เรื่องการจัดแบ่งประเภทหรือการแบ่ง Segment รถยนต์ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกของหลายๆท่าน ที่มักจะจำและสับสนกันอยู่ตลอดหลายครั้ง แน่นอนแม้แต่เซียนรถหลายท่านหรือแม้แต่ผู้เขียนยังจะสับสนและมึนงงอยู่ไม่น้อยครับ อย่างเช่นหลายคนที่ชอบเอา Fortuner ไปรวมกับ CR-V เอา Yaris 2013 ไปรวมกับ Jazz แน่นอนว่าด้วยจุดประสงค์การทำตลาดของแต่ละยี่ห้อที่อาจจะไม่ได้บอกชี้ชัด และการแบ่งประเภทรถที่อาจจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคด้วย ทำให้ตำแหน่งการตลาดเปลี่ยนด้วย ฉะนั้นเราจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับการแบ่งประเภทรถยนต์กันแบบชัดเจน และเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ท่านผู้อ่านมากขึ้นครับ
A-Segment
รถในกลุ่มนี้จะเป็นรถที่มีขนาดเล็กมาก เหมาะสำหรับใช้ขับเล่นในเมืองหรือแถบชานเมืองเสียมากกว่า เหมาะกับคนงบน้อย ต้องการใช้รถในเมืองแบบสบายๆ จอดเข้าซองได้สะดวก รถพวกนี้จะมีเครื่องยนต์ที่อยู่ในระดับพิกัดต่ำกว่า 660 CC. ไปจนถึงไม่เกิน 1000 CC. รถแนวนี้ในญี่ปุ่นก็จะเป็นประเภท Kei car ที่สงวนเฉพาะญี่ปุ่นครับ อย่างเช่น Honda N-Box,Suzuki Wagon-R,Daihatsu Mira เป็นต้น
ส่วนที่นอกจาก Kei Car ก็จะมีกลุ่ม Toyota Aygo,Citroen C1,Peugeot 108 หรือจะเป็น Suzuki Celerio ก็นับเป็น A-Segment นะครับ เพราะเครื่องยนต์รถไม่เกิน 1000 CC. ตามที่บอกเอาไว้ครับผ,
B-Segment
รถขนาดนี้ก็จะใหญ่ขึ้นมาจาก A-Segment ขึ้นมาหน่อย จะเป็นรถที่มีพิกัดเครื่องยนต์แถวๆ 1000 CC. ขึ้นไป-1500 CC. มีคุณภาพการตกแต่งภายในที่ดีขึ้นจาก A-Segment ราคาก็จะมากกว่า A-Segment พอตัว มีขนาดที่ใหญ่กว่า A-Segment รถแนวนี้เหมาะกับครอบครัวเล็กๆที่มีลูกตัวไม่ใหญ่มากครับ หรือจะเป็นวัยกำลังทำงานที่อยากได้รถมาขับสักคัน โดยเฉพาะตัวคนเดียวถ้าขับรถแนวนี้จะจุดของได้เยอะเลย ในเมืองไทยแบ่ง B-Segment ไว้ 2 ประเภทคือ
- ระดับอีโคคาร์ ก็คือ รถระดับ B-Segment ที่ถูกวางจำหน่ายในฐานะรถพลังงานประหยัดหรืออีโคคาร์ในเมืองไทย ซึ่งรถแนวนี้มักจะมีเครื่องยนต์พิกัด 1.2 ลิตรเสียส่วนใหญ่ครับ ยกตัวอย่างเช่น Nissan March,Mitsubishi Mirage,Honda Brio,Suzuki Swift,Toyota Yaris รุ่นปี 2013 ขึ้นไปเป็นต้น (ขอเสริมด้วยว่า Swift และ Yaris ก็คือรถ B-Segment ที่เคยวางตลาดใน B-Segment ปกติมาก่อน ก่อนที่จะตีตั๋วเข้าโครงการอีโคคาร์นั่นเองครับ)
- ระดับปกติ ก็คือ รถระดับ B-Segment ที่จะใหญ่ขึ้นกว่าอีโคคาร์ เครื่องยนต์ก็จะใหญ่ขึ้น ออปชั่นก็จะมีให้มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นด้วยครับ รถพวกนี้ก็ได้แก่ Toyota Vios,Honda City,Honda City,Honda Jazz,Ford Fiest,Mazda 2 เป็นต้น
C-Segment
จะเรียกมันก็ได้ว่า รถยนต์นั่งขนาดคอมแพกต์ ถือเป็นรถที่มีขนาดที่ไม่เล็กเกินไปสำหรับการเป็นรถครอบครัว แต่ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไปสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือการขับขี่ในฐานะรถส่วน บุคคล อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์และช่วงล่างให้มีสมรรถนะสูงแบบรถสปอร์ต ได้ง่าย ด้วยขนาดของรถยนต์และเครื่องยนต์ที่เหมาะสมและลงตัว ใช้ประโยชน์ได้ในหลายลักษณะ จึงทำให้มียอดขายค่อนข้างดีครับ รถแนวนี้จะมีความยาวในช่วง 4.4-4.75 เมตร ความจุเครื่องยนต์ก็จะอยู่ในระดับ 1.5-2.2 ลิตรโดยประมาณก็จะมี Toyota Corolla Altis,Honda Civic,Ford Focus หรือ Mazda 3 เป็นต้นครับ
D-Segment
รถยนต์นั่งขนาดกลาง ถือเป็นรถที่ใหญ่ขึ้นมาจาก C-Segment อีกระดับหนึ่ง มีการตกแต่งภายนอกและภายในที่หรูหรากว่า วัสดุมีคุณภาพสูงกว่า เครื่องยนต์ที่จะในรถแนวนี้จะเป็นเครื่องที่ค่อนข้างมีสมรรถนะที่สูงเพื่อรับกับขนาดของรถด้วย และสามารถเป็นรถครอบครับได้ด้วย เหมาะกับคนที่มีฐานะขึ้นมาหน่อยหากอยากได้รถที่หรูกว่า C-Segment รถพวกนี้ ได้แก่ Toyota Camry,Honda Accord,Nissan Teana,Ford Fusion,Mazda 6 เป็นต้น
E-Segment
นี่คือรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่สุด หรือจะเรียกว่า Full Size Car เป็นรถที่นิยมใช้กันในแถบอเมริกา แต่ไม่มีขายในไทย ในประเทศไทย อันเป็นเพราะว่าตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากราคาจะทับกับรถยนต์นั่งประเภทหรูหราระดับต้น ในการจ่ายเงินที่เท่ากัน รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ จะได้เพียงขนาดที่ใหญ่กว่า แต่อุปกรณ์ความหรูหรา และภาพลักษณ์ทางสังคม จะสู้รถยนต์นั่งประเภทหรูหราระดับต้นไม่ได้ ซึ่งฝ่ายการตลาดของหลายค่ายได้ประเมินตรงกันว่า ตลาดประเทศไทยต้องการความหรูหราและภาพลักษณ์มากกว่าขนาด จึงไม่กล้านำรถยนต์นั่งขนาดใหญ่จะเข้ามาขายในประเทศไทย รถพวกนี้ได้แก่ Toyota Avalon,Chevrolet Impala เป็นต้น
Entry-level luxury car/Compact Executive Car
รถแนวนี้จะมีขนาดที่พอๆกับรถยนต์ขนาดคอมแพกต์ในบ้านเรา แต่จะมีการตกแต่งภายในและวัสดุที่หรูหรามีคุณภาพกว่า ที่หรูหรากว่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง (ความจริงแล้ว รถยนต์ขนาดที่ใหญ่กว่า มักมีการตกแต่งภายในที่หรูหรากว่า แต่รถ Entry-level luxury car จะมีขนาดเท่ารถขนาดคอมแพกต์ แต่หรูกว่ารถขนาดกลาง) อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ในการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่มีพละกำลังและสมรรถนะสูง รถแนวนี้ได้แก่ BMW 3-Series,Mercedes-Benz C-Class,Lexus IS หรือ Audi A4 เป็นต้น
Mid-size luxury car
รถยนต์นั่งหรูหราระดับกลาง แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่ารถยนต์นั่งขนาดกลางธรรมดา อีกทั้งยังมีการตกแต่งที่หรูหราและมีคุณภาพมากกว่า อีกทั้งเครื่องยนต์มีขนาดใหญ่ สมรรถนะสูงกว่ามาตรฐานที่รถขนาดกลางหรือแม้แต่รถขนาดใหญ่ทั่วไปเลือกใช้ ค่ายรถยนต์จากฝั่งญี่ปุ่นจำนวนมากมีการทำตลาดรถแนวนี้ด้วยครับ รถพวกนี้ก็มี Mercedes-Benz E-Class,BMW 5-Series,Audi A6,Volvo S80,Lexus GS,Toyota Crown,Nissan Pressident เป็นต้น
Full-size luxury car
รถแนวนี้ถือเป็นสุดยอดรถหรูในระดับแถวหน้า เป็นเสมือนเรือธงของค่ายรถเก๋งทั้งหลาย ทั้งขนาด การตกแต่งภายใน กำลังสมรรถนะของเครื่องยนต์ ความสะดวกสบายภายใน รถยนต์ประเภทนี้แทบจะไม่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแบบที่ส่วนใหญ่ใช้ เพราะ ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบขึ้นไป จนถึง 12 สูบ ส่วนขนาดของลูกสูบส่วนใหญ่อยู่ที่ 4500 CC.และมีน้อยคันที่จะใช้เครื่องต่ำกว่า 3000 CC. ครับ รถแนวนี้ได้แก่ Mercedes-Benz S-Class,BMW 7-Series,Audi A8,Jaguar XJ,Maserati Quattroporte,Lexus LS เป็นต้น
Sports car
รถสปอร์ตหรือรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง รถแนวนี้ส่วนใหญ่จะมาแนว 2 ที่นั่ง ตัวถังคูเป้หรือจะตัวถังซีดานก็ตาม ก็นับเป็น Sports Car ซึ่งรถแนวนี้จะมากับการหั่นน้ำหนักให้เบากว่ารถปกติทั่วไป เพื่อรีดและเค้นสมรรถนะออกมาให้มากที่สุด รถที่มีชื่อเสียงก็จะมี Chevrolet Corvette,Mitsubishi Lancer Evolution,Subaru WRX STi,Toyota 86/Subaru BR-Z และอีกมากมายหลายคัน ค่าตัวของรถแนวนี้มักจะอยู่ราวๆ 2 ล้านต้น แต่ไม่เกิน 8 ล้านบาทไทย
Grand tourer
รถสปอร์ตแนวนี้จะตกแต่งให้มีความหรูหราขึ้นมากกว่า Sports Car ในอีกระดับ และจะมีสมรรถนะที่สูงกว่า การตกแต่งภายในที่หรูหรามีคุณภาพกว่า ซึ่งก็มีค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเข้าร่วมทำรถแนวนี้ ก็ได้แก่ Nissan GT-R รวมถึงรถยุโรป Porsche 911,Maserati GranTurismo,Aston Martin DB9 เป็นต้น
Supercar
รถแนวนี้จะเป็นรถที่ออกแนวไปในทางสปอร์ตเต็มตัว เน้นสมรรถนะเต็มๆ ซึ่งรถกลุ่มนี้เป็นกลุ่มรถในฝันของใครหลายคนด้วย เครื่องยนต์มากจะมีลูกสูบตั้งแต่ 6 สูบขึ้นไป รถแนวนี้ได้แก่ Lamborghini Huracan,Ferrari 458 italia,McLaren MP4-12C หรือซูเปอร์คาร์ที่ใหญ่ขึ้นอีกนิดนึงได้แก่ Ferrari F12,Lamborghini Aventador เป็นต้น
Hypercar
นี่คือสุดยอดรถทั้งหมดในบรรดาสปอร์ตทั้งปวง เป็นสุดยอดรถที่มีพละกำลังและสมรรถนะสูง ส่วนใหญ่จะมากับแรงม้าที่เกิน 700-800 แรงม้า บางรุ่นอาจมีมากถึง 1,000 แรงม้าหรือมากกว่านั้น ความเร็วสูงสุดอาจสามารถทะลุ 400 กม./ชม. ได้ รถแนวนี้ได้แก่ McLaren P1,Ferrari LaFerrari,Bugatti Veyron,Pagani Huayra เป็นต้น
หลังจากที่ร่ายกันมายาวพอสมควรจนเกิดความขี้เกียจกันไปข้างหนึ่ง ซึ่งหากต่อความยาวไปอีก เกรงว่าจะเสียเวลาเปล่าและคงทำให้ท่านผู้อ่านเมื่อยตา ฉะนั้นเราจะจบบทความไว้เพียงเท่านี้ และในตอนต่อไปจะกล่าวถึงรถอเนกประสงค์และรถกระบะครับ ติดตามกันให้ดีๆ
แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ตอบลบ