วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Nissan Ariya Concept ต้นแบบคันงามที่แสดงปรัชญาการออกแบบในอนาคตของค่าย

  ไม่นานมานี้ Nissan ได้ทำการแนะนำต้นแบบ Nissan Ariya Concept ภายในงาน Toyko Motor Show 2019  ซึ่งเป็นรถต้นแบบที “ส่งสัญญาณถึงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่” สำหรับค่าย Nissan เลยก็ว่าได้

  ผู้บริหารของค่ายบอกว่า รถต้นแบบคันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อกำหนดปรัชญาการออกแบบของแบรนด์ใหม่ซึ่งถือเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของรถในค่าย 

   Nissan Ariya Concept  จะได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Nissan IMx Concept ของงาน Tokyo Motor Show 2017 แต่ได้เสริมเติมแต่งองค์ประกอบของรถให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ที่ด้านหน้าคุณจะพบกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบทึบแต่ทำเป็นพื้นผิวลวดลายตะแกรงคล้ายๆกับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เสริมความเท่ด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 21 นิ้วขนาดพอดีซุ้ม นอกจากนี้ยังมีส่วนท้ายที่แตกต่างจากรถ SUV ทั่วไปเล็กน้อยเนื่องจากมีเสา C ที่มีความลาดเอียงสูง

  รองประธานอาวุโสด้านการออกแบบระดับโลกของ Nissan นาย Alfonso Albaisa กล่าวถึงแนวคิดต้นแบบคันนี้ว่า “การตกแต่งภายนอกของรถสร้างความสมดุลระหว่างความงามแบบไดนามิกและความคมชัดของเทคโนโลยีซึ่งมีสัดส่วนที่แสดงถึงสิ่งที่เป็นไปได้ด้วยแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของ Nissan ด้วยระยะช่วงด้านหน้าหรือระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นอย่างน่าประหลาดใจ ห้องโดยสารขนาดใหญ่ล้อขนาดใหญ่และโทนสีรถแบบทูโทนที่ได้รับการปรุงแต่ง ส่งผลให้มีต้นแบบคันนี้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามที่ผสมผสานทั้งความสมดุลระหว่างความสปอร์ตและหรูหรา

  Nissan ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของรถคันนี้ นอกเหนือจากการที่บอกว่ามีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ด้านหน้าและมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ด้านหลัง และติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ProPILOT 2.0 ของ Nissan ที่สามารถให้ขับรถแบบปล่อยมือได้ขณะขับรถในเลน

ที่มา Carscoops


 ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Mazda CX-5 MY2019 ปรับอุปกรณ์ พร้อมเพิ่มขุมพลังใหม่ 2.5 ลิตรเทอร์โบ

  Mazda ประเทศไทยได้ทำการเปิดตัว Mazda CX-5 รุ่นปรับอุปกรณ์ปี 2019 ที่ได้ทำการเพิ่มออปชั่นและความปลอดภัย และไฮไลต์คงจะหนีไม่พ้นการแนะนำขุมพลังใหม่ "2.5 Turbo"  


  รูปลักษณ์ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ความพิเศษในรุ่น 2.5 Turbo จะได้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลายใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้หลังคาซันรูฟจากเดิมที่มีแค่ดีเซลตัวท็อป XDL คราวนี้มีมาให้ในเบนซิน 2.0 ลิตรท็อป SP ด้วย และแน่นอนตัวท็อปสุด 2.5 Turbo SP ก็มีมาให้


  ภายในห้องโดยสารจะมีจุดที่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดแบบดิจิตอล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้วที่ให้มาตั้งแต่รุ่น 2.0 S ขึ้นไป, หน้าจอสี Certer Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับ Mazda Connect และรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ในรุ่น 2.5 Turbo SP จะมีการตกแต่งที่พิเศษเฉพาะรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red / ด้ายสีน้ำตาลเข้ม, พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ และตกแต่งเพิ่มเติมด้วยโครเมียมบริเวณแป้นพวงมาลัย, เพดานหลังคาสีดำ, ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ, ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation และอีกหลายรายการ

  Mazda CX-5 MY2019 จะมากับ 3 ขุมพลังทางเลือก ได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 พละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ชั้น พละกำลังเพิ่มเป็น 190 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที (ปรับใหม่ได้แรงม้าเพิ่ม 15 แรงม้า แรงบิดเพิ่มอีก 30 นิวตันเมตร)
- ใหม่! เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure ระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 พละกำลัง 231 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic

  Mazda CX-5 MY2019 ยังมีการติดตั้ง ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง  "G-Vectoring Control Plus" หรือ GVC Plus ที่ปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดจากระบบ GVC เดิม ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุลโดยเฉพาะทางโค้ง หรือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น
ขณะรถเข้าโค้ง : เครื่องยนต์จะลดแรงบิดลงเล็กน้อยให้เหมาะสมกับลักษณะของโค้ง ทำให้น้ำหนักรถถ่ายมายังล้อหน้าซึ่งเป็นล้อที่ควบคุมรถ ทำให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนมากขึ้น เข้าโค้งได้ดีและแม่นยำขึ้น
ขณะรถอยู่ในโค้ง : ระบบจะคืนแรงบิดให้สู่สภาวะปกติเพื่อให้ควบคุมการถ่ายน้ำหนักตัวรถให้อยู่ในสภาพสมดุลทั้งหน้าและหลัง ทำให้การแก้พวงมาลัยในโค้งเกิดขึ้นน้อยที่สุด
ขณะรถออกจากโค้ง : ระบบจะตรวจการหมุนพวงมาลัยของคนขับเพื่อคำนวณการเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อหน้าฝั่งนอกโค้ง เพื่อให้รถกลับคู่ทางตรงได้ง่ายขึ้น

สำหรับระบบความปลอดภัยนั้นยังคงจัดเต็มเช่นเคย
  • กุญแจนิรภัย (Immoblizer) และสัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด (รุ่น 2.0 S ขึ้นไป)
  • กล้องมองหลัง
  • ใหม่! ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360 View Monitor) (เกรด SP และ XDL)
  • ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-lighting System) (รุ่น 2.0 S และ XD)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) (เกรด SP และ XDL) 
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) (เกรด SP และ XDL) 
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance (Advance SCBS : Advanced Smart City Brake Support) (เกรด SP และ XDL) อัปเกรดใหม่จากระบบ SCBS เดิม
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) (เกรด SP และ XDL)
  • ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) (เกรด SP และ XDL)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) (เกรด SP และ XDL)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) (เกรด SP และ XDL)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System) (เกรด SP และ XDL)    
  • ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุดพร้อมไฟเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่ง
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • พวงมาลัยยุบตัวตามการทำงานของถุงลมนิรภัยและแป้นเบรกแบบยุบตัวได้
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
   Mazda CX-5 MY2019 ยังคงมีสีตัวถังให้เลือก 6 สีเช่นเดิม ได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal (เพิ่มเงิน 17,000 บาท), สีเทา Machine Gray (เพิ่มเงิน 15,000 บาท), สีขาวมุก Snow Flake White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท), สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue, สีบรอนซ์เงิน Sonic Silver และ สีดำ Jet Black 

  มีทางเลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่
- 2.0 C ราคา 1,300,000 บาท (+10,000 บาท)
- 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท (+10,000 บาท)
- 2.0 SP ราคา 1,560,000 บาท (+30,000 บาท)
- XD ราคา 1,570,000 บาท (+10,000 บาท)
- XDL ราคา 1,790,000 บาท (+20,000 บาท)
- 2.5 Turbo SP ราคา 1,850,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)

ข้อมูลสเปคและออปชั่น Mazda CX-5 MY2019
* มิติตัวถังภายนอก : ยาว 4,550 มิลลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,725 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร น้ำหนักรถ 1,382 กิโลกรัม
* มิติตัวถังภายนอก Sedan : ยาว 4,660 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,675-1,680 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 185-193 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร น้ำหนักรถ 1,570-1,717 กิโลกรัม
* ระบบเบรกหน้า : ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน / เบรกหลัง : ดิสก์เบรก
* ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียนพร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPAS
* ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทและเหล็กกันโคลง / ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร
* เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 พละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที

รุ่น 2.0 C ราคา 1,300,000 บาท
เทคโนโลยี
  • Skyactic-Vehicle Dynamics ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus)
  • ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP
  • สวิตซ์ Drive Selection
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED
  • ไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติและระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบธรรมดา
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับอัตโนมัติ และที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
  • ระบบหน้าต่างไฟฟ้า ปรับขึ้น-ลงแบบอัตโนมัติทั้ง 4 บาน
  • วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำ
  • สปอยเลอร์หลังและเสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตและปลายท่อไอเสียแบบโครเมียม
  • ล้ออัลลอยขนาด 17x7J พร้อมยาง 225/65 R17
  • ขนาดยางอะไหล่ 185/80 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • เบาะหนังสีดำ เดินด้ายสีน้ำตาล
  • เบาะนั่งด้านหน้า : เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า
  • เบาะนั่งด้านหลัง : พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมปุ่มควบคุมจากห้องเก็บสัมภาระ และ พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้
  • พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ
  • หัวเกียร์หุ้มหนังสีดำพร้อม พร้อมตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารสีเงิน Gun Metal
  • วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าสีดำเปียโน
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับกระจกมองข้างและกระจกไฟฟ้าสีดำ
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับเบาะ และที่เปิดกล่องเก็บของด้านหน้าสีดำ
  • เพดานหลังคาสีเทาอ่อน
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า (Windshield Active Driving Display)
  • มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อค พร้อมจอแสดงผลแบบสีขนาด 4.6 นิ้ว
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัฉริยะ (Push Start Button)
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ไฟอ่านแผนที่ ไฟในห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระแบบธรรมดา
  • แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และไฟส่องสว่าง
  • ช่องเก็บแว่นตา และช่องใส่เอกสารหลังพนักพิงเบาะคู่หน้า
  • ที่วางแก้วที่คอนโซลกลางและพนักวางแขนด้านหลัง
  • ที่วางขวดน้ำที่ประตูคู่หน้าและหลัง
  • ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่องบนพนักวางแขนเบาะหลัง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 3 ตำแหน่ง
  • แผ่นปิดสัมภาระด้านท้าย
  • หน้าจอสี Certer Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
  • รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • วิทยุ FM/AM
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่องและช่องเชื่อมต่อ AUX
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ (Bluetooth) และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition)
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย
  • กุญแจนิรภัย (Immoblizer) และสัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุดพร้อมไฟเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่ง
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • พวงมาลัยยุบตัวตามการทำงานของถุงลมนิรภัยและแป้นเบรกแบบยุบตัวได้
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
รุ่น 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท (เพิ่มเงิน 100,000 บาทจากรุ่น 2.0 C)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature
  • ไฟท้ายแบบ LED Signature
  • วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำเปียโน
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับมีระบบบันทึกตำแหน่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Metal Wood และสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับกระจกมองข้างและกระจกไฟฟ้าสีเงินซาตินโครม
  • ตกแต่งพนักวางแขนบนแผงประตูด้วยหนังสีดำและด้ายสีน้ำตาล
  • ตกแต่งด้านข้างคอนโซลกลางและฝาปิดช่องใส่ของคอนโซลกลางด้วยหนังสีดำและด้ายสีน้ำตาล
  • มาตรวัดแบบดิจิตอล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด
  • ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-lighting System) 
รุ่น 2.0 SP ราคา 1,560,000 บาท (เพิ่มเงิน 160,000 บาทจากรุ่น 2.0 S)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)
  • หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
  • ล้ออัลลอยขนาด 19x7J พร้อมยาง 235/55 R19 
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)
  • เครื่องเล่น CD/MP3/DVD
  • ระบบเครื่องเสียง Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)
  • ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360 View Monitor)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) 
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) 
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance (Advance SCBS : Advanced Smart City Brake Support)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
  • ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)    
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร
* เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ชั้น พละกำลังเพิ่มเป็น 190 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
รุ่น XD ราคา 1,570,000 บาท
เทคโนโลยี
  • Skyactic-Vehicle Dynamics ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus)
  • ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP
  • สวิตซ์ Drive Selection
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED
  • ไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติและระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED Signature
  • ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับอัตโนมัติ และที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
  • ระบบหน้าต่างไฟฟ้า ปรับขึ้น-ลงแบบอัตโนมัติทั้ง 4 บาน
  • วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำเปียโน
  • สปอยเลอร์หลังและเสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตและปลายท่อไอเสียแบบโครเมียม
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • เบาะหนังสีดำ เดินด้ายสีน้ำตาล
  • เบาะนั่งด้านหน้า : เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับมีระบบบันทึกตำแหน่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งด้านหลัง : พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมปุ่มควบคุมจากห้องเก็บสัมภาระ และ พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้
  • พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ
  • หัวเกียร์หุ้มหนังสีดำพร้อม พร้อมตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Metal Wood และสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าสีดำเปียโน
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับกระจกมองข้างและกระจกไฟฟ้าสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับเบาะ และที่เปิดกล่องเก็บของด้านหน้าสีดำ
  • ตกแต่งพนักวางแขนบนแผงประตูด้วยหนังสีดำและด้ายสีน้ำตาล
  • ตกแต่งด้านข้างคอนโซลกลางและฝาปิดช่องใส่ของคอนโซลกลางด้วยหนังสีดำและด้ายสีน้ำตาล
  • เพดานหลังคาสีเทาอ่อน
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า (Windshield Active Driving Display)
  • มาตรวัดแบบดิจิตอล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัฉริยะ (Push Start Button)
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ไฟอ่านแผนที่ ไฟในห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระแบบธรรมดา
  • แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และไฟส่องสว่าง
  • ช่องเก็บแว่นตา และช่องใส่เอกสารหลังพนักพิงเบาะคู่หน้า
  • ที่วางแก้วที่คอนโซลกลางและพนักวางแขนด้านหลัง
  • ที่วางขวดน้ำที่ประตูคู่หน้าและหลัง
  • ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่องบนพนักวางแขนเบาะหลัง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 3 ตำแหน่ง
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • แผ่นปิดสัมภาระด้านท้าย
  • หน้าจอสี Certer Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
  • รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • วิทยุ FM/AM
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่องและช่องเชื่อมต่อ AUX
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ (Bluetooth) และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition)
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย
  • กุญแจนิรภัย (Immoblizer) และสัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-lighting System) 
  • ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุดพร้อมไฟเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่ง
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • พวงมาลัยยุบตัวตามการทำงานของถุงลมนิรภัยและแป้นเบรกแบบยุบตัวได้
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
รุ่น XDL  ราคา 1,790,000 บาท (เพิ่มเงิน 220,000 บาทจากรุ่น XD)
เทคโนโลยี (เพิ่มเติมจากรุ่น XD)
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น XD)
  • หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น XD)
  • เครื่องเล่น CD/MP3/DVD
  • ระบบเครื่องเสียง Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น XD)
  • ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360 View Monitor)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) 
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) 
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance (Advance SCBS : Advanced Smart City Brake Support)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
  • ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)    
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรเทอร์โบ
รุ่น 2.5 Turbo SP ราคา 1,850,000 บาท (เพิ่มเงิน 290,000 บาทจากรุ่น 2.0 SP / เพิ่มเงิน 80,000 บาทจากรุ่น XDL)
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตร DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure ระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 พละกำลัง 231 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
เทคโนโลยี
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 SP / XDL)
  • ล้ออัลลอยขนาด 19x7J พร้อมยาง 235/55 R19 ดีไซน์พิเศษ
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 SP / XDL)
  • เบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red / ด้ายสีน้ำตาลเข้ม
  • พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ และตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณแป้นพวงมาลัย
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าสีดำเปียโนและสีเงินซาตินโครม
  • วัสดุตกแต่งสวิตซ์ปรับเบาะ และที่เปิดกล่องเก็บของด้านหน้าสีเงินซาตินโครม
  • ตกแต่งพนักวางแขนบนแผงประตูด้วยหนังสีแดง Deep Red และด้ายสีน้ำตาลเข้ม
  • ตกแต่งด้านข้างคอนโซลกลางและฝาปิดช่องใส่ของคอนโซลกลางด้วยหนังสีแดง Deep Red และด้ายสีน้ำตาลเข้ม
  • เพดานหลังคาสีดำ
  • ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า Seat Ventilation
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ
  • ไฟอ่านแผนที่ ไฟในห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระแบบ LED
  • ไฟบริเวณคอนโซลกลางแบบ Down Light
  • ไฟบริเวณที่วางเท้าหน้า-หลัง
  • ไฟในกล่องเก็บของด้านหน้า
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 SP / XDL)
  • ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น 2.0 SP / XDL
 ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2562

All-New Volkswagen Golf โฉมใหม่ของรถยอดนิยมระดับโลก

  ยักษ์ใหญ่เยอรมันอย่างค่าย Volkswagen ได้ทำการเผยโฉมรถยอดนิยมของค่ายอย่าง All-New Volkswagen Golf ซึ่งถือว่าเป็นเจเนเรชั่นที่ 8 แล้ว ซึ่งก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูปโฉมและอัดแน่นเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาในรถขายดีระดับโลกรุ่นนี้

   VW Golf โฉมใหม่มีความยาว 4,284 มิลลิเมตร กว้าง 1,789 มิลลิเมตร สูง 1,456 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,636 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับโฉมที่แล้ว รุ่นใหม่จะยาวขึ้น หน้าแคบลงเล็กน้อยและฐานล้อที่ยาวกว่าเดิมเล็กน้อย

  ดีไซน์ภายนอกยังคงเอกลักษณ์จากรุ่นเดิมไว้เยอะทีเดียว มองผ่านๆอาจคิดว่าเป็นรุ่น Minor Change ทั้งที่ความจริงคันนี้คือโมเดลใหม่หมดจด การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ด้านหน้าที่ออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ด้วยโคมไฟหน้าใหม่และกระจังหน้าที่เพรียวบางกว่าเดิม ด้านข้างนั้นดูผ่านๆแทบจะเหมือนรุ่นเดิมเลย แต่มีการขัดเกลาเส้นบนตัวถังให้อ่อนละมุนขึ้นกว่าเดิม ส่วนด้านท้ายก็มีการออกแบบไฟท้ายให้เพรียวขึ้นด้วย

  แม้ภายนอกเหมือนจะเปลี่ยนไม่มากแต่ภายในนั้นถือว่าเปลี่ยนขนานใหญ่ มีการออกแบบที่ดูล้ำสมัยมากขึ้น ลดปุ่มภายในและหันมาใช้การควบคุมด้วยจอสัมผัสแทน เข้ามาจะพบกับหน้าปัดดีไซน์ใหม่แบบดิจิตอล พร้อมทั้งมีจอแสดงผล Head-Up Display ให้เลือกเป็นออปชั่นเสริม เช่นเดียวกับระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบออนไลน์  (Online Connectivity Unit)  มีมาให้เป็นมาตรฐาน โดยจะมี eSIM ในตัว เพื่อสามารถเชื่อมต่อระบบ We Connect และ We Connect Plus และบริการต่างๆได้

  จากข้อมูลของ VW ระบุว่า Golf โฉมใหม่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในรถระดับเดียวกันในด้านของฟังก์ชั่นช่วยการขับขี่ ความพิเศษคือระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ติดตั้งมาให้ในรถนั้นสามารถรองรับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนทางหลวงที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กม. / ชม. โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเติมคันเร่งหรือเบรก

  Golf โฉมใหม่ยังมากับฟังก์ชั่น Car2X ที่รับข้อมูลจากรถคันอื่น ๆ ภายในรัศมีสูงสุดถึง 800 เมตร  รวมถึงสัญญาณจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรเพื่อเตือนผู้ขับขี่ - ในทางกลับกันข้อมูลนี้สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรุ่นอื่นๆที่ติดตั้ง Car2X ได้อีกด้วย

 ทางด้านขุมพลังนั้น เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลของ Golf รุ่นใหม่เป็นแบบเทอร์โบชาร์จหัวฉีดตรงทั้งหมด โดยมีพละกำลังตั้งแต่ 90 แรงม้า (PS) 300 แรงม้า (PS) ในขณะเดียวกันเกียร์ธรรมดา 6 สปีดยังได้รับการพัฒนาสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเพื่อลดการปล่อย CO2 อีกด้วย

  เบนซิน TSI จะมีพละกำลังให้เลือก 4 แบบในช่วงเปิดตัว ได้แก่ 90 แรงม้า, 110 แรงม้า (PS), 130 แรงม้า (PS) และ 150 แรงม้า (PS) โดยเครื่องยนต์ 90 และ 110 แรงม้าจะเป็นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ นอกนั้นเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร

  สำหรับรุ่นพละกำลัง 110 แรงม้า ขึ้นไปจะสามารถเลือกพ่วงกับระบบ Mild-Hybrid (eTSI) ที่มี belt starter generator 48 V และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 สปีด ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน TSI 2.0 ลิตร 3 แบบ สำหรับ Golf GTI, Golf GTI TCR และ Golf R รวมถึงขุมพลัง TGI 1.5 ลิตรที่รองรับก๊าซธรรมชาติ (CNG) และน้ำมันจะเปิดตัวในภายหลัง

   เครื่องยนต์ดีเซล TDI ขนาด 2.0 ลิตรของ จะมากับพละกำลังที่ 115 แรงม้า (PS) และ 150 แรงม้า (PS) (148 HP) ทั้งคู่สามารถใช้เกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติแบบ DSG ได้ ได้ในขณะที่รุ่น 150 แรงม้า สามารถเลือกจับคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MOTION ได้ สำหรับรุ่นดีเซลสมรรถนะสูง Golf GTD จะตามมาอีกในภายหลัง

  นอกจากนี้ยังมีตัวแรง Plug-In Hybrid ในรุ่น  eHybrid ที่มากับพละกำลัง 204 แรงม้า (PS)  หรือรุ่น GTE พละกำลัง 245 แรงม้า (PS) ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน TSI 1.4 ลิตรบวกกับมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียม 13 kWh

  All-New Volkswagen Golf จะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในยุโรปเดือนธันวาคมนี้ครับ

ที่มา Carscoops
  
 ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

Like Box