รถอีโคคาร์ถือว่ากลายเป็นตลาดหลักๆของประเทศไทยไปแล้ว หลังจากที่ Nissan March ได้เปิดเกมตลาดอีโคคาร์ เท่านั้นละครับท่านผู้อ่าน ยอดขายของนิสสัน มาร์ช ดีแบบเทน้ำเทท่า ทำให้ค่ายรถหลายค่ายแห่กันเปิดตัวรถอีโคคาร์ของตนบ้าง ทำให้ตลาดอีโคคาร์ฮอตฮิตไปโดยปริยาย ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า รถอีโคคาร์ มันมีกฎเกณฑ์อะไรบ้างถึงจะเข้าข่ายรถอีโคคาร์ได้ครับ
รถอีโคคาร์เกิดขึ้นตั้งแต่นโยบายของภาครัฐ ที่ตระหนักถึงราคาน้ำมันที่กำลังสูงขึ้นในทุกวี่ทุกวัน จึงเกิดแผนในการสร้างรถขนาดเล็กขึ้นมา และให้เป็นรถที่รักสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ว่า eco car จะเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันอย่างเดียวตามที่คนเข้าใจผิดกัน มาดูกันว่ามันต้องทีกฎอะไรบ้าง
1.รถยนต์อีโค่คาร์ต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100
กิโลเมตร หรือ น้ำมัน 1 ลิตรวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตร
2.กำหนด
ให้รถยนต์รุ่นที่จะถูกผลิตขึ้นมาเป็นอีโค่คาร์
ต้องมีการปล่อยมลพิษปลอดภัยระดับ Euro4 คือ
มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร
เท่านั้น
3. ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ตามมามาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UNECE 94
และ 95) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง
4. ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินมีความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร
และที่ยังไม่เห็นก็มีเครื่องยนต์ดีเซล ที่กำหนดให้มีขนาดไม่เกิน 1.4 ลิตร
ซึ่งแน่นอนว่ามันน่าจะมีในอนาคตอันใกล้นี้
เอาละครับ ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ลองมาดูกันว่ามีอีโคคาร์คันไหนบ้างที่กำลังทำตลาดและเตรียมทำตลาดในไทย บอกกันตั้งแต่หัวยันท้าย มาชมกันครับ
1.Nissan March
เป็นคันแรกที่มาเปิดศึกอีโคคาร์ในบ้านเราเลยก็ว่าได้ ผมขอเรียกมันว่า "ปฐมบทแห่งอีโคคาร์"ได้ทำการเปิดตัวเมื่อปี 2553 โดยได้พรีเซนเตอร์เป็นพระเอกรุ่นเก๋าอย่างเคน ธีรเดช มากับสโลแกน "ทำให้ชีวิตชีวิตคุณง่ายขึ้น" และล่าสุดได้ปรับโฉมในปี 2556 พร้อมกับสโลแกนที่ต่อเติมอีกนิดเป็น "ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นได้อีก" รูปลกัษณ์สะดุดตาเล็กน่ารัก สวยงาม โดยรุ่นปี 2013 นี้ได้มีการปรับปรุงในหลายส่วนตั้งแต่ไฟหน้าใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้าย LED ส่วนภายในได้เปลี่ยนคอนโซลหน้าใหม่ พวงมาลัยพร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียง เครื่องเสียงใหม่พร้อมช่องเสียบ USB เครื่องยนต์ยังคงใช้ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTronic CVT ค่าการคายไอเสียต่ำกว่า 120 กรัม./กม. สำหรับราคารถนั้น รุ่น S M/T ราคา 388,000 รุ่น E M/T ราคา 444,000 บาท รุ่น E CVT ราคา 478,000 บาท รุ่น EL CVT ราคา 506,000 บาท รุ่น V CVT ราคา 525,000 บาท รุ่น VL CVT ราคา 555,000 บาท
เป็นคันแรกที่มาเปิดศึกอีโคคาร์ในบ้านเราเลยก็ว่าได้ ผมขอเรียกมันว่า "ปฐมบทแห่งอีโคคาร์"ได้ทำการเปิดตัวเมื่อปี 2553 โดยได้พรีเซนเตอร์เป็นพระเอกรุ่นเก๋าอย่างเคน ธีรเดช มากับสโลแกน "ทำให้ชีวิตชีวิตคุณง่ายขึ้น" และล่าสุดได้ปรับโฉมในปี 2556 พร้อมกับสโลแกนที่ต่อเติมอีกนิดเป็น "ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นได้อีก" รูปลกัษณ์สะดุดตาเล็กน่ารัก สวยงาม โดยรุ่นปี 2013 นี้ได้มีการปรับปรุงในหลายส่วนตั้งแต่ไฟหน้าใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้าย LED ส่วนภายในได้เปลี่ยนคอนโซลหน้าใหม่ พวงมาลัยพร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียง เครื่องเสียงใหม่พร้อมช่องเสียบ USB เครื่องยนต์ยังคงใช้ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTronic CVT ค่าการคายไอเสียต่ำกว่า 120 กรัม./กม. สำหรับราคารถนั้น รุ่น S M/T ราคา 388,000 รุ่น E M/T ราคา 444,000 บาท รุ่น E CVT ราคา 478,000 บาท รุ่น EL CVT ราคา 506,000 บาท รุ่น V CVT ราคา 525,000 บาท รุ่น VL CVT ราคา 555,000 บาท
เป็นคู่แข่งรายที่สองที่ส่งมาเพื่อสู้กับ Nissan March ออกโชว์ตัวแบบคอนเซ็ปต์ที่งานมอเตอร์โชว์ 2010 และ โชว์ตัวพรีโปรดักชั่นในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในปีเดียวกัน จากนั้นรุ่นขายจริงก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในต้นปี 2011 ซึงได้หมาก และ ญาญ่ามาเป็นพรีเซนเตอร์ ถึงแม้ว่าการเปิดตัวจะออกมาดี แต่กระแสตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งมีเหตุผลอยู่ 2 ประการ คือ อุทกภัย 2554 ที่ทำเอาโรงงานฮอนด้าน้ำท่วม ทำให้ส่งรถไม่ทัน และด้วยข้อด้วยหลายประการของรถรุ่นนี้ ทำให้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เนื่องด้วยว่าฮอนด้าไม่ได้สันทัดเรื่องทำรถถูกเท่าไหร่ มันก็เลยออกมาแบบที่เห็น การประกอบยังไม่ดี แทบจะเห็นเหล็กตัวถังรถเลยทีเดียว พูดกันมากพอละ มาพูดถึงหน้าตารถบ้าง หน้าตารถถือว่ามีความโดดเด่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่หวือหวาเท่าไร ภายในออกแบบดูดี แต่ที่รับไม่ได้คือลดต้นทุนเกิน เห็นเหล็กเลย (ซึ่งแก้มือแล้วกับ Brio Amaze) ด้านเครื่องยนต์ใช้เครื่อง 