วันนี้ วันที่ 13 พ.ย. ก็เป็นหนึ่งในวันที่คนไทยต้องติดตาม เพราะ เป็นวันที่เชื่อว่าคนไทยหลายคนต้องรอคอยกันแน่ๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่ Ford Motor Company ได้ทำการเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ All-New Ford Everest เป็นครั้งแรกในโลกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และอยากจะบอกว่ารถคันนี้มันพกพาเทคโนโลยีและอะไรที่มากมายกว่าใครในกลุ่มรถประเภทเดียวกัน
Ford Everest ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Ford Ranger แม้จะเห็นว่ามันหรูกว่าใครไหนๆ แต่ขอย้ำ ณ ที่นี้ว่า Ford Everest คือรถประเภท PPV ตามหลักการเรียกของประเทศไทย เพราะยังไงก็ตาม ตราบใดที่มันนำเอาพื้นฐานจากรถกระบะมาพัฒนา มันก็ยังเป็น PPV อยู่วันยังค่ำ ในการสไตล์การเรียกแบบไทยจ๋า Only
หน้าตาของรถนั้น แทบอยากจะพูดเลยว่า มันไม่ได้ต่างจากรถต้นแบบเลย ต้นแบบหน้าตาแบบไหน รุ่นขายจริงก็หน้าตาฉันนั้น ซึ่งก็มีความเหมือนประมาณ 95% อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในส่วนกันชนหน้า ที่รุ่นขายจริงมีปุ่มฉีดน้ำไฟหน้าเพิ่มเข้ามา ตามด้วยล้ออัลลอยที่ปรับลดความหวือหวาจากรุ่นต้นแบบนิดหน่อย และใช้งานที่ดูเป็นรถถนนมากกว่ารถลุย บันไดข้างปรับรายละเอียดเล็กน้อย รายละเอียดที่เห็นจะเด่นสุดๆก็เห็นจะเป็นหลังคา Moonroof ซึ่งในเมืองไทยเราไม่มีรถ PPV คันไหนติดตั้งเลย แต่เชื่อเถอะ..มาไทยก็ตัดออก เพราะ มันก็ไม่น่ามีประโยชน์อะไรมาก
เข้ามาที่ภายในห้องโดยสารที่คอนโซลหน้าออกแบบให้ดูเรียบง่ายธรรมดา และแฝงไปด้วยความบึกบึนแข็งแรง และหรูหราด้วยห้องโดยสารโทนสีครีม ซึ่งผู้เขียนแม้จะไม่ได้สัมผัสตัวเป็นๆแต่ดูจากรูกก็กล้าพูดเลยว่ามันหรูหราที่สุดในรถระดับเดียวกันเลยละครับ ลูกเล่นเด็ดๆภายในรถคันนี้ก็มีมาก เริ่มที่ระบบเชื่อมต่อ SYNC 2 ผ่านสมาร์ทโฟนที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
แสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้วบนคอนโซล
ผู้ใช้งานยังสามารถตกแต่งวอลล์เปเปอร์หน้าจอทัชสกรีนได้ด้วยการอัพโหลดภาพ USB หรือ SD Card
ด้านเครื่องยนต์นั้นทาง Ford มีมาให้ 3 ขุมพลัง ได้แก่ เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร อีโคคาร์บูส และเครื่องดีเซล 2.2 ลิตรและ 3.2 ลิตร ดูราทอร์ค บล็อกเดียวกับ Ranger เป๊ะๆ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดาถึงแม้ว่าทาง Ford จะไม่ได้แจ้งสเปกแรงม้าและแรงบิดชัดเจน แต่ทาง Ford เคลมว่า แต่ยืนยันว่าเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตรและดีเซล 2.2
ลิตรมีความประหยัดน้ำมันที่สุดในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน
2.0 ลิตรนั้นมีพละกำลังมากกว่าเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรกันเลยทีเดียว
Ford ยังได้อัดเทคโนโลยีเข้าไปในรถแบบว่ามากกว่าใครเพื่อนเลย ซึ่งมันมีระบบบังคับเลี้ยว Electric Power Assisted Steering (EPAS)
ซึ่งปรับตามความเร็วรถ องศาพวงมาลัยและอัตราเร่ง
นั่นหมายถึงการมีน้ำหนักเบาเมื่อขับขี่ในเมืองเพื่อความคล่องตัว
แต่พวงมาลัยจะหนักยิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ระบบการเลือกปรับอัตราทด (Terrain Management System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
ระบบความปลอดภัยของรถและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่อัดแน่นแบบเยอะสุดๆ เยอะกองเท่าภูเขา Everest สมชื่อมันเลยทีเดียว ด้วยระบบความปลอดภัยที่มากมายหลายรายการที่ทำให้หลายคนต้องเงิบ ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Departure Warning) ,ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid), ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ,ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว (Adjustable Speed Limiter) ,ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ,ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Alert with Collision Mitigation)
,ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) ,ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam Control)
นอกจากนี้ Ford ยังให้มากกว่าด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยที่เลือกใช้โลหะซึ่งมีทนทานสูงสุด รวมถึงเหล็กกล้าผสมโบรอนห้องโดยสารมีถุงลมนิรภัยติดตั้งมาทั้งสิ้น 7 ตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า
ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และระดับเข่า
พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
และตัวยึดเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบริเวณเบาะนั่งแถว 2 และ 3
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (Emergency
Assistance) ของ Ford มาพร้อมฟังก์ชันการติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินผ่าน
ระบบ Sync ที่พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ
ทั้งนี้หากถุงลมนิรภัยทำงาน
หรือมีการตัดการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์โดยกะทันหัน Ford Sync
จะใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่
โดยหากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่จะสื่อสารได้
ระบบจะเปิดข้อความอัตโนมัติเพื่อรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ก่อนจะแจ้งสถานที่เกิดเหตุด้วยพิกัด GPS
All-New Ford Everest จะเริ่มวางขายในช่วงปีหน้า ทั้งในจีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย แอฟริการใต้และทั่วทั้งอาเซียน ส่วนไทยนั้นได้ข่าวมาว่ามันอาจจะมาโชว์ตัวที่ Motor Expo 2014 และจะเริ่มเปิดตัววางขายจริงช่วง Motor Show 2015 ครับ ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันครับว่า ถ้ามาไทยแล้วจะเป็นไง แต่ที่แน่ๆรถมันเด่นกว่าใครแน่นอน ออปชั่นเด่น ราคาก็น่าจะเด่นด้วย หุหุ...
แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย