ปล่อยให้แฟนกระบะรอคอยกันมาพอสมควร คราวนี้ก็ได้ฤกษ์ที่เจ้าตลาดอย่าง Toyota เปิดตัว Hilux Revo Minor Change ที่ปรับโฉมภายนอกเป็นรอบที่ 2 เพื่อแข่งแย่งชิงยอดขายอันดับ 1 กับ Isuzu D-Max เจเนเรชั่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง
รอบนี้ Toyota ได้ทำการยกเครื่องหน้าตาใหม่ในทุกรุ่นย่อยทุกตัวถัง ไม่กั๊กหน้าแบบแต่ก่อนแล้ว โดยภายนอกจะมากับกระจังหน้าทรงใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยไฟหน้าใหม่ที่ออกแบบให้รับกับกระจังหน้าส่วนบน กันชนหน้าออกแบบให้รับกับกระจังหน้าใหม่ ส่วนด้านท้ายในตัวยกสูงทั้งหมดจะได้ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guiding นอกจากนี้ตัวสูงทั้งหมดจะได้ล้อลายใหม่ขนาด 17-18 นิ้ว
ในรุ่น Rocco ได้รับการออกแบบให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานแบบค่อนข้างมากทีเดียว โดยมากับกระจังหน้าใหม่ที่ลากกินเนื้อที่แทบทั้งหมดของกันชน รวมทั้งออกแบบกรอบไฟตัดหมอกให้รับกับซุ้มล้อรอบคันรถ ยังคงมีการตกแต่งภายนอกที่ครบองค์ทรงเครื่องเหมือนเดิม และมาพร้อมกับล้อลายพิเศษ 18 นิ้ว
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ Toyota ปรับการเรียกเกรดรถใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนจาก J/J Plus เป็น Entry, E/E Plus เป็น Mid และ G เป็น High ส่วน Rocco ยังใช้ชื่อเดิม
สำหรับภายในห้องโดยสารนั้น มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดหลายจุดและมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ
- รุ่น Mid ขึ้นไปได้หน้าปัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID แบบจอสี TFT 4.2 นิ้ว
- ครั้งแรกในวงการปิคอัพไทย! กับการติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (Entry เป็นจอแบบ Resistive ส่วน Mid ขึ้นไปเป็นจอแบบ Capacitive) รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ในทุกรุ่นย่อย...อ่านไม่ผิดจริงๆครับ ทุกรุ่นได้จอสัมผัสหมด นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อ T-Connect ที่ทำงานเชื่อมต่อกับ Smart Phone โดยมีฟังก์ชั่นต่างๆ ดังนี้
- Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพ
- TheftTrack ติดตามรถหายเมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานงาน ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.
- Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนผ่านเขตพื้นที่ที่เจ้าของรถกำหนดไว้
- SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางกรณี)
- Maintenance Reminder แจ้งเตือนเข้าศูนย์บริการพร้อมประสานงานนัดหมาย
- Vehicle Information แสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่ สรุปทริปการเดินทาง พร้อมแชร์ลงโซเชียลได้ อีกทั้งมีบริการแจ้งเตือนการต่อทะเบียนรถประจำปีด้วย
- Insurance (PHYD) ประกันภัยรถ "ขับดี ลดให้" สิทธิพิเศษด้วยเบี้ยประกัน จ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่และช่วยแจ้งเตือนต่อประกันภัยล่วงหน้าอัตโนมัติ (สำหรับการทำประกันภัยบริษัทฯ ตามที่กำหนดเท่านั้น)
- Concierge Service บริการผู้ช่วยส่วนตัว
- ปรับปรุงการภายในใหม่แล้วแต่รุ่นย่อย โดยเฉพาะรุ่น Rocco ที่ตกแต่งคอนโซลและรอบคันด้วยสีเงินแบบ Hairline และโครเมียมรมดำ มีการตกแต่งเบาะภายในใหม่
- Push Start และ Smart Entry ที่เคยกั๊กไว้ในตัวสูง 2.8 ลิตร 4 ประตู ในตัวใหม่ใส่ให้ในเกรด High ทุกรุ่นทุกเครื่องยนต์ และมีใน Rocco ทุกรุ่น
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมีให้ตั้งแต่เกรด High และ Rocco ทุกรุ่นย่อย ทุกตัวถัง
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางมีให้ตั้งแต่เกรด High และ Rocco ทุกรุ่นย่อย ทุกตัวถัง
ทางด้านขุมพลังเครื่องยนต์จะมีทางเลือกทั้งหมดดังนี้
- เครื่องยนต์ดีเซล 2GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler พร้อมระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่นแบบคอมมอนเรล (แบบ i-ART) ขนาด 2.4 ลิตร พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่ 1,400-2,800 รอบ/นาที (เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและ 6 สปีด) / 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด)
- เครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ขนาด 2.8 ลิตร พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่ 1,200-3,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (เฉพาะตอนเดียว 2.8 ลิตรตัวเตี้ย)
- เครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler พร้อมระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่นแบบคอมมอนเรล (แบบ i-ART) ขนาด 2.8 ลิตร พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที (เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) /204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด)
ช่วงล่างมีการปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ เปลี่ยนในรุ่น Smart Cab/Double Cab ทั้งใน Prerunnner และขับเคลื่อน 4 ล้อ
- ปรับปรุงการทำงานช็อคอัพใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทก
- ลดจำนวนแหนบจาก 5 เหลือ 3 แผ่น เพิ่มระยะห่างจุดสัมผัสระหว่างแหนบหลักและแหนบเสริม เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น
- ปรับวัสดุแหนบใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม เพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกได้เท่าเดิมแม้แหนบจะลดลง
ระบบความปลอดภัยของรถนั้น โดยรวมจะมีดังนี้
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ไฟเเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไล่ฝ้ากระจกหลัง (Smart Cab และ Double Cab)
- สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง (Prerunner เกรด High ขึ้นไป)
- กล้องมองหลัง (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ทุกตำแหน่งพร้อมระบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ สำหรับเบาะคู่หน้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงแบรก BA (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Prerunner เกรด Mid ขึ้นไป)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (รุ่น 4x4)
- ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC (เฉพาะระบบเกียร์อัตโนมัติ เกรด High ขึ้นไป)
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip DIfferential) (รุ่น 4x4)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เกรด High ขึ้นไป พิเศษใน Rocco ตัวถัง Double Cab จะเป็น ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS เฉพาะ Rocco ตัวถัง Double Cab
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA เฉพาะ Rocco ตัวถัง Double Cab
- โครงสร้างนิรภัย GOA
- คานเหล็กนิรภัยด้านข้าง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า และหัวเข่าด้านคนขับ
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง และม่านด้านข้าง (Prerunner เกรด High ขึ้นไป)
สีตัวถังภายนอกจะมีดังต่อไปนี้
- สีขาวมุก White Pearl Crystal (ยกเว้นตอนเดียวและ Smart Cab/Double Cab ตัวเตี้ย)
- สีบรอนซ์เงิน Silver Metallic (ยกเว้น Rocco)
- สีเทา Dark Gray Mica Metallic (ยกเว้น Rocco และ Cab-Chassis)
- สีดำ Atitude Black Mica (ยกเว้นตอนเดียว)
- ใหม่! สีน้ำเงิน Dark Blue Mica เฉพาะ Smart Cab & Double Cab ยกสูงทุกรุ่น
- ใหม่! สีแดง Emotional Red เฉพาะ Rocco
- ใหม่! สีน้ำตาล Oxide Bronze Metellic เฉพาะ Rocco
ตอนเดียว 7 รุ่นย่อย
- 2.4 Entry Cab-Chassis 544,000 บาท (แพงขึ้น 11,000 บาทจาก 2.4 J Cab-Chassis เดิม)- 2.4 Entry Cab-Chassis AT 594,000 บาท (แพงขึ้น 6,000 บาทจาก 2.4 J Cab-Chassis AT เดิม)
- 2.4 Entry 584,000 บาท (แพงขึ้น 18,000 บาทจาก 2.4 J เดิม)
- 2.4 Entry AT 634,000 บาท (แพงขึ้น 13,000 บาทจาก 2.4 J เดิม)
- 2.4 Entry ช่วงสั้น 584,000 บาท (ถูกลง 3,000 บาทจาก 2.4 J Plus เดิม)
- 2.8 Entry 604,000 บาท (ถูกลง 3,000 บาทจาก 2.8 J Plus เดิม)
- 2.8 Entry 4x4 704,000 บาท (แพงขึ้น 28,000 บาทจาก 2.8 J 4x4 เดิม)
Z-Edition 12 รุ่นย่อย
Smart Cab Z Edition
Smart Cab Z Edition
- 2.4 Entry STD 609,000 บาท (แพงขึ้น 14,000 บาทจาก 2.4 J Plus เดิม)
- 2.4 Entry 624,000 บาท (แพงขึ้น 29,000 บาทจาก 2.4 J Plus เดิม)
- 2.4 Mid STD 684,000 บาท (ถูกลง 1,000 บาทจาก 2.4 E เดิม)
- 2.4 Mid 699,000 บาท (แพงขึ้น 14,000 บาทจาก 2.4 E เดิม)
- 2.4 Mid STD AT 734,000 บาท
- 2.4 Mid AT 749,000 บาท
Double Cab Z Edition
- 2.4 Mid AT 749,000 บาท
Double Cab Z Edition
- 2.4 Entry STD 689,000 บาท (แพงขึ้น 4,000 บาทจาก 2.4 J Plus เดิม)
- 2.4 Entry 704,000 บาท (แพงขึ้น 19,000 บาทจาก 2.4 J Plus เดิม)
- 2.4 Mid STD 754,000 บาท (ถูกลง 24,000 บาทจาก 2.4 E เดิม)
- 2.4 Mid 769,000 บาท (ถูกลง 9,000 บาทจาก 2.4 E เดิม)
- 2.4 Mid STD AT 794,000 บาท
- 2.4 Mid AT 809,000 บาท
Prerunner & 4x4 17 รุ่นย่อย
- 2.4 Mid AT 809,000 บาท
Prerunner & 4x4 17 รุ่นย่อย
Smart Cab Prerunner/4x4
- 2.4 Entry 707,000 บาท (แพงขึ้น 35,000 บาทจาก 2.4 J Plus Prerunner เดิม)
- 2.4 Entry AT 757,000 บาท
- 2.4 Mid 787,000 บาท (แพงขึ้น 36,000 บาทจาก 2.4 E Plus เดิม)
- 2.4 Mid 787,000 บาท (แพงขึ้น 36,000 บาทจาก 2.4 E Plus เดิม)
- 2.4 Mid AT 837,000 บาท (แพงขึ้น 37,000 บาทจาก 2.4 E Plus AT เดิม)
- 2.4 High 864,000 บาท
- 2.4 High AT 914,000 บาท
- 2.4 Mid 4x4 862,000 บาท (แพงขึ้น 32,000 บาทจาก 2.4 E Plus 4x4 เดิม)
- 2.4 High AT 914,000 บาท
- 2.4 Mid 4x4 862,000 บาท (แพงขึ้น 32,000 บาทจาก 2.4 E Plus 4x4 เดิม)
- 2.8 High 4x4 959,000 บาท (แพงขึ้น 50,000 บาทจาก 2.8 G 4x4 เดิม)
Double Cab Prerunner/4x4
- 2.4 Entry 807,000 บาท (แพงขึ้น 37,000 บาทจาก 2.4 J Plus Prerunner เดิม)
- 2.4 Entry AT 857,000 บาท
- 2.4 Mid 872,000 บาท (แพงขึ้น 32,000 บาทจาก 2.4 E Plus เดิม)
- 2.4 Mid AT 922,000 บาท (แพงขึ้น 33,000 บาทจาก 2.4 E Plus AT เดิม)
- 2.4 High 959,000 บาท (แพงขึ้น 50,000 บาทจาก 2.4 G เดิม)
- 2.4 High AT 1,009,000 บาท (แพงขึ้น 51,000 บาทจาก 2.4 G เดิม)
- 2.4 Mid 4x4 957,000 บาท (แพงขึ้น 22,000 บาทจาก 2.4 E Plus 4x4 เดิม)
- 2.8 High 4x4 1,109,000 บาท (แพงขึ้น 28,000 บาทจาก 2.8 G 4x4 เดิม)
- 2.8 High AT 4x4 1,159,000 บาท (แพงขึ้น 9,000 บาทจาก 2.8 G AT 4x4 เดิม)
Rocco 4 รุ่นย่อย
- Smart Cab 2.4 Rocco AT 949,000 บาท (แพงขึ้น 70,000 บาทจากรุ่นเดิม)
- Smart Cab 4x4 2.8 Rocco AT 1,079,000 บาท
- Double Cab 2.4 Rocco AT 1,079,000 บาท (แพงขึ้น 91,000 บาทจากรุ่นเดิม)
- Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT 1,239,000 บาท (แพงขึ้น 40,000 บาทจากรุ่นเดิม)
- 2.4 Entry AT 857,000 บาท
- 2.4 Mid 872,000 บาท (แพงขึ้น 32,000 บาทจาก 2.4 E Plus เดิม)
- 2.4 Mid AT 922,000 บาท (แพงขึ้น 33,000 บาทจาก 2.4 E Plus AT เดิม)
- 2.4 High 959,000 บาท (แพงขึ้น 50,000 บาทจาก 2.4 G เดิม)
- 2.4 High AT 1,009,000 บาท (แพงขึ้น 51,000 บาทจาก 2.4 G เดิม)
- 2.4 Mid 4x4 957,000 บาท (แพงขึ้น 22,000 บาทจาก 2.4 E Plus 4x4 เดิม)
- 2.8 High 4x4 1,109,000 บาท (แพงขึ้น 28,000 บาทจาก 2.8 G 4x4 เดิม)
- 2.8 High AT 4x4 1,159,000 บาท (แพงขึ้น 9,000 บาทจาก 2.8 G AT 4x4 เดิม)
Rocco 4 รุ่นย่อย
- Smart Cab 2.4 Rocco AT 949,000 บาท (แพงขึ้น 70,000 บาทจากรุ่นเดิม)
- Smart Cab 4x4 2.8 Rocco AT 1,079,000 บาท
- Double Cab 2.4 Rocco AT 1,079,000 บาท (แพงขึ้น 91,000 บาทจากรุ่นเดิม)
- Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT 1,239,000 บาท (แพงขึ้น 40,000 บาทจากรุ่นเดิม)