เปิดตัว All-New Mitsubishi Triton ปลัดขิกคันนี้มีดีกว่าที่คิด เตรียมพิชิตตลาดกระบะ

  "มองแล้วนึกว่ารถจีน" "โฉมเก่าสวยกว่าเยอะ" "หมดกัน รอไฮลักซ์ใหม่ดีกว่า" "ไม่สวยเหมือนต้นแบบเลย"
   ความเห็นเหล่านี้คือความเห็นของใครๆหลายคนที่ได้เห็นกระบะรุ่นใหม่จาก Mitsubishi คันสีขาวที่หลุดออกมาจากโรงงาน เพียงไม่นานหลังจากภาพหลุดออกมา ทางคนในบริษัทต้องส่งข้อความมาตามลบทางโลกโซเชียลกันอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่จำความได้ตอนนั้นอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามภาพหลุดเหล่านี้ก็กระจายเรื่อยๆ แล้วก็มีภาพชุดใหม่มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพหลุดที่มีจักรยานอยู่บนท้ายกระบะ หรือจะเป็นภาพชิ้นส่วนแผงประตูและคอนโซลอีก 
 

   และช่วงเวลาเหล่านั้นก็ผ่านไปแล้ว เพราะณ เวลานี้ ค่าย Mitsubishi ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ของตนอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยข้อมูลกันแบบเต็มๆไม่หมกเม็ดกันเลยทีเดียวครับ

   วันนี้ 18 พ.ย. 57 Mitsubishi Motors Thailand ได้ทำการเปิดตัว All-New Mitsubishi Triton โฉมใหม่เป็นที่เรียบร้อย และเป็นการเปิดตัวในเมืองไทยครั้งแรกในโลก ภายใต้คอนเซปต์ "เปลี่ยน..ทุกความเชื่อ" และงานนี้ Mitsubishi ได้นำพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี มาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย

  มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย มร. มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวแนะนำ Triton ใหม่อย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชน ณ รอยัล จูบิลี บอลรูม เมืองทองธานีว่า Triton ใหม่นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของรถปิคอัพมิตซูบิชิ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ การเป็นที่สุดของรถปิคอัพอเนกประสงค์แบบสปอร์ต หรือ Ultimate Sport Utility Truck ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังรวมไปถึงความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยแนวคิด "เปลี่ยน...ทุกความเชื่อ" กับนวัตกรรมยานยนต์ที่ให้ประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ ด้วยคุณสมบัติหลัก 3 ประการ อันได้แก่

 - สมรรถนะสูงแต่ประหยัด - ครั้งแรกในรถปิคอัพ กับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงรหัส 4N15 MIVEC VG Turbo ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมเสื้อสูบและฝาสูบแบบอลูมินัม อัลลอย บล็อค กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น 20% และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

  - ความสะดวกสบาย - ห้องโดยสารออกแบบให้มีพื้นที่กว้าง นั่งสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง เงียบยิ่งขึ้นด้วยระบบลดเสียงรบกวน ครบด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย รวมทั้งระบบช่วงล่างใหม่ ลดแรงสะเทือน

  - ความปลอดภัยสูง - โครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body เพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทก ผลิตจากเหล็ก High Tensile Steel พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจ และปลอดภัยมากขึ้นตลอดการขับขี่   

     หน้าตาของรถนั้นก็ไม่ต่างจากภาพที่หลุดมาก่อนหน้านี้เลยครับ ที่หลายคนบ่นว่าไม่สวย พอมาดูในรูปจริงๆแล้ว หน้าตามันค่อนข้างดีขึ้นกว่าภาพที่หลุดออกมา คงจะเป็นเพราะเทคนิคการถ่ายภาพที่รีบๆเลยทำให้ภาพหลุดดูไม่สวยเท่าที่ควร แต่พอรูป Official ออกมามันดูดีขึ้นทันตา เริ่มต้นที่ไฟหน้าทรงสวย ยัดโคมโปรเจกเตอร์ HID พร้อม DRL ข้างในหลอด สิ่งที่ทำให้รถดูไม่ค่อยสวยก็คงจะเป็นกระจังหน้ารถที่ทำออกมาดูคล้ายๆกับ Mitsubishi Delica D:5 ซึ่งถ้าให้ออกความเห็นส่วนตัว ผู้เขียนคิดว่า ถ้าแกะโลโก้สามเพชรออก แล้วเปลี่ยนป้ายทะเบียน เราอาจจะคิดว่าเป็นกระบะจากจีนก็ได้ แต่ยังไงมันก็ดูสวยขึ้น ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 16-17 นิ้ว ไฟท้ายออกแบบดูแปลกตา มีติ่งยืนออกมาคล้ายๆไฟท้าย Nissan Almera เส้นสายตัวรถยังคงดูพลิ้วไหวสไตล์สามเพชร โดยรวมนั้นรถก็ดูดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยครับ โดยสัดส่วนตัวรถนั้น มีความยาว 5,280 มม. กว้าง 1,815 มม. และสูง 1,780 มม. 

   ภายในของรถ ยังคงตามเทรนด์กระบะรุ่นใหม่ๆด้วยแนวการออกแบบสไตล์รถเก๋ง คอนโซลทำออกมาได้ดีพอสมควร พวงมาลัยของรถยกมาจาก Mitsubishi Mirage มาพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ KOS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ปุ่มปรับระดับไฟหน้า ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็มีเครื่องเล่น DVD CD MP3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัส พร้อมระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และงานนี้ Mitsubishi ยังใส่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกซ้าย-ขวามาให้ด้วยนะครับ

   ด้านเครื่องยนต์นั้นถือเป็นไฮไลต์ของค่ายนี้ที่นำเอาระบบวาล์วแปรผัน MIVEC มาใช้กับรถกระบะครั้งแรก ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 4 สูบ มากับพละกำลัง 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตรที่ 2,500 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกตั้งแต่เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด และเครื่องตัวนี้ยังมากับเทคโนโลยีเทคโนโลยีการลดน้ำหนักด้วยเครื่องยนต์อลูมินัม อัลลอย บล็อค ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ 35 กก. แต่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน ระบายความร้อนดี การทำงานของเครื่องยนต์เงียบขึ้น จากอัตราส่วนกำลังอัดต่ำ 15.5:1 นอกจากนี้การใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้า (Steel Cylinder Liner) และการติดตั้งโซ่ไทม์มิ่ง ช่วยเพิ่มความทนทาน ยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ด้วยครับ

 ระบบความปลอดภัยของรถนั้นถือว่าจัดหนักมากกว่ารุ่นเก่า มีดีที่ติดถุงลมคู่หน้ามาให้ทุกรุ่นย่อย ระบบเบรก ABS EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA (เฉพาะ Double Cab 4x4 GLS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASTC ระบบออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ตสลิป กล้องมองหลัง 

   Mitsubishi Triton ใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 7 สีด้วยกันครับ ได้แก่ สีขาว Solid White, สีขาวมุก White Pearl, สีเทาดำ Titanium Gray, สีดำ Pyreness Black และสีน้ำตาล Quartz Brown ส่วนสีใหม่มี 2 สี ได้แก่ สีเขียว Earth Green และสีเงิน Sterling Silver เบื้องต้นเปิดให้จองเฉพาะรุ่น Double Cab Plus และ Double Cab 4x4 โดยมีค่าตัวดังนี้
Double Cab Plus

Mitsubishi Triton GLX	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	6MT	ราคา 791,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS	2.4 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน	5MT	ราคา 791,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	6MT	ราคา 838,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	5AT	ราคา 882,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS Navi	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	6MT	ราคา 881,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS Navi Double Cab 4x4	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	5MT	ราคา 925,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	6MT	ราคา 837,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS-LTD	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	6MT	ราคา 950,000 บาท
Mitsubishi Triton GLS-LTD	2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล	5AT	ราคา 1,008,000 บาท

   งานนี้ค่ายอื่นจะเป็นยังไงบ้าง ขอบอกเลยงานนี้มันแน่นอนครับ ไหนจะไฮลักซ์ใหม่มาอีกในปีหน้า บอกได้เลยว่า ตลาดกระบะมันสุดติ่งกระดิ่งแมวแน่นอน

แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!