วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เจาะข้อมูล Toyota Yaris & Yaris ATIV เตรียมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เอาใจลูกค้า

  หลังจากที่การเปิดตัว Toyota Yaris ATIV อีโคคาร์ซีดานน้องใหม่และปรับโฉมครั้งใหญ่ Toyota Yaris Hatchback ซึ่งช่วยสร้างยอดขายรถจากที่ขายดีอยู่แล้วให้ขายดีเป็นกอบเป็นกำขึ้นไปอีก และล่าสุดผมก็เพิ่งได้รับข่าวจากวงในว่าคู่หูอีโคคาร์คันเก่งจากค่าย Toyota เตรียมแนะนำรุ่นย่อยใหม่เอาใจลูกค้าและตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้ยิ่งขึ้น

  เริ่มที่ Toyota Yaris Hatchback ที่จะมีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ "G+" ซึ่งเป็นรุ่นย่อยใหม่ที่เหนือกว่ารุ่น G ที่เป็นตัวท็อปในปัจจุบันนี้ โดยจะมีสิ่งที่เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงจากตัว G ดังนี้
1. กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา
2. กระจกมองข้างสีดำเงา
3. ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วปัดเงาแบบทูโทน
4. วัสดุตกแต่งแผงควบคุมวิทยุและเครื่องปรับอากาศสีดำเปียโนแบล็ก
5. วัสดุตกแต่งหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำเปียโนแบล็ก
6. วัสดุตกแต่งแผงประตูบริเวณที่วางแขนหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
7. เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หุ้มหนังและหนังสังเคราะห์
8. วัสดุหุ้มฝาปิดกล่องเก็บของคอนโซลกลางหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
9. พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

นอกจากนี้ในรุ่น G+ จะมีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเครื่องเล่น CD DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ USB/HDMI/Micro SD และ Bluetooth ลำโพง 6 ตัว อีกด้วย

  เช่นเดียวกับ Toyota Yaris ATIV ที่จะมีการเพิ่มรุ่นย่อยเหนือกว่ารุ่น S ขึ้นไปอีก ในรุ่น "S+" ที่จะมีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงจากตัว S ดังต่อไปนี้
1. กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา
2. กระจังหน้าด้านล่างพร้อมแถบสีแดงสีดำเงา
3. วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกสีดำเงา
4. ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วปัดเงาแบบทูโทน
5. วัสดุตกแต่งแผงควบคุมวิทยุและเครื่องปรับอากาศสีดำเปียโนแบล็ก
6. วัสดุตกแต่งหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำเปียโนแบล็ก
7. เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หุ้มหนังและหนังสังเคราะห์

นอกจากนี้ Toyota Yaris ATIV จะมีการยกเลิกการจำหน่ายภายในสีเบจอีกด้วย ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆนั้นทั้งใน Yaris Hatchback และ ATIV ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

  การเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ของ Toyota Yaris Hatchback และ Yaris ATIV คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ชมภาพ Lexus RC Minor Change ก่อนเปิดตัวที่ปารีสต้นเดือนตุลาคมนี้

  เป็นเวลา 4 ปีแล้วที่สปอร์ตหรูค่ายญี่ปุ่น Lexus RC ได้เปิดตัวและวางจำหน่าย ดังนั้นจึงได้เวลาสำหรับการปรับโฉมกระตุ้นตลาดเพื่อเพิ่มความสดใหม่ของตัวรถ ซึ่งก็คือภาพที่ท่านเห็นอยู่นี้นั่นเอง

   การเปลี่ยนแปลงภายนอกที่เห็นชัดเจนก็คือ ด้านหน้าที่มาพร้อมกับโคมไฟหน้าทรงใหม่ที่มีไฟ LED ทรงบูมเมอแรงภายในโคม ไม่แยกเหมือนในรุ่นก่อนแล้ว กระจังหน้าของรถยังมีการออกแบบรายละเอียดตะแกรงระบายอากาศใหม่ และออกแบบกันชนหน้าใหม่ด้วย เช่นเดียวกับด้านท้านที่มีการออกแบบโคมไฟท้ายใหม่และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่

  ทาง Lexus ยังให้ข้อมูลว่า RC Minor Change มีการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ของรถ , ระบบช่วงล่าง รวมทั้งระบบส่งกำลังด้วย แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่ที่แน่ๆคือจะมีการติดตั้งล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยางแบบ Grippier ปรับปรุงช่วงล่างที่มาพร้อมกับโช้คอัพใหม่ซึ่งช่วยให้รถตอบสนองและเกาะถนนดีขึ้น

  เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่มีการตกแต่งกรอบช่องแอร์ใหม่และปรับปรุงหน้าจอใหม่อีกทั้งยังมีตัวเลือกการตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ด้วย ทางด้านขุมพลังยังไม่มีการปล่อยข้อมูลออกมา

   Lexus RC Minor Change จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนตุลาคมนี้ที่งาน Paris Motor Show 2018

ที่มา Carscoops

Nissan Navara N-Guard รุ่นตกแต่งพิเศษเจาะตลาดแดนผู้ดี

   Nissan ประเทศอังกฤษ ค่อนข้างมีความขยันออกรุ่นพิเศษมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น ล่าสุดทาง Nissan  ประเทศอังกฤษได้เปิดตัว Navara รุ่นย่อยสุดพิเศษใหม่ "N-Guard" ซึ่งได้รับการตกแต่งภายนอกและภายในห้องโดยสารให้มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น

   Nissan Navara N-Guard จะเน้นการตกแต่งภายนอกที่ดูเข้มขรึม โดยจะมากับกระจังหน้า, กรอบไฟตัดหมอก, กระจกมองข้าง, มือจับประตูและกันชนท้ายพ่นสีดำ นอกจากนี้แล้วยังมีบันไดข้างสีดำ , ราวหลังคาสีดำ , ไฟหน้ารมดำ , หลังคาซันรูฟ และ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพ่นสีดำอีกด้วย

   ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้ 3 สี ได้แก่ สีเทา Twilight Grey , สีดำ Metallic Black และสีขาว Storm White นอกจากนี้บริเวณด้านข้างตัวถังรถและกระบะท้ายยังมีการติดสติ๊กเกอร์เพิ่มความแตกต่างด้วย

  ภายในห้องโดยสารไม่มีภาพให้เห็น แต่ทาง Nissan อังกฤษระบุว่ามีการตกแต่งด้วยเบาะหุ้มหนังและผ้าสีเทาเข้มและสีเหลือง เดินด้ายตะเข็บสีเหลือง และยังมีพรมปูพื้นตกแต่งพิเศษด้วย

   อุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งก็จะเหมือนเช่น Navara รุ่นอื่นๆที่จำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น ที่ฉีดล้างไฟหน้า , ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist , ระบบช่วยควบคุมขณะลงทางชัน Hill Descent , ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking , กล้องมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor และอื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งที่แตกต่างเป็นพิเศษใน Nissan Navara N-Guard ก็คือชุดเฟืองท้ายด้านหลังแบบลิมิเต็ดสลิป

   ทางด้ายขุมพลังจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร dCi พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

   Nissan Navara N-Guard ใหม่เริ่มต้นที่ 28,075 ปอนด์ (ประมาณ 1.197 ล้านบาท ไม่รวมภาษี) ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 29,525 ปอนด์ (ประมาณ 1.259 ล้านบาท ไม่รวมภาษี) สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ เตรียมนำไปเปิดตัวครั้งแรกที่ Hannover Motor Show 2018

ที่มา Carscoops

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Lamborghini Aventador SVJ กระทิงดุตัวจี๊ดพลังแรง 770 แรงม้า / 0-100 กม./ชม. 2.8 วินาที

  ค่ายกระทิงดุแห่งแดนมักกะโรนี Lamborghini ได้ทำการเผยโฉม Lamborghini Aventador SVJ ซูเปอร์คาร์เวอร์ชั่นฮาร์ดคอร์ที่สุดในตระกูล Aventador เท่าที่เคยสร้างมา ยกระดับประสิทธิภาพต่างๆของรถให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังนำรถไปทดสอบวิ่งจับเวลาหลายต่อหลายรอบที่สนาม Nurburgring อีกด้วย

  ภายในห้องเครื่องของรถคันนี้จะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.5 ลิตร พละกำลังสู
สุด 770 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม. / ชม. ในเวลา 2.8 วินาที ทะยานจนไปถึง 200 กม./ชม.ในเวลา 8.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 350 กม./ชม.

  เช่นเดียวกับ Aventador S  ในรุ่น SVJ ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังของ Lamborghini เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำและเสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ISR 7 สปีดถ่ายทอดกำลังลงล้อที่หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa

  Lamborghini Aventador SVJ จะเป็นเวอร์ชั่นฮาร์ดคอร์รุ่นที่ 2 ต่อจาก Lamborghini Huracan Performante ที่ติดตั้งเทคโนโลยี Aerodinamica Lamborghini Attiva (ALA) เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งช่วยสร้างแรงกดมากกว่า 40% และยังสามารถควมคุมอากาศรอบๆคันรถเพื่อสร้างเป็นแรงกดขณะเร่งความเร็วหรือเข้าโค้งได้ด้วย

  ภายนอกของ Lamborghini Aventador SVJ ได้รับการออกแบบให้มีความดุดันยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้านหน้ามากับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ด้านข้างตกแต่งบริเวณช่องระบายอากาศใหม่ ในส่วนด้านท้ายมากับฝากระโปรงหลังพร้อมช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ กันชนท้ายที่มากับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์ดุดันและท่อไอเสียคู่ นอกจากนี้ยังมากับหลังคาที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์อีกด้วย

   Lamborghini Aventador SVJ จะผลิตจำนวนจำกัด 900 คันเท่านั้น ในราคาขาย 517,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,923,000 บาทไทย ยังไม่รวมภาษีสรรพสามิต

  หากใครคิดว่าคันนี้ยังพิเศษไม่พอ ทางค่าย Lamborghini ยังมีอีกรุ่นก็คือ "Aventador SVJ 63 " ที่ผลิตเพื่อเฉลิมฉลองในการก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 1963 ภายนอกมากับการตกแต่งด้วยโทนสีขาว ดำและทอง มีตัวเลข 63 บนตัวถังบ่งบอกความพิเศษ

ที่มา Carscoops

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Ferrari 488 Pista Spider ม้าลำพองตัวฮาร์ดคอร์เวอร์ชั่นรับลม

  ค่ายม้าป่าลำพองได้ทำการเปิดตัว Ferrari 488 Pista Spider ตัวแรงฮาร์ดคอร์เวอร์ชั่นเปิดประทุน เอาใจคนรักความแรงแต่ยังเปิดหลังคารับลมแบบฟินๆได้ด้วย

  ขุมพลังเหมือนกับเวอร์ชั่นคูเป้ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.9 ลิตร V8 พละกำลังสูงสุด 711 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.85 วินาที หากที่ถนนว่างเพียงพอ เจ้าของรถสามารถกดจาก 0-200 กม./ชม. ได้ในเวลาแค่ 8 วินาที ช้ากว่าเวอร์ชั่นคูเป้ 0.4 วินาทีเท่านั้น และยังสามารถไปต่อที่ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.

  Ferrari 488 Pista Spider จะมีน้ำหนักตัวถัง 1,377 กิโลกรัม หนักกว่าเวอร์ชั่นคูเป้ 91 กิโลกรัมอันเนื่องมาจากการเสริมความแข็งแรงของรถเพื่อทดแทนหลังคาที่หายไป อย่างไรก็ตามตัวรถยังคงมีน้ำหนักที่ยังคงเบาและรักษาการขับขี่อันน่าตื่นเต้นไว้ไม่ต่างจากตัวคูเป้เลย

  รูปลักษณ์ภายนอกจะออกแบบให้โหดขึ้นกว่า 488 GTB Spider รุ่นปกติ ซึ่งก็เป็นไปตามทิศทางของ 488 Pista ตัวถังคูเป้ แต่จะต่างที่สีตัวถังซึ่งจะเป็นสีขาวคาดด้วยสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีทางเลือกล้อพิเศษที่ทำจากคาร์บอรไฟเบอร์น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วเพื่อชดเชยกับน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

  สำหรับราคาค่าตัวของรถนั้นยังไม่มีการประกาศออกมา และยังไม่ทราบด้วยว่าจะเป็นรุ่นพิเศษจำกัดจำนวนหรือไม่

ที่มา Carscoops

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ชม Isuzu Concept X D-Max และ MU-X สองต้นแบบออฟโรดพันธุ์ดุ

   รถต้นแบบ Isuzu D-Max และ MU-X Concept X ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีความดุดันและเกรี้ยวกราดมากขึ้น โดยพัฒนาขึ้นภายใต้ทีม D-Max ประเทศออสเตรเลีย

  เริ่มที่ Isuzu Concept X D-Max ที่พัฒนาขึ้นจากกระบะ D-Max นั่นเอง ได้รับการออกแบบให้มีระยะความสูงจากพื้นรถเพิ่มเป็น 370 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังจะเป็นแบบมัลติลิงก์และ Shock Absorber

  ตัวรถจะมีมุมไต่ 49.7 และมุมจาก 38.5 องศา ขนาดจานเบรกอยู่ที่ 390 มิลลิเมตรที่ด้านหน้าและด้านหลัง 355 มิลลิเมตร มีลูกสูบ 6 สูบที่ด้านหน้าและ 4 สูบที่ด้านหลัง ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรแถวเรียง พละกำลัง 177 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเหมือนเดิม

  ภายนอกจะมากับกันชนหน้าสไตล์ออฟโรด ฝากระโปรงหน้าและซุ้มล้อดีไซน์พิเศษที่ทำจากเหล็กกล้า ทางด้านกระบะท้ายได้ออกแบบเป็นพิเศษทำจากอัลลอยและติดตั้งสปอร์ตบาร์ อีกทั้งยังมีรอกด้านท้ายที่สามารถรับน้ำหนักได้ 10,000 ปอนด์ (ประมาณ 4,536 กิโลกรัม) และยังมีล้อขนาด 12x20 นิ้ว หุ้มด้วยยางลุยโคลนขนาด 38 นิ้วจาก Toyo ติดสติ๊กเกอร์รอบคันเพิ่มความแปลกตาด้วย

  เช่นเดียวกับ Isuzu Concept X MU-X ที่มีการอัปเกรดภายนอกในรูปแบบเดียวกับ D-Max ต่างที่มุมจากของรถคันนี้จะอยู่ที่ 37.3 องศา

  ซึ่งทั้งหมดที่เห็นนี้ยังคงเป็นรถต้นแบบเท่านั้น ไม่ได้พัฒนาขึ้นโดยทาง Isuzu เอง และยังไม่มีแผนในการพัฒนาผลิตวางขายอีกด้วย แต่ในเมื่อตอนนี้ Ford ก็ทำออฟโรดพันธุ์โหดอย่าง Ranger Raptor ออกมาแล้ว ก็เชื่อว่าทาง Isuzu อาจจะรอดูฟีดแบ็กก่อนก็ได้ เกิด Ford ทำยอดปังขึ้นมา ค่ายอื่นๆรวมทั้ง Isuzu ก็คงทำตามๆกันออกมา ก็ต้องติดตามต่อไป

ที่มา Carscoops 

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เผยโฉม All-New BMW Z4 สปอร์ตโรดสเตอร์มาดใหม่จากค่ายใบพัด

  สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวกใบพัดฟ้าขาวเมื่อทาง BMW ได้ทำการเผยโฉม All-New BMW Z4 สปอร์ตโรดสเตอร์โฉมใหม่ที่อิงโฉมมาจากต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง

    All-New BMW Z4 รุ่นที่เห็นในภาพคือ M40i ถือว่าเป็นรุ่นท็อปออฟเดอะไลน์ของ Z4 โฉมใหม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะมีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างเกรี้ยวกราดและดุดัน ภายนอกจะมากับกระจังหน้าไตคู่ที่ดูกว้างขึ้นพร้อมลวดลายกระจังหน้าแบบตะข่าย ซึ่งดีไซน์ถือว่าแปลกใหม่กว่า BMW หลายๆรุ่นพอสมควร กันชนหน้าดีไซน์ดุดันสอดรับกับด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมากับไฟหน้าทรงใหม่ที่มีหลายคนแอบแซวว่าคล้ายรถเล็กญี่ปุ่นบางค่ายอีกด้วย

  หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจก็คือ การกลับมาใช้หลังคาแบบผ้าใบอีกครั้ง หลังจากที่รุ่นก่อนหน้านี้ใช้หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ การกลับมาใช้หลังคาผ้าใบยังส่งผลต่อเรื่องน้ำหนักที่ลดลงอีกด้วย

  ส่วนด้านท้ายมากับโคมไฟทรงเรียวสวยงามซึ่งเป็นดีไซน์ตามแบบ BMW ยุคใหม่ พร้อมกับฝากระโปรงท้ายที่มีสปอยเลอร์ในตัว กันชนท้ายมีช่องระบายอากาศดีไซน์ดุดันและท่อไอเสียคู่

  ภายในของรถได้รับการออกแบบให้ทันสมัยและน่าใช้งานมากขึ้นตามสไตล์ BMW ยุคใหม่ ทางค่ายยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมาก แต่ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้มาตรวัดแบบดิจิตอลและมี หน้าจอดิจิตอล Head-Up Display ข้างบน พวงมาลัยทรงใหม่แบบ 3 ก้าน หน้าจอระบบ Infotainment ขนาดใหญ่ขึ้น จัดวางปุ่มต่างๆให้ดูน้อยลงพร้อมกับปุ่ม iDrive กลางคอนโซลเหมือนเคย ภายในตกแต่งด้วยวัสดุเมทัลลิกและยังมีแป้นคันเร่ง/เบรกทำจากสแตนเลสด้วย

  ทางด้านขุมพลังนั้น ทาง BMW ได้เปิดเผยข้อมูลขุมพลังในรุ่น M40i ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 พละกำลังสูงสุด 335 แรงม้า ส่งผลให้รถทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ในเวลา 4.4 วินาที นอกจากนั้นแล้วจะมีการติดตั้งระบบเบรก M Sport braking system และช่วงล่างแบบสปอร์ตที่สามารถปรับระดับโช้คอัพได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจของ Z4 M40i ก็คือมีสัดส่วนการกระจายน้ำหนักอยู่ที่ 50:50 และเฟืองท้ายด้านหลัง M Sport rear differential

  BMW จะมีการแนะนำรุ่นพิเศษ "Z4 M40i First Edition" จำนวนจำกัด จะมีความพิเศษคือ การใช้สีตัวถังสีส้มด้าน Frozen Orange metallic เหมือนรถต้นแบบเมื่อปีที่แล้ว , หลังคาผ้าใบสีดำ , กระจกมองข้างสีดำ , ชุดตกแต่งภายนอก BMW Individual High Gloss Shadow Line และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วน้ำหนักเบาสีทูโทน

  ภายในจะมากับเบาะหนังสีดำ Vernasca , ไฟ Ambient Light , ระบบเครื่องเสียงลำโพงพรีเมี่ยมจาก Harman Kardon นอกจากนั้นยังติดตั้งหน้าจอดิจิตอล Head-Up Display และ อื่นๆอีกเพียบ

  ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆเท่านั้น โดยทาง BMW จะปล่อยรายละเอียดของ All-New BMW Z4 เต็มๆอีกทีวันที่ 19 กันยายนนี้ และเริ่มวางขายตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือราวๆเดือนมีนาคม-เมษายนปีหน้า

ที่มา Carscoops

Like Box