ส่องรูปโฉม All-New Toyota Corolla Sedan พร้อมข้อมูลเบื้องต้น

  ค่าย Toyota ได้ทำการเปิดตัวรถคอมแพกต์ซีดานยอดนิยมอย่าง All-New Toyota Corolla Sedan หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ Corolla Altis ซึ่งได้ทำการเปิดตัวภายในงาน Guangzhou International Auto Show 2018 ที่ประเทศจีน

  All-New Toyota Corolla Sedan จะถูกนำเสนอด้วยดีไซน์ด้านหน้า 2 รูปแบบ 2 สไตล์ ได้แก่ Sporty ที่จะมากับภาพลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว จะวางจำหน่ายในจีนภายใต้ชื่อ Levin และจะจำหน่ายในอเมริกาเหนือ   (รูปโฉมของเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกามีการตกแต่งภายนอกเพิ่มเติมให้ดุดันกว่าเวอร์ชั่นไหนๆ) รวมทั้งญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆอีกด้วย และยังมีอีกโฉมก็คือ Prestige ที่มากับดีไซน์เรียบหรู โฉมนี้จะจำหน่ายในยุโรป จีน และอีกหลายประเทศเช่นกัน

  แน่นอนว่าว่า Corolla Sedan โฉมใหม่จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด TNGA เช่นเดียวกับ Corolla Hatchback ขนาดของตัวรถจะไม่ต่างจากรุ่นเดิมมากนัก โดยมีมีขนาดความยาว 4,640 มิลลิเมตร กว้าง 1,780 มิลลิเมตร  สูง 1,435 มิลลิเมตร  และมีฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร

  ภายในห้องโดยสารจะยกคอนโซลมาจาก Corolla Hatchback มาเลย มีดีไซน์ที่ค่อนข้างเรียบหรูและทันสมัย โดยจะมากับระบบอินโฟเทนเมนต์ Entune 3.0 ที่มาพร้อมการรองรับ Apple CarPlay และ Amazon Alexa รุ่นพื้นฐานของสหรัฐอเมริกาจะติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วในขณะที่หน้าจอความละเอียดสูง 8 นิ้วจะติดตั้งในรุ่นบนๆ

US Version 

  Toyota ให้สัญญาว่าแพลตฟอร์มใหม่ซึ่งรวมถึงระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงก์ที่มาแทนทอร์ชั่นบีมในรุ่นก่อนหน้านี้ รวมทั้งการติดตั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทที่มีการปรับปรุงใหม่ จะช่วยเสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่ให้ดีขึ้น รวมทั้งยกระดับความสะดวกสบายในการขับขี่ที่สูงขึ้นและปลอดภัยขึ้นอีกด้วย

  ทางด้านเครื่องยนต์นั้นมีรายละเอียดไม่มากนัก แต่ Toyota ยืนยันว่าจะมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force และไฮบริดที่จะจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น
 

   ส่วนตลาดอเมริกาเหนือจะมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 แบบ เริ่มต้นจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง พละกำลัง 139 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่นำมาจาก Corolla รุ่นเก่า และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force พละกำลัง 169 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและอัตโนมัติ CVT

   และนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้สามารถรอติดตามรายละเอียดเต็มๆได้ในช่วงงาน LA Auto Show ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้

ที่มา Carscoops