

มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

แอบถ่ายล่าสุดกับว่าที่ตัวตายตัวแทน Mitsubishi ASX / Outlander Sport

   ค่าย Mitsubishi ได้ทำการซุ่มทดสอบรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดหรือ B-SUV มาพอสมควรแล้ว และภาพเหล่านี้คือภาพชุดล่าสุดของตัวตายตัวแทน Mitsubishi ASX หรืออีกชื่อ Outlander Sport นั่นเอง ซึ่งก็มีรูปให้เห็นทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารกันเลยทีเดียว

  โดยรถคันนี้จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นแบบ XR-PHEV ที่เปิดตัวในปี 2013 และต้นแบบ XR-PHEV II ที่เปิดตัวในปี 2015 เมื่อดูตัวรถก็เห็นได้ชัดว่าจะนำเอาแนวการออกแบบจากรถต้นแบบมา แต่ก็มีการลดทอนความหวือหวาจากต้นแบบมาพอสมควร ด้านหน้าของรถนั้นจะใช้แนวการออกแบบ Dynamic Shield เช่นเดียวกับ Pajero Sport และ Outlander แนวเส้นสายตัวรถจะลาดเอียงขึ้นไปจนถึงบั้นท้ายที่ดูแปลกตาและน่าจะล้ำไม่น้อยเลย

   และคราวนี้ก็ได้มีภาพภายในห้องโดยสารออกมาให้ได้รับชม ซึงจะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างทันสมัยและแปลกตากว่าเดิม ติดตั้งหน้าจอสัมผัสไว้ส่วนบนของระบบปรับอากาศ มองๆแล้วก็แอบนึกถึงคอนโซลของ Lexus NX ไม่น้อย

   คาดว่าขุมพลังนั้นจะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ และ Plug-In Hybrid ทั้งสองขุมพลังนั้นจะมีให้เลือกแค่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่นพลังงานไฟฟ้าเพียวๆนั้นยังคงเป็นข่าวลืออยู่ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าอนาคตจะมีมาหรือไม่

Mitsubishi XR-PHEV 2013
Mitsubishi XR-PHEV II 2015
   และอีกเวอร์ชั่นที่น่าติดตามก็คือเวอร์ชั่นสมรรถนะสูงที่อาจติดป้าย "Evo" ซึ่งก็คงต้องรอดูผลตอบรับของรถรุ่นนี้กันก่อน ที่อาจจะมากับขุมพลัง Plug-In Hybrid รวมทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

   คาดว่า Mitsubishi ตัวตายตัวแทนของ ASX / Outlander Sport จะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดภายในงาน Geneva Motor Show 2017 ช่วงเดือนมีนาคม และวางตัวเป็นคู่แข่งของ Toyota C-HR , Mazda CX-3 , Honda HR-V และคู่แข่งอีกหลายรุ่นครับ และมารอดูกันครับว่า Mitsubishi เมืองไทยจะสนใจเอารถรุ่นนี้มาขายในไทยหรือไม่ ต้องติดตาม

ที่มา Carscoops
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Lotus Exige Sport 380 อีกหนึ่งตัวแรงดิบเถื่อนจากแดนผู้ดี

  ค่ายรถสปอร์ตแดนผู้ดีอย่าง Lotus ที่ยังคงเอาของเก่าที่มีอยู่เดิมมาปรับแต่งสมรรถนะขายไปเรื่อยๆ ก่อนที่รถโฉมใหม่หมดจดมีแผนเปิดตัวในปี 2020 ล่าสุดพวกเขาได้ทำการเปิดตัว Lotus Exige Sport 380 สปอร์ตตัวแรงน้ำหนักเบาที่ปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นยิ่งกว่าเก่า

   ภายนอกตกแต่งให้ดูสปอร์ตดุดันยิ่งขึ้นด้วยโทนชิ้นส่วนสีดำ-แดงรอบคัน อีกทั้งชิ้นส่วนหลายชิ้นนั้นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหลังคา ช่องระบายอากาศด้านข้าง หรือช่องระบายอากาศเครื่องยนต์ด้านท้าย รวมทั้งท่อไอเสียที่ทำจากไทเทเนียม ส่งผลให้น้ำหนักรวมของตัวรถอยู่ที่ 1,110 กก. เท่านั้น ส่วนภายในห้องโดยสารก็จะมาแบบเปลือยๆดิบเถื่อนในสไตล์รถแข่ง

   สำหรับขุมพลังนั้น รถคันนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์จาก Toyota นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ V6 ที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมให้มีพละกำลังเป็น 380 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 410 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 286 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นมาตรฐาน ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดมีให้เลือกเป็นออปชั่น



   นอกจากนี้ Lotus ยังมีระบบ Lotus's Dynamic Performance Management System ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกทั้งโหมด Sport และ Race ซึ่งจะช่วยในเรื่องการตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้นและควบคุมไม่ให้ล้อหมุนฟรี Lotus Exige Sport จะมากับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้วที่ด้านหน้า และ 18 นิ้วที่ด้านหลัง สวมด้วยยาง  Michelin Pilot Sport 2

    Lotus Exige Sport 380 จะวางจำหน่ายในอังกฤษราคาเริ่มต้นที่ 67,900 ปอนด์ (หรือประมาณ 2,989,000 บาทไทย) ครับ

ที่มา Motor1.com
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

BMW 1-Series Sedan ซีดานคันเล็กสำหรับตลาดแดนมังกร

  ในงาน  2016 Guangzhou Auto Show ของประเทศจีน ค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW ได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เอาใจตลาดจีนโดยเฉพาะ นั่นคือ  BMW 1-Series Sedan ซีดานรุ่นเล็ก 4 ประตูที่พัฒนาขึ้นบน Global Platform หวังเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่

   Jochen Goller ประธานฝ่ายอาวุโสฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดของ  BMW Brilliance automotive Ltd  บอกว่า BMW 1-Series Sedan ถือเป็นรถในค่าย BMW ที่เล็กที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในค่าย (ไม่นับ MINI) และพวกเขาเชื่อมั่นว่ารถคันนี้มาในเวลา สถานที่ และเพื่อลูกค้าที่เหมาะเจาะ

กล่าวคือ ตลาดรถยนต์ในกลุ่ม Premium Compact กำลังเติบโตมากขึ้น ทำให้ "มาในเวลาที่เหมาะเจาะ" และรถคันนี้มีเป้าหมายจะเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวจีนอันจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของพวกเขาทำให้ "มาในสถานที่ที่เหมาะเจาะ" อีกทั้งยังพัฒนารถคันนี้เป็นพิเศษเพื่อ "กลุ่มลูกค้าดังกล่าวโดยเฉพาะ" ด้วย

   ดีไซน์ภายนอกค่อนข้างสวยงามลงตัวตามสไตล์ BMW มากับชุดไฟหน้าทรงสวยรายละเอียดข้างในเป็นวงแหวนแบบ LED พร้อมกระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์  ด้านท้ายมากับชุดไฟท้ายทรงตัว L นอกจากนี้ตัวรถมีการออกแบบให้มีระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าที่สั้น

   ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์เรียบร้อยไม่หวือหวา ติดตั้งหน้าจอ LED ตรงกลางขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุม iDrive , จอ Head-Up แบบสี ,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซนซ้าย-ขวา และ ตกแต่งด้วยหนังรอบคัน

   BMW ยังไม่ประกาศการแบ่งการตกแต่งของรถว่ามีเกรดไหนบ้าง เพียงแต่บอกว่า 1-Series Sedan จะติดตั้งระบบเตือนการเปลี่ยนเลน Lane Departure Warning , ระบบเตือนการชน Collision Warning , ระบบช่วยเตือนคนเดินเท้า Pedestrian Warning และ ฟังก์ชันความช่วยเหลือฉุกเฉิน Emergency Assistance function

   สำหรับขุมพลังนั้นน่าจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic นอกจากนี้ตัวรถจะมีการติดตั้งระบบ Start/Stop และเบรกมือไฟฟ้า มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Comfort / Sport / Eco Pro มากับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 5.5 ลิตร/100 กม. (18.18 กม./ลิตร)

   BMW 1-Series Sedan น่าจะมีจำหน่ายเฉพาะตลาดจีนเท่านั้น ส่วนตลาดอื่นรวมทั้งประเทศไทยไม่น่าจะมีขายครับ

ที่มา Carscoops
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ชมโฉม MG ZS รถอเนกประสงค์ผู้เป็นน้องของ MG GS

  ค่ายรถอังกฤษอย่าง MG ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ SAIC ประเทศจีน ที่ล่าสุดได้ทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ "MG ZS" รถอเนกประสงค์รุ่นน้อง MG GS ภายในงาน 2016 Guangzhou Auto Show โดย MG ZS จะถูกวางตำแหน่งทางการตลาดที่ต่ำกว่า MG GS 

ภาพจาก Autocar
   ดีไซน์ภายนอกนั้นมีแนวการออกแบบที่ค่อนข้างแปลกและโดดเด่นกว่า MG รุ่นอื่นๆ และอาจจะมีกลิ่นอายจากรถค่ายอื่นๆมาผสมผสานในรถคันนี้ ไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่รายละเอียดภายในโคมนั้นมีคนเอาไปเทียบกับ Mazda CX-5 กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ พร้อมกันชนหน้าทรงสวยซึ่งดูเข้ารถด้านหน้ารถเอามากๆ เส้นสายด้านข้างนั้นมีความคล้ายคลึงกับ Hyundai Tucson เจเนเรชั่นที่แล้ว จะมาแนวโฉบเฉี่ยวน่าจับตามอง ในส่วนของด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้าย LED เมื่อมองๆด้านท้ายก็แอบนึกถึง Renault เหมือนกัน

ภาพจาก http://www.carnewschina.com/2016/11/09/mg-teases-new-zs-suv-for-the-guangzhou-auto-show-in-china/
  เนื่องจากว่าตัวรถติดฟิล์มดำทึบจึงมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดภายในห้องโดยสารให้เห็น ก็ทำให้รู้ว่าภายในห้องโดยสารจะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างทันสมัยและหรูหรา จัดวางปุ่มต่างๆให้ใช้งานง่ายกว่ารุ่นพี่อย่าง MG GS พอสมควร ชุดพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ที่ดูดีขึ้น คอนโซลหน้าจะมากับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ราวๆ 8-9 นิ้วได้ สำหรับเบรกมือนั้นยังคงใช้เบรกมือแบบธรรมดา ยังไร้เงาซึ่งเบรกมือแบบไฟฟ้า

   คาดว่า MG ZS จะถูกขับเคลื่อนด้วย 2 ขุมพลัง ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พละกำลัง 120 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตรเทอร์โบ 3 สูบ มากับพละกำลัง 125 แรงม้า พร้อมแรงบิด 170 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด หรือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

   MG ZS จะเริ่มวางขายที่ประเทศจีนก่อนช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ในราคาค่าตัวตั้งแต่ 80,000-120,000 หยวน (ประมาณ 412,000-618,000 บาท *พิมพ์ไม่ผิดจริงๆ แปลงค่าเงินหยวนแล้วได้เท่านี้จริงๆ) ส่วนตลาดอังกฤษนั้นจะนำเข้ามาจำหน่ายช่วงปลายปี 2017 และสำหรับประเทศไทยนั้นก็มีโอกาสสูงที่รถคันนี้จะถูกนำเข้ามาขาย ซึ่งถ้ามาขายจริงๆก็ไม่น่าเกินปี 2017-2018 ครับ
 
ที่มา Carnewschina
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

All-New BMW X7 ว่าที่ SUV เรือธง 7 ที่นั่ง กับการทดสอบครั้งแรก

  การเปลี่ยนโฉมแบบสายฟ้าแลบของ BMW X5 ทั้งๆที่อายุในตลาดแค่ 3 ปีกว่าๆนับว่ารวดเร็วมากๆ เหตุผลนั้นไม่ใช่ว่า X5 ขายไม่ออกหรือมีจุดด้อยเยอะจนต้องรีบเข็นโฉมใหม่ออกมา แต่เป็นเพราะว่าต้องการให้  X5 เจเนเรชั่นใหม่จะใช้แพลตฟอร์มใหม่ เพื่อปูทางให้กับรถ SUV เรือธงรุ่นใหม่อย่าง BMW X7 ด้วยนั่นเอง และล่าสุดก็มีตากล้องมือดีถ่ายภาพรถทดสอบของ BMW X7 ได้เรียบร้อยแล้ว

  เนื่องด้วยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทดสอบ ทำให้เรายังคงเห็นตัวรถพรางอย่างมิดชิดทั้งบริเวณไฟหน้าและไฟท้าย แต่อย่างน้อยจะเห็นได้ชัดถึงกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่ดูโดดเด่น และเส้นสายด้านข้างทำให้รู้ว่ามันสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ X5 โฉมใหม่แน่นอน แต่จะมีความยาวตัวรถที่ยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้ง X5 และ X7 โฉมใหม่จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มล่าสุด CLAR ที่ถูกใช้ใน 7-Series และ 5-Series เจเนเรชั่นใหม่มาแล้วนั่นเอง

   คาดว่า BMW X7 จะถูกวางตำแหน่งความหรูเทียบเท่ากับ 7-Series และจะมากับภายในห้องโดยสารที่หรูหรารองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน และยังมีแผนจะทำรุ่นที่หรูหราขึ้นไปอีกและที่นั่งแบบพิเศษ 4 ที่นั่ง

   ตอนนี้รายละเอียดตัวรถยังไม่มีออกมามากเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์และราคาซึ่งยังเร็วไปที่จะพูดถึงตอนนี้ คาดว่า BMW X7 น่าจะเปิดตัวราวๆปี 2018 ครับ และแน่นอนว่าจะต้องเปิดตัวตามหลัง X5 ใหม่

ที่มา Motor1.com
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 

Like Box