1.2 ลิตร 90 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ CVT สำหรับราคานั้น ตอนแรกที่เปิดขายที่มอเตอร์โชว์ เริ่มที่ 399,500 บาท แบบโคตรถูก แต่วัสดุไม่ดี แต่ตอนนี้ขึ้นราคาแล้ว สงสัยจะปรับปรุงตัวรถแล้วมั้ง โดยราคาในรุ่น S M/T ราคา 433,500 บาท S CVT ราคา 472,500 บาท รุ่น V M/T ราคา 469,500 บาท และ รุ่น V CVT ราคา 508,500 บาท
3. Nissan Almera
เป็นอีโคคาร์รายที่สองจากนิสสัน ที่มีพื้นฐานมาจาก March เช่นกัน โดยเป็นรถซีดานขนาดเล็ก 4 ประตู เปิดตัวเมื่อปี 2011 โดยมีโดม ปกรณ์ ลัม เป็นพรีเซนเตอร์ หน้าตาของรถนั้นก็ดูสวยงาม โฉบเฉี่ยวลงตัวดี หน้าตารถมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน และเป็นรถที่น่าใช้พอสมควร ภายในก็ต่างจาก March เพียงแค่ช่องแอร์เท่านั้น นอกนั้นแทบจะใช้ร่วมกันหมด เครื่องยนต์ก็ใช้กับ March นั่นคือเครื่อง 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 20 กม./ลิตร ค่าการปล่อยไอเสีย 120 กรัม/กม. สำหรับราคาของ Nissan Almera เริ่มต้นตั้งแต่รุ่น S M/T 429,000 บาท รุึ่่่น E M/T 455,000 บาท รุ่น E CVT 489,000 บาท รุ่น ES CVT 523,000 บาท รุ่น V CVT ราคา 569,000 บาท VL CVT ราคา 599,000 บาท
เป็นอีโคคาร์รายที่สองจากนิสสัน ที่มีพื้นฐานมาจาก March เช่นกัน โดยเป็นรถซีดานขนาดเล็ก 4 ประตู เปิดตัวเมื่อปี 2011 โดยมีโดม ปกรณ์ ลัม เป็นพรีเซนเตอร์ หน้าตาของรถนั้นก็ดูสวยงาม โฉบเฉี่ยวลงตัวดี หน้าตารถมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน และเป็นรถที่น่าใช้พอสมควร ภายในก็ต่างจาก March เพียงแค่ช่องแอร์เท่านั้น นอกนั้นแทบจะใช้ร่วมกันหมด เครื่องยนต์ก็ใช้กับ March นั่นคือเครื่อง 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 20 กม./ลิตร ค่าการปล่อยไอเสีย 120 กรัม/กม. สำหรับราคาของ Nissan Almera เริ่มต้นตั้งแต่รุ่น S M/T 429,000 บาท รุึ่่่น E M/T 455,000 บาท รุ่น E CVT 489,000 บาท รุ่น ES CVT 523,000 บาท รุ่น V CVT ราคา 569,000 บาท VL CVT ราคา 599,000 บาท
4. Suzuki Swift
เป็นอีโคคาร์ที่มาแรงสุดในชั่วโมงนี้ เปิดตัวเมื่่อต้นปี 2012 กับสโลแกน "เร้าทุกประสาทสัมผัส"เป็นรถที่มาพลิกประวัติการณ์ของ Suzuki หลังจากเปลี่ยนแผนจากการนำเข้ามาตั้งโรงงานประกอบในไทย และลดตำแหน่งตลาดในฐานะอีโคคาร์ แถมพรีเซนเตอร์ยังได้พระเอกอย่าง หลุยส์ สก็อตมาเป็นพรีเซนเตอร์ บวกกับหน้าตาที่สวยโดนใจ ทำให้ได้ใจผู้บริโภคเต็มสูบ ยอดค้างส่งยาวเป็นหางว่าวไปปีหน้าเลย และล่าสุดก็ทำยอดขายแซง March ไปเรียบร้อย ก็รถดีขนาดนี้ไม่ชอบก็บ้าแล้ว
