Mercedes-Benz G-Class ถือเป็นรถเอสยูวีทรงกล่องสุดคลาสสิกที่อยู่ในตลาดมานานกว่าสี่ทศวรรษ และล่าสุดทางค่ายดาวสามแฉกก็ได้ทำการเปิดตัวเจเนเรชั่นที่ 2 ของ G-Class เพื่อสานต่อตำนานนีิ้ โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกในงาน North American International Auto Show 2018 ที่กำลังจัดขึ้นอยู่ในขณะนี้
แม้ตัวรถจะถูกเรียกว่า "All-New" โฉมใหม่หมดจด แต่ดูจากรูปทรงแล้วนั้นถือว่ายังคงรักษาเอกลักษณ์ความคลาสสิกแบบรุ่นเดิมไว้ครบถ้วน ด้านหน้ายังคงมากับไฟหน้าทรงกลมและกระจังหน้า 3 แถวที่เราคุ้นเคย แต่มีการออกแบบทรวดทรงด้านหน้าให้มีมิติความโค้งมนมากขึ้น เช่นเดียวกับฝากระโปรงหน้าและกันชนที่มีความมนมากขึ้นเพื่อปรับปรุงแอโร่ไดนามิกให้ดีกว่าเดิม
ด้านข้างรถสังเกตได้ชัดว่ากรอบประตูรถและกรอบกระจกออกแบบให้มีความมนมากขึ้น ยังคงความคลาสสิกด้วยการติดตั้งแถบกันกระแทกด้านข้าง ต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายที่มีการออกแบบกันชนท้ายใหม่ให้มนขึ้น ติดตั้งล้ออะไหล่บริเวณฝาท้ายซึ่งถือว่าเป็นการคงเอกลักษณ์ความคลาสสิก
แม้โฉมภายนอกที่ดูคลาสสิกไม่ต่างจากโฉมเก่า แต่ภายในถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่โดยได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นตามรอยรถเก๋งรุ่นใหม่ๆในค่าย เข้ามาภายในห้องโดยสารจะพบกับพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่เหมือนที่เห็นมาแล้วใน CLS โฉมล่าสุด , ช่องแอร์ทรงใหม่แบบทรงกลมที่ยกมาจาก E-Coupe และ CLS รวมทั้งปุ่มควบคุมต่างๆนั้นก็ยกมาจาก Mercedes-Benz รุ่นใหม่ๆหลายรุ่น ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือชุดหน้าจอตรงกลางขนาด 12.3 นิ้วขนาดใหญ่ และได้มาตรวัดแบบอนาล็อคเป็นมาตรฐาน ซึ่งถ้าสั่งออปชั่นเพิ่มก็จะได้มาตรวัดดิจิตอลและจอใหญ่ขนาด 12.3 นิ้วติดกัน 2 จอแบบในรูปเลย การตกแต่งภายในนั้นจะมีให้เลือกทั้งลายไม้ , โลหะสีเงิน หรือ คาร์บอนไฟเบอร์ สำหรับแผงประตูก็ได้มีการออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้นแต่ก็ยังคงความคลาสสิกแบบรุ่นเดิมอยู่
ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 7 ตัวเป็นมาตรฐานใน G-Class โฉมล่าสุด แต่ลูกค้าสามารถสั่ง
ออปชั่นระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Burmester จำนวน 16 ลำโพง เบาะนั่งหุ้มหนังคุณภาพสูงพร้อมระบบ Multicontour Seat ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษซึ่งมีระบบปรับอุ่น , ระบบระบายอากาศและฟังก์ชั่นนวด และยังมีตัวเลือกการตกแต่งอื่นๆอีกมากมาย เช่น เบาะหนังแบบ Lugano ที่มีให้เลือกทั้งสีดำ Black, สีน้ำตาล Nut Brown หรือสีเบจ Macchiato Beige หากยังหรูหราไม่พอยังสามารถสั่งออปชั่น Exclusive Interior Plus ซึ่งจะได้เบาะหนังหุ้มหนัง Nappa รวมทั้งหุ้มหนังบริเวณประตู , คอนโซลกลางและแดชบอร์ด
All-New Mercedes-Benz G-Class ยังมีการปรับปรุงให้มีการสั่นสะเทือนและมีเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยลง และมีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้มีพื้นที่สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นบริเวณช่วงขา , ไหล่ และข้อศอก ยิ่งเฉพาะเนื้อที่ห้องโดยสารหลังโดยที่มีการเพิ่มพื้นที่วางขาถึง 150 มิลลิเมตรเลยทีเดียว
เบื้องต้น All-New Mercedes-Benz G-Class จะมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ มากับพละกำลังสูงสุด 416 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 609 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
แม้ว่าโฉมใหม่นