หลังจากเมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวกระบะ Ram 1500 โฉมใหม่ ถือว่าผ่านมาหนึ่งปีแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของพี่ใหญ่อย่าง Ram Heavy Duty บ้าง ที่ทางผู้ผลิตยกย่องให้เป็นกระบะไซส์ยักษ์ที่ทรงพลังและมีความสามารถมากที่สุดในตลาด
ด้วยความสามารถในการลากจูงที่น้ำหนักสูงสุดถึง 14,288 กิโลกรัม และสามารถรองรับการบรรทุกได้ถึง 3,483 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว
และยังมีเครื่องยนต์บล็อกโตอย่างเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Cummins 6.7 ลิตรแบบ 6 สูบแถวเรียง พละกำลัง 400 แรงม้าที่ 2,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 1,354 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมีอีกรุ่นที่ใช้เครื่องเดียวกันแต่ปรับลดทอนพละกำลังลงมาเหลือ 370 แรงม้าที่ 2,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1,151 นิวตัน-เมตรที่ 1,700 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ตัวนี้จะติดตั้งใน Ram 3500 HD เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานใน Ram 2500 และ 3500 HD นั่นก็คือเครื่องยนต์เบนซิน Hemi V8 ขนาด 6.4 ลิตร พละกำลังสูงสุด 410 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 581 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นบนสุดจะมากับเกียร์อัตโนมัติ AS69RC จาก Aisin แบบ 6 สปีด ซึ่งออกแบบให้รองรับแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์ 6 สูบและยังมีการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องไม่สะดุดอีกด้วย ส่วนเครื่องดีเซลตัวเดียวกันที่พละกำลังต่ำกว่าจะใช้เกียร์อัตโนมัติ 68RFE แบบ 6 สปีดที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ส่วนเครื่องยนต์เบนซินจะใช้เกียร์อัตโนมัติ TorqueFlite 8HP75 8 สปีด ทุกรุ่นจะมากับระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ shift-by-wire และในรุ่น Hemi V8 จะมีปุ่มหมุน e-shift ที่ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลางฝั่งคนขับด้วย
Ram 2500 และ 3500 HD ยังมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจาก BorgWarner ที่เป็นแบบ part-time แต่จะมีกลไกการปรับเปลี่ยนแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือปรับด้วยตัวเองนั้นขึ้นอยู่กับรุ่นรถ นอกจากนี้ใน Ram 3500 HD คือเพลาล้อหลัง AAM ใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น 12 นิ้ว
Ram HD ทั้งหมดทุกรุ่นจะมากับเฟรมใหม่ทั้งหมดที่ทำจากเหล็กความแข็งแรงสูงร้อยละ 98.5 และแม้จะมีการเสริมความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมก็ตาม แต่น้ำหนักโดยรวมก็ลดลงถึง 65 กิโลกรัมอันเป็นผลมาจากการใช้เฟรมที่ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา เช่นเดียวกับชุดระบบส่งกำลังและฝากระโปรงหน้าอลูมิเนียม
สำหรับระบบช่วงล่างนั้น นำเสนอโช้คอัพแบบ Frequency Response Damping (FRD) ทั้ง 4 ต้นโดยทางผู้ผลิตอ้างว่า มีช่วงล่างที่คล้ายกับรถสปอร์ตทั้งในเรื่องการควบคุมและการดูดซับแรงกระแทกที่นุ่มนวลบนพื้นผิวขรุขระ นอกจากนี้ทั้ง Ram 2500 และ Ram 3500 HD มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Active-Level ที่มีคลาสพร้อม Bed-lowering Mode
Ram HD โฉมใหม่จะได้แรงบันดาลใจการออกแบบจาก Ram 1500 ทั้งภายในและภายในนอก แต่มีการปรับรายละเอียดให้ดูบึกบึนและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยมากับกระจังหน้าที่แตกต่างกันถึง 6 แบบในแต่ละรุ่น และมีไฟหน้าทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ไฟหน้าฮาโลเจน, ไฟหน้า Full LED / Reflector , และไฟ หน้า Full LED /โปรเจ็กเตอร์ที่มีระบบAdaptive Front-lighting System (AFS)
ภายในห้องโดยสารนั้นจะติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ Uconnect 4C NAV ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาด ใหญ่ 12 นิ้ว การตกแต่งภายในแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีความแตกต่างกัน
สำหรับ Ram HD โฉมใหม่จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานประกอบรถบรรทุก Saltillo ในเมือง Coahuila ประเทศเม็กซิโก
ที่มา Carscoops
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย