วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Mercedes-Benz GLC Minor Change ปรับดีไซน์ภายนอกพร้อมเทคโนโลยีใหม่

  ค่ายดาวสามแฉก Mercedes-Benz ได้ทำการเผยโฉม Mercedes-Benz GLC Minor Change ออกมาให้ได้รับชมกันแล้ว ก่อนที่จะมีการเปิดตัวต่อสาธารณะชนภายในงาน Geneva Motor Show 2019 ที่จะจัดขึ้นเดือนมีนาคมนี้

  เห็นได้ชัดเจนว่าภายนอกของ Mercedes-Benz GLC รุ่น Minor Change มีการปรับดีไซน์ให้มีความใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง GLE มากขึ้น ซึ่งจะเป็นไปตามแนวทางของ Mercedes-Benz ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโคมไฟหน้าทรงใหม่ กระจังหน้าทรงใหม่ที่รับกับไฟหน้า ออกแบบกันชนดีไซน์ใหม่ โดยรวมแม้จะคล้ายกับรุ่นพี่แต่รุ่นน้องก็มีทรวดทรงที่ค่อนข้างละมุนกว่าพอสมควร

  ส่วนด้านท้ายมีการปรับรายละเอียดโคมไฟท้ายใหม่ให้คล้ายกับรุ่นพี่ GLE เช่นเดียวกัน และยังมีตัวเลือกล้ออัลลอยลายใหม่มาอีกด้วย

  ภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนตามแนวทางของ Mercedes-Benz ยุคใหม่เช่นกัน ซึ่งจะดูคล้ายกับการเปลี่ยนแปลงใน C-Class Minor Change นั่นเอง ด้วยชุดหน้าปัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว พวงมาลัยทรงใหม่ รวมทั้งหน้าจอตรงกลางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10.25 นิ้ว อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบInfotainment MBUX ที่มากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ซึ่งสามารถเริ่มสั่งการทำงานด้วยการพูดคีย์เวิร์ดคำว่า "Hey Mercedes" และตามด้วยคำสั่ง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ทัชแพดตรงคอนโซลกลางสำหรับควบคุมหน้าจอ

  เบื้องต้น Mercedes-Benz GLC Minor Change จะมีทางเลือก 3 เครื่องยนต์ (ตลาดสหรัฐฯจะมีให้เลือกแค่ GLC300 และ GLC300 4MATIC)ได้แก่
- GLC220d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 191 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร
- GLC300d 4MATIC เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 241 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC
GLC300 / GLC300 4MATIC เครื่องยนต์เบนซินรหัส M264 ความจุ 2.0 ลิตรเทอร์โบแบบแถวเรียง พละกำลังสูงสุด 255 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC รุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Mild Hybrid ที่มากับระบบไฟฟ้าขนาดเล็ก 48V ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและเรียกแรงบิดเพิ่มเติมอีก 150 นิวตัน-เมตรเมื่อต้องการใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งในด้วย

   ระบบความปลอดภัยก็คงยังจัดเต็มเช่นเดิม โดยมากับ ระบบช่วยรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า Active Distance Assist Distronic, ระบบช่วยบังคับเลี้ยว Active Steering Assist, ระบบช่วยเตือนการขับรถให้อยู่ในช่องเดินรถ Active Lane Keeping Assist, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Active Blind Spot Assist และระบบเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเกิดเหตุคับขัน Active Lane Change Assist

  Mercedes-Benz GLC Minor Change ยังมากับ Dynamic Select system ที่ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และช่วยให้ปรับเซ็ตตั้งค่ารถเพื่อให้เข้ากับสภาพถนนได้อย่างลงตัวขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ Sport และ Sport+

  สำหรับเมืองไทยนั้นคาดว่า Mercedes-Benz GLC Minor Change คงจะมีการเปืดตัวเอาใจลูกค้าชาวไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งสาวกก็ต้องติดตามกันต่อไป 

ที่มา Mercedes-Benz / Carscoops


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Volvo XC90 Minor Change ปรับโฉมเล็กน้อย เน้นปรับปรุงสมรรถนะใหม่

  ค่ายรถหรูสวีเดน Volvo ได้ทำการแนะนำ Volvo XC90 รุ่นปรับอุปกรณ์ใหม่ ที่ได้ทำการปรับปรุงโฉมเล็กน้อย และปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่เป็นระบบ Mild Hybrid ตามรอยผู้ผลิตค่ายอื่นๆ ซึ่งส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษได้มากขึ้น

  โดยระบบ Mild Hybrid เหล่านี้จะติดตั้งในเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีจำหน่ายอยู่ทั้งในรุ่นดีเซลและเบนซิน โดยมีการแนะนำระบบสำรองพลังงานจากการเบรก  Kinetic Energy Recovery Braking System (KEYS) ภายใต้โลโก้รุ่นย่อยใหม่ "B" ผลจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นส่งผลให้รถประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 15% และยังลดการปล่อยก๊าซมลพิษออกมาอีกด้วย

  ระบบ KEYS จะทำงานร่วมกับระบบเบรกไฟฟ้า (Brake-by-wire) ซึ่งจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษ โดยนำเอาพลังงานที่มาจากเบรกเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้ากลับเข้าไปในแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในรถ Volvo XC90 ที่จำหน่ายภายใต้รหัส "B" จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่มาเสริมตลาดร่วมกับรุ่น Plug-In Hybrid อย่าง T8 Twin Engine ที่มีจำหน่ายอยู่แล้วใน XC90 นั่นเอง

  ทางด้านรุ่น T8 Twin Engine เองก็มีการปรับปรุงสมรรถนะให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 420 แรงม้า จากเดิม 407 แรงม้า รวมทั้งติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 11.6 kWh จากเดิม 10.4 kWh และติดตั้งระบบ Brake-by-wire มาให้เช่นกัน 

  สำหรับการเปลี่ยนแปลงภายนอกรถไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก หลักๆก็มีการปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ เสริมแถบโครเมียมบริเวณกันชนหน้าเล็กน้อย เช่นเดียวกับรุ่น R-Design ที่มีการปรับดีไซน์กระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกล้ออัลลอยลายใหม่ รวมทั้งสีตัวถังใหม่

  เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่ไม่ได้ปรับอะไรมาก มีเพียงแค่การปรับดีไซน์หัวเกียร์ใหม่และลายไม้ดีไซน์ใหม่ สำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถจะมากับระบบ Sensus ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ และยังเพิ่มการรองรับ Android Auto เข้ามานอกจาก Apple CarPlay ที่มีอยู่แล้ว และยังรองรับแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify ด้วยเช่นกัน

  ทางด้านระบบความปลอดภัยของรถ แน่นอนว่า Volvo ยังคงจัดเต็มเช่นเคย ด้วยระบบระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ในเมือง City Safety และระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information System ทาง Volvo ยังอ้างว่าระบบ City Safety ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัตินั้นยังคงเป็นระบบเดียวในตลาดที่สามารถตรวจจับได้ทั้งคนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน รวมทั้งสัตว์ขนาดใหญ่ได้ด้วย

  ในขณะเดียวกัน Volvo ยังแนะนำ ระบบการบังคับพวงมาลัยเพื่อหลบรถวิ่งสวน (Oncoming Lane Mitigation) หลังจากที่แนะนำแล้วใน XC60 โฉมล่าสุด อีกทั้งยังมีระบบเตือนเมื่อรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Cross Traffic Alert system ที่ทำงานร่วมกับระบบหยุดรถอัตโนมัติ

  Volvo XC90 Minor Change จะเริ่มผลิตในเดือนพฤษภาคมนี้ที่โรงงานทอร์สแลนด์ในสวีเดน และเริ่มเปิดจองให้กับลูกค้าทั่วโลกแล้ว ส่วนเมืองไทยจะมีการเปิดตัวเมื่อไหร่นั้นก็ต้องติดตามต่อไป

ทึ้มา Carscoops
  



ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ส่องโฉมกระบะจาก Peugeot ใช้พื้นฐานกระบะจีน Changan Kaicene F70

   ผุู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส PSA Group และผู้ผลิตจีน Changan Automobile วางแผนที่จะเปิดตัวรถกระบะ Peugeot คันใหม่เอาใจตลาดจีนโดยเฉพาะ ซึ่งกระบะที่ว่าจะใช้พื้นฐานของกระบะจีนอย่าง Changan Kaicheng F70 รูปโฉมจะเป็นอย่างไรเชิญชมได้เลยครับ

  ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยสื่อจีนอย่าง Autohome ซึ่งจะเห็นว่าดีไซน์ภายนอกกระบะฝรั่งเศสเชื้อจีนคันนี้จะมีการปรับงานดีไซน์ด้านหน้าใหม่ทั้งหมดให้แตกต่างจากต้นฉบับ ทั้งในส่วนของฝากระโปรงหน้า กันชนหน้าและกระจังหน้าที่ดีไซน์ตามแนวทางของ Peugeot ยุคใหม่ ส่วนการออกแบบที่จุดอื่นๆนั้นยังคงเหมือนกับต้นฉบับ

  เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่มีภาพหลุดออกมา ถือว่ายังคงออกแบบตามเอกลักษณ์ของ Peugeot โดยจะมากับหน้าจอทรงแท็บเล็ตขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นตรงกลางและมีปุ่มควบคุมที่ดูทันสมัย

    สำหรับรายละเอียดของกระบะจีน Changan Kaicheng F70 จะมากับความยาว 5,330 มิลลิเมตร กว้าง 1,875 มิลลิเมตร สูง 1,930 มิลลิเมตร และมากับฐานล้อยาว 3,180 มิลลิเมตร ซึ่งกระบะ Peugeot ก็คงไม่หนีไปจากนี้มากนัก โดยขุมพลังของกระบะจีนคันนี้จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร พละกำลังสูงสุด 152 แรงม้า

  เบื้องต้นกระบะ Peugeot คันนี้จะวางจำหน่ายในตลาดจีนเท่านั้น ยังไม่มีแผนจำหน่ายในตลาดโลก

ที่มา Carscoops
  


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ชม Audi SQ5 TDI อเนกประสงค์พลังแรง มาพร้อมขุมพลังดีเซล Mild-Hybrid

   ค่ายสี่ห่วง Audi ได้ทำการแนะนำ Audi SQ5 ที่นำเสนอทางเลือกขุมพลังใหม่นอกจากเครื่องเบนซิน นั่นก็คือ ขุมพลังดีเซลใหม่แบบ Mild-Hybrid 

  เครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องดีเซล 3.0 ลิตร V6 แบบ Mild-Hybrid และมีระบบ Electric Powered Compressor (EPC) ที่ช่วยสร้างแรงบิดอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการรอรอบ อีกทั้งยังมาในรอบที่ต่ำและส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นอีกด้วย

  โดยเครื่องบล็อกนี้จะมากับพละกำลัง 347 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Quattro มีการติดตั้งระบบ self-locking center differential ที่ช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังเพลาหลังได้ถึง 85% หรือมากถึง 70% ที่เพลาหน้า แต่ในสภาวะการขับขี่ปกติจะมีการกระจายกำลังในอัตราส่วน 40:60 ที่เพลาหน้าและหลัง

  SQ5 TDI ยังมากับระบบช่วงล่างแบบ 5-Link ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อเฟืองท้ายแบบสปอร์ตสำหรับเพลาล้อหลังซึ่งช่วยในการกระจายแรงบิดให้กับเพลาหลังอย่างต่อเนื่องขณะเข้าโค้ง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อพวงมาลัยแบบ Dynamic พร้อมกับล้อขนาด 21 นิ้ว (มาตรฐานจะเป็น 20 นิ้ว) และสั่งซื้อเทคโนโลยีรวมทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆได้อีกด้วย

  ภายนอกจะติดตั้งกันชนหน้าใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้น กระจังหน้าที่ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมและเสริมด้วยโลโก้ SQ5 นอกจากนี้ยังมีไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เป็นมาตรฐาน มีสัญญาณไฟเลี้ยวแบบ Dynamic Turn Signals และมีสีตัวถังแบบพิเศษสีดำ Panther Black ให้เลือก

  ห้องโดยสารนั้นตกแต่งด้วยโทนสีเข้มและเสริมด้วยโลโก้ S, กาบบันไดพร้อมไฟเรืองแสง , เบาะหนังแท้และเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ตกแต่งด้วย Alcantara , แป้นคันเร่งและเบรกอะลูมิเนียม ลูกค้ายังสามารถอัปเกรดเป็นหนัง Nappa ที่มีรูปแบบการตัดเย็บเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และเลือกตกแต่งรอบคันด้วยลายไม้หรือคาร์บอนไฟเบอร์ก็ได้แล้วแต่ชอบ

   Audi SQ5 TDI ใหม่จะมีราคาเริ่มต้นที่ 67,750 ยูโร หรือประมาณ 2,407,000 บาท ไม่รวมภาษีสรรพสามิตในไทย โดยรถจะมาถึงดีลเลอร์ในช่วงกลางปีนี้

ที่มา Carscoops


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ชมภาพรถทดสอบ All-New Nissan Juke ยังคงรักษาความแปลกแหวกแนวไว้เช่นเคย

  เชื่อว่าหลายคนน่าจะติดตามข่าวสารของ Nissan Juke รถครอสโอเวอร์ดีไซน์ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ซึ่งแน่นอนว่าสมควรแก่เวลาสำหรับการเปิดตัวเจเนเรชั่นใหม่แล้ว และล่าสุดก็มีสื่อสามารถจับภาพรถทดสอบของ All-New Nissan Juke เจเนเรชั่นที่ 2 ได้แล้ว

   และแม้ว่ารถทดสอบที่เห็นดังต่อไปนี้นั้นจะมีการอำพรางตัวค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร แต่เมื่อพิจารณาจากรูปทรงก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าต้องเป็น All-New Nissan Juke แน่ๆ ด้วยทรวดทรงที่ดูผิวเผินแล้วไม่ค่อยต่างจากรุ่นปัจจุบันมากนัก ด้านหน้าของรถยังคงดีไซน์ที่แปลกตาโดยมากับไฟหน้าแบบ 3 ชั้นอย่างรุ่นปัจจุบัน ซึ่งจะประกอบด้วยไฟ Daytime Running Lights , ไฟหน้าหลัก และ ไฟตัดหมอก อีกทั้งยังมากับกระจังหน้า V-Motion อันเป็นเอกลักษณ์

  แม้ทรวดทรงตัวถังจะดูไม่ต่างจากเดิม แต่จะเห็นว่ากรอบประตูหน้า-หลังมีการปรับดีไซน์ใหม่ ย้ายตำแหน่งกระจกมองข้าง และออกแบบกรอบหน้าต่างประตูท้ายรวมถึงที่บริเวณที่เปิดประตูให้ดูมีเหลี่ยมสันขึ้น อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะอยู่ในส่วนของไฟท้ายที่เปลี่ยนจากทรงบูมเมอแรงแบบรุ่นปัจจุบันมาเป็นโคมไฟท้ายทรงแนวนอนเหมือนรุ่นพี่อย่าง Nissan Qashqai

 ส่วนภายในห้องโดยสารยังไม่มีภาพถ่ายออกมา แต่เมื่อสังเกตบริเวณแดชบอร์ดเมื่อมองจากภายนอก จะเห็นชุดหน้าจอตรงกลางที่ดีไซน์ให้ลอยโดดเด่นอยู่บนคอนโซล ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเดินตามแนวทางการออกแบบคล้ายๆกับที่เห็นใน Nissan Altima โฉมล่าสุดที่ออกแบบจอสัมผัสแบบลอยเช่นกัน

   All-New Nissan Juke เจเนเรชั่นที่ 2 จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า CMF-B เหมือนที่ใช้ใน All-New Renault Clio โดยแพลตฟอร์มนี้สามารถรองรับการติดตั้งขุมพลังแบบไฟฟ้าล้วน รวมทั้งขุมพลังแบบไฮบริดและ e-Power ได้ด้วย ส่วนตัวเลือกเครื่องยนต์อื่นๆที่น่าจะถูกนำเสนอก็จะมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบและ 1.6 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ และเครื่องดีเซล 1.5 ลิตรเทอร์โบ

   ผลพวงจากการใช้แพลตฟอร์ม CMF-B จะส่งผลต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารของ Juke โฉมใหม่อีกด้วย โดยจะทำให้รถมีฐานล้อที่ยาวขึ้นเล็กน้อยและจะส่งผลต่อพื้นที่วางขาด้านหลังที่มากขึ้นนั่นเอง คาดว่า All-New Nissan Juke จะมีการเปิดตัวภายในช่วงปลายปีนี้ ส่วนชาวไทยจะมีโอกาสได้ใช้อีกหรือไม่ก็ต้องรอติดตาม


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ชมภาพกระบะปริศนา! หรือนึ่คือรูปโฉมของว่าที่ Ford Ranger เจเนเรชั่นใหม่!

  มีภาพหลุดจากทางสื่อออนไลน์ ซึ่งว่ากันว่านี่อาจจะเป็นต้นแบบของกระบะพันธุ์แกร่ง All-New Ford Ranger แต่จะใช่หรือไม่ใช่นั้นก็ต้องรอชม

  ภาพเหล่านี้มาจากอินสตราแกรมของ Wheels Magazine นิตยสารของออสเตรเลีย ที่สื่อดังกล่าวที่ระบุว่ารถกระบะที่เห็นในรูปนี้คือต้นแบบของกระบะ Ford Ranger เจเนเรชั่นใหม่ซึ่งถูกแอบถ่ายได้ที่เมลเบิร์น เมื่อพิจารณาจากรูปแล้วก็ถือว่าพลิกโฉมค่อนข้างเยอะพอสมควร

  ดีไซน์ด้านหน้าของรถกระบะคันนี้จะได้แรงบันดาลใจมาจากพี่ใหญ่อย่าง Ford Super Duty โฉมล่าสุด โดยมากับกระจังหน้าโครเมียมพร้อมแถบโครเมียมตรงกลางที่ลากเชื่อมระหว่างโคมไฟหน้า โดยรูปทรงของโคมไฟหน้าจะเป็นตัว C ออกแบบให้รับกับกระจังหน้า

  ในส่วนของด้านท้ายมีการออกแบบโคมไฟท้ายที่มีรายละเอียดที่ค่อนข้างล้ำสมัย พร้อมกับฝากระโปรงท้ายที่ออกแบบให้ดูมีมิติ กันชนท้ายโครเมียมที่ดูเพรียวบางเมื่อเทียบกับ Ford Ranger โฉมปัจจุบัน 
  
  อย่างไรก็ตามนั้นยังไม่ทราบชัดเจนว่ารถในรูปนี้จะเป็นต้นแบบกระบะ All-New Ford Ranger หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นรถในภาพอาจจะเป็นรถต้นแบบดินเหนียวและอาจจะเป็นดีไซน์ที่แสดงถึงการออกแบบคร่าวๆ แต่ยังออกแบบไม่เสร็จก็เป็นได้ 

  และแน่นอนว่ายังไม่มีการยืนยันจากทางการออกมา ดังนั้นรถที่เห็นนี้อาจจะเป็นของผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่ใช่ Ford อาจจะเป็นสำนักแต่งข้างนอกหรือไม่ก็เป็นกระบะจีนที่ลอกดีไซน์ Ford อีกข้อสังเกตที่เห็นก็คือ โครงตัวถังนั้นเหมือนจะยกมาจากรุ่นปัจจุบันแล้วปรับแต่งภายนอกใหม่
  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Ford ก็เริ่มเดินหน้าพัฒนา Ford Ranger เจเนเรชั่นใหม่แล้ว และที่สำคัญคือ Volkswagen จะมามีส่วนร่วมในการพัฒนาครั้งนี้ด้วยตามที่มีการประกาศออกมาช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยกระบะ Volkswagen Amarok เจเนเรชั่นใหม่ก็จะใช้พื้นฐานร่วมกับ Ford Ranger นั่นเอง ซึ่งกว่าจะได้เห็นก็คงอยู่ราวๆปี 2021-2022 ครับ

ภาพจาก IG : wheelsaustralia


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

Like Box