เป็นอีโคคาร์ที่มาแรงสุดในชั่วโมงนี้ เปิดตัวเมื่่อต้นปี 2012 กับสโลแกน "เร้าทุกประสาทสัมผัส"เป็นรถที่มาพลิกประวัติการณ์ของ Suzuki หลังจากเปลี่ยนแผนจากการนำเข้ามาตั้งโรงงานประกอบในไทย และลดตำแหน่งตลาดในฐานะอีโคคาร์ แถมพรีเซนเตอร์ยังได้พระเอกอย่าง หลุยส์ สก็อตมาเป็นพรีเซนเตอร์ บวกกับหน้าตาที่สวยโดนใจ ทำให้ได้ใจผู้บริโภคเต็มสูบ ยอดค้างส่งยาวเป็นหางว่าวไปปีหน้าเลย และล่าสุดก็ทำยอดขายแซง March ไปเรียบร้อย ก็รถดีขนาดนี้ไม่ชอบก็บ้าแล้ว
หน้าตารถมาในแนวสวยงาม โฉบเฉี่ยว ลงตัวมาก ด้วยความที่ลดเกรดตัวเองมาทำตลาดอีโคคาร์ ซึ่งปกติมันต้องอยู่ระดับเดียวกับ Jazz Yaris อะไรทำนองนี้ เหตุดังกล่าวส่งผลให้มันเป็นอีโคคาร์ที่ใหญ่สุดในตลาดตอนนี้ (ก่อนที่ Yaris Eco Car จะมา) ภายในก็ออกแบบได้อย่างสวยงาม โฉบเฉี่ยว ลงตัว สำหรับเครื่องยนต์ มากับเครื่องเบนซิน 1.25 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด สำหรับราคานั้น ในรุ่น GA M/T ราคา 429,000 บาท รุ่น GL M/T ราคา 467,000 บาท รุ่น GA A/T ราคา 469,000 บาท รุ่น GL A/T ราคา 507,000 บาท และรุ่น GLX A/T ราคา 599,000 บาท
5. Mitsubishi Mirage
เป็นอีกคันที่ได้รับความนิยมในหมู่ประชาชน สำหรับอีโคคาร์ยอดฮิตอีกคันอย่าง Mirage ที่ตอนนี้มีวิ่งบนถนนแล้วกว่า 50,000 คัน มีจุดขายอยู่ที่รูปร่างหน้าตา และฟังก์ชันการใช้งานที๋โดดเด่นกว่าใคร ทำให้มียอดขายให้ค่ายนี้ชื่นใจเสียหน่อย
เป็นอีกคันที่ได้รับความนิยมในหมู่ประชาชน สำหรับอีโคคาร์ยอดฮิตอีกคันอย่าง Mirage ที่ตอนนี้มีวิ่งบนถนนแล้วกว่า 50,000 คัน มีจุดขายอยู่ที่รูปร่างหน้าตา และฟังก์ชันการใช้งานที๋โดดเด่นกว่าใคร ทำให้มียอดขายให้ค่ายนี้ชื่นใจเสียหน่อย
Mitsubishi Mirage เปิดตัวในต้นปี 2012 ได้นักร้องวง 2PM อย่าง นิชคุณ มาเป็นพรีเซนเตอร์ มากับสโลแกน "ให้คุณได้มากกว่า Be More" ซึ่งมันก็มากกว่าจริงๆ เพราะอัดสารพัดออฟชั่นไว้มากมาย โดยหน้าตาของรถมาแนวดูดี เรียบร้อย น่ารัก พร้อมสีตัวถังที่สดใส ออกแนวสปอร์ตนิดๆ ภายในออกแบบได้สวยงาม ดสารพัดออฟชั่นเอาใจผู้บริโภคโดยเฉพาะ ที่เห็นจะโดดเด่นก็คือระบบนำทางเนวิเกเตอร์ซึ่งอีโคคาร์ค่ายอื่นไม่มี (บางทีมันอาจจะดูเกินความจำเป็นสำหรับรถขนาดนี้นะ) สำหรับเครื่องนั้นเป็นเครื่อง
เบนซิน 1.2 ลิตร 74 แรงม้า สำหรับราคานั้นตามนี้ครับ รุ่น GL (M/T) ราคา 380,000 บาท รุ่น GLX (M/T) ราคา 426,000 บาท รุ่น GLX (M/T) ราคา 426,000 บาท รุ่น GLS CVT(A/T) ราคา 506,000 บาท
รุ่น GLS Ltd A/T cvt ราคา 546,000 บาท
6. Honda Brio Amaze
เป็นรถที่่ออกมากู้หน้าให้ brio ตังถังแฮตซ์แบคได้อย่างดี สำหรับ Honda Brio Amaze ที่โปรโมทรถอย่างดี ได้นักร้องสุดหล่ออย่างบี้ เดอะ สตาร์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยมากับสโลแกน "สมการความสุขที่ลงตัว" ซึ่งฮอนด้าได้เปิดตัวอเมซก่อนกำหนดการเดิมถึง 6 เดือนเพื่อให้เข้าโครงการรถคันแรก
เป็นรถที่่ออกมากู้หน้าให้ brio ตังถังแฮตซ์แบคได้อย่างดี สำหรับ Honda Brio Amaze ที่โปรโมทรถอย่างดี ได้นักร้องสุดหล่ออย่างบี้ เดอะ สตาร์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยมากับสโลแกน "สมการความสุขที่ลงตัว" ซึ่งฮอนด้าได้เปิดตัวอเมซก่อนกำหนดการเดิมถึง 6 เดือนเพื่อให้เข้าโครงการรถคันแรก
งานนี้ Honda ได้แก้ไขสิ่งแย่ๆใน Brio ให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้มันกลายเป็นรถที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม แม้จะยังไม่เท่ารุ่นอื่นก็ตาม หน้าตารถก็ไม่แตกต่างเท่าไร เพียงแต่ปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ และกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ และล้อแม็กลายใหม่ ภายในก็ไม่มีอะไรต่างกัน แต่มีการเปลี่ยนวัสดุให้ดูดีขึ้น ไม่มีเหล็กโผล่มาอีกแล้ว สำหรับเครื่องยนต์ก็ใช้เครื่องเดียวกับตัว 5 ประตู นั่นคือ เครื่องเบนซิน 1.2 ลิตร 90 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด สำหรับราคาของรถนั้น เริ่มต้นโดยในรุ่น S M/T ราคา 454,000 บาท รุ่น S A/T ราคา 493,000 บาท รุ่น V M/T ราคา 482,000 บาท และรุ่น V A/T ราคา 521,000 บาท
7. Mitsubishi Attrage
เป็นอีโคคาร์คันล่าสุดที่จะมาสานต่อความสำเร็จของ Mirage ซึ่งจะนำเสนอในแบบอีโคคาร์ 4 ประตู หน้าตาก็เหมือนกับ Concept G4 ที่โชว์ตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หน้าตาของรถนั้นดูสวยและลงตัวมากๆ ออกแบบได้เข้ากับตัวรถอย่างดี แต่เส้นสายของตัวถังเหมือนไปเอาจากรถรุ่นอื่นๆอยู่ บ้างก็เหมือน Almera บ้างก็เหมือน Vios ตัวเก่า ส่วนไฟท้ายดูดีกว่าคอนเซปต์เยอะเลย ภายในยกมาจาก Mirage ทั้งหมด เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโทนสีเท่านั้น ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามาจาก Mirage เช่น ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และทีเด็ดสุดก็เห็นจะเป็นการติดตั้งกล้องมองหลังเข้าไปในรถด้วย ซึ่งอีโคคาร์รุ่นอื่นไม่มี ถือว่า Mitsubishi ได้หาจุดขายใหม่ๆได้อีกแล้ว แค่ใส่ออฟชั่นทันสมัยเข้าไปก็ขายได้แล้ว สำหรับเครื่องยนต์และระบบเกียร์ยังคงเป็นบล็อกเดียวกับ Mirage นั่นคือเครื่องเบนซิน 1.2 ลิตร 74 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือ เกียร์ CVT อัตราสิ้นเปลืองรถ ทาง Mitsubishi เคลมว่าจะมีอัตราสิ้นเปลือง 22 กม./ลิตรเท่านั้น สำหรับราคาจำหน่ายมีดังนี้ครับ รุ่น GLX M/T ราคา 443,000 บาท รุ่น GLX A/T ราคา 477,000 บาท รุ่น GLS ราคา 530,000 บาท และ รุ่น GLS Ltd. ราคา 582,000 บาท พิเศษช่วงแนะนำลด 10,000 บาท และสีไวท์เพิร์ล บวกเพิ่ม 6,000 บาท
เป็นอีโคคาร์คันล่าสุดที่จะมาสานต่อความสำเร็จของ Mirage ซึ่งจะนำเสนอในแบบอีโคคาร์ 4 ประตู หน้าตาก็เหมือนกับ Concept G4 ที่โชว์ตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หน้าตาของรถนั้นดูสวยและลงตัวมากๆ ออกแบบได้เข้ากับตัวรถอย่างดี แต่เส้นสายของตัวถังเหมือนไปเอาจากรถรุ่นอื่นๆอยู่ บ้างก็เหมือน Almera บ้างก็เหมือน Vios ตัวเก่า ส่วนไฟท้ายดูดีกว่าคอนเซปต์เยอะเลย ภายในยกมาจาก Mirage ทั้งหมด เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโทนสีเท่านั้น ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามาจาก Mirage เช่น ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และทีเด็ดสุดก็เห็นจะเป็นการติดตั้งกล้องมองหลังเข้าไปในรถด้วย ซึ่งอีโคคาร์รุ่นอื่นไม่มี ถือว่า Mitsubishi ได้หาจุดขายใหม่ๆได้อีกแล้ว แค่ใส่ออฟชั่นทันสมัยเข้าไปก็ขายได้แล้ว สำหรับเครื่องยนต์และระบบเกียร์ยังคงเป็นบล็อกเดียวกับ Mirage นั่นคือเครื่องเบนซิน 1.2 ลิตร 74 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือ เกียร์ CVT อัตราสิ้นเปลืองรถ ทาง Mitsubishi เคลมว่าจะมีอัตราสิ้นเปลือง 22 กม./ลิตรเท่านั้น สำหรับราคาจำหน่ายมีดังนี้ครับ รุ่น GLX M/T ราคา 443,000 บาท รุ่น GLX A/T ราคา 477,000 บาท รุ่น GLS ราคา 530,000 บาท และ รุ่น GLS Ltd. ราคา 582,000 บาท พิเศษช่วงแนะนำลด 10,000 บาท และสีไวท์เพิร์ล บวกเพิ่ม 6,000 บาท
8. Toyota Yaris Eco Car
ตอนแรกคิดว่าจะต้องอยู่ในลำดับที่ 7 ตอนนี้ต้องถอยลำดับสุดท้ายครับ สำหรับ Toyota Yaris Eco Car ที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี คงเป็นอันต้องเลื่อน เหตุเพราะความไม่ลงรอยของแผงประตูรถซึ่งในรถคันนี้ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับวีออสมากเกินไป ซึ่งมันน่าจะส่งผลให้น้ำหนักตัวรถมากและอาจจะไม่บรรลุอัตราสิ้นเปลืองไม่ต่ำกว่า 20 กม./ลิตร ที่ตามกฎตั้งไว้ได้ อีกเรื่องก็คือเครื่องยนต์ครับ ตอนแรกทางโตโยต้ามีแผนจะนำเครื่อง 1329 ซีซี.มาลง (รู้ว่าทำอีโคคาร์ทั้งทีน่าจะเตรียมพร้อมเรื่องเครื่องกว่านี้) แต่ก็ไม่บรรลุกฎที่เครื่องยนต์ต้องไม่เกิน 1300 ซีซี. จึงต้องลดความจุลง ซึ่งอาจส่งผลให้การเปิดตัวช้าไปถึงปลายปีได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมาปีนี้แน่ๆครับ
สำหรับ Toyota Yaris ที่เราเรียกกล่าวขานกันว่าเป็นอีโคคาร์ เปิดตัวครั้งแรกทีงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นสำหรับตลาดเกิดใหม่ จะไม่เกี่ยวกับ Yaris ตลาดโลกแน่นอน ด้านหน้าตาก็ออกแบบมาเท่ๆดูจะเอาใจคุณผู้ชาย มากับเส้นสายที่เรียบๆโอเค ถ้ามันมาไทยแล้ว มันจะกลายเป็นอีโคคาร์ที่ใหญ่สุดในตลาดบ้านเราเลย ใหญ่กว่า Swift เสียด้วย ภายในคอนโซลหน้ายกมาจาก Vios ทั้งดุ้น เพราะมันใช้พื้นฐานร่วมกัน สำหรับการเปิดตัวคาดว่าไม่น่าหนีจากปี 2013 นี้ไปได้ ถ้ามีข่าวเราจะมาอัพเดตกันให้ทราบอีกทีครับ
จบกันแล้วนะครับสำหรับรถอีโคคาร์ต่างๆนานาและบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังซื้อรถไม่มากก็น้อยครับ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ CARS NEWS UPDATE (ข่วยไลค์ด้วยนะครับ แฟนเพจเพิ่งเปิดใหม่)
ตอนแรกคิดว่าจะต้องอยู่ในลำดับที่ 7 ตอนนี้ต้องถอยลำดับสุดท้ายครับ สำหรับ Toyota Yaris Eco Car ที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี คงเป็นอันต้องเลื่อน เหตุเพราะความไม่ลงรอยของแผงประตูรถซึ่งในรถคันนี้ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับวีออสมากเกินไป ซึ่งมันน่าจะส่งผลให้น้ำหนักตัวรถมากและอาจจะไม่บรรลุอัตราสิ้นเปลืองไม่ต่ำกว่า 20 กม./ลิตร ที่ตามกฎตั้งไว้ได้ อีกเรื่องก็คือเครื่องยนต์ครับ ตอนแรกทางโตโยต้ามีแผนจะนำเครื่อง 1329 ซีซี.มาลง (รู้ว่าทำอีโคคาร์ทั้งทีน่าจะเตรียมพร้อมเรื่องเครื่องกว่านี้) แต่ก็ไม่บรรลุกฎที่เครื่องยนต์ต้องไม่เกิน 1300 ซีซี. จึงต้องลดความจุลง ซึ่งอาจส่งผลให้การเปิดตัวช้าไปถึงปลายปีได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมาปีนี้แน่ๆครับ
สำหรับ Toyota Yaris ที่เราเรียกกล่าวขานกันว่าเป็นอีโคคาร์ เปิดตัวครั้งแรกทีงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นสำหรับตลาดเกิดใหม่ จะไม่เกี่ยวกับ Yaris ตลาดโลกแน่นอน ด้านหน้าตาก็ออกแบบมาเท่ๆดูจะเอาใจคุณผู้ชาย มากับเส้นสายที่เรียบๆโอเค ถ้ามันมาไทยแล้ว มันจะกลายเป็นอีโคคาร์ที่ใหญ่สุดในตลาดบ้านเราเลย ใหญ่กว่า Swift เสียด้วย ภายในคอนโซลหน้ายกมาจาก Vios ทั้งดุ้น เพราะมันใช้พื้นฐานร่วมกัน สำหรับการเปิดตัวคาดว่าไม่น่าหนีจากปี 2013 นี้ไปได้ ถ้ามีข่าวเราจะมาอัพเดตกันให้ทราบอีกทีครับ
จบกันแล้วนะครับสำหรับรถอีโคคาร์ต่างๆนานาและบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังซื้อรถไม่มากก็น้อยครับ
และติดตามข่าวสารให้มากยิ่งขึ้นไปอีกในที่ New Cars Around The World Fan Page
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย