จั่วหัวไว้ชัดเจนว่าเป็น MY2017 ดังนั้นจึงไม่มีการปรับปรุงการออกแบบหน้าตาใหม่ของรถทั้งสิ้น มีเพียงแค่การตกแต่งหรือเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนบางจุดให้ดูดีขึ้นเท่านั้น ภายนอกมีการเสริมโครเมียมบริเวณกรอบไฟตัดหมอกให้ดูหรูขึ้น (ในรุ่นบนๆ) และคราวนี้ในรุ่นท็อปของเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรมีการเพิ่มไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์พร้อม Daytime Running Lamp มาให้
นอกจากนี้ในส่วนของกระจกมองข้างมีการย้ายตำแหน่งไฟเลี้ยวใหม่ ติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลามในตัวถัง Hatchback รุ่นบนๆ ล้ออัลลอยยังไม่มีการเปลี่ยนลาย แต่ในรุ่น 1.3 ลิตรตัวบนจะรมดำล้อขนาด 15 นิ้วมาให้ด้วย ส่วนล้อ 16 นิ้วในรุ่น 1.5 ดีเซลเกรดบนๆก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งโทนสีภายในใหม่ให้หรูหราขึ้นกว่าเดิม รุ่นบนๆนั้นจะใช้โทนสีน้ำตาลบนคอนโซลและแผงประตูและตกแต่งกรอบช่องแอร์ด้วยสีทองแดง ส่วนรุ่นอื่นๆจะใช้โทนสีดำและเงิน ในรุ่นบนๆจะมีเบาะหนังหุ้มหนังกลับแบบรถสปอร์ตหรูมาให้ด้วย การเปลี่ยนแปลงภายในที่เห็นชัดเลยคือพวงมาลัยทรงใหม่ และออกแบบรายละเอียดมาตรวัดใหม่ ปรับปรุงจอ Active Driving Display ให้แสดงผลเป็นสีสันที่สวยงามขึ้น และในส่วนของรุ่นที่มีหน้าจอจะมีการปรับปรุงชุดหน้าจอ Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้วใหม่ และยังคงมีปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มาให้ตามเคย และสำหรับรุ่นท็อปสุดเครื่องดีเซลคือจะมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมาให้ด้วย
สำหรับขุมพลังนั้นยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยมากับเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv-G 1.3 ลิตร พละกำลัง 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับถึงแค่ E20 เท่านั้น และเครื่องยนต์แบบ SkyActiv Clean Diesel 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE
ทางด้านระบบความปลอดภัยนั้นทาง Mazda ก็ได้เพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่มาให้กับรถเล็กอย่าง Mazda 2 เพื่อยกระดับมาตรฐานของรถกลุ่มนี้ให้สูงขึ้นอีก โดยจะมีระบบต่างๆดังนี้
- กล้องมองหลัง (ตั้งแต่รุ่น 1.3 High ขึ้นไปและ 1.5 ทุกรุ่น)
- ระบบเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (รุ่น 1.3 High ขึ้นไป และ รุ่น 1.5 XD High Connect ขึ้นไป)
- ระบบล็อกประตูอัติโนมัติ และถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring) เฉพาะรุ่น 1.5 XD High Plus L
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เฉพาะรุ่น 1.5 XD High Plus L
- ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
- ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
Mazda 2 MY2017 มีทั้งหมด 7 สีให้เลือก ได้แก่ แดง Soul Red, ขาว Snowflake White Pearl, สีน้ำตาล Titanium Flash, เงิน Aluminum Metallic และสีใหม่ 3 สีด้วยกัน ได้แก่ น้ำเงิน Eternal Blue, เทา Meteor Gray Mica และดำ Jet Black
Mazda 2 MY2017 มีจำหน่ายทั้งหมด 7 รุ่นย่อยด้วยกัน
เครื่องยนต์เบนซิน
- 1.3 Standard ราคา 530,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 1,000 บาท)
- 1.3 High ราคา 590,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 1,000 บาท)
- 1.3 High Connect ราคา 620,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 3,000 บาท)
- 1.3 High Plus ราคา 670,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 26,000 บาท)
- 1.3 High ราคา 590,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 1,000 บาท)
- 1.3 High Connect ราคา 620,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 3,000 บาท)
- 1.3 High Plus ราคา 670,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 26,000 บาท)
เครื่องยนต์ดีเซล (ยกเลิก 1.5 XD High และ 1.5 XD High Plus)
- 1.5 XD ราคา 680,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 26,000 บาท)
- 1.5 XD High Connect ราคา 750,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 22,000 บาท)
- 1.5 XD High Plus L ราคา 789,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 10,000 บาท)
- 1.5 XD High Connect ราคา 750,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 22,000 บาท)
- 1.5 XD High Plus L ราคา 789,000 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 10,000 บาท)
Mazda 2 MY2017 จะลงโชว์รูมพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 18 ก.พ. นี้ครับ
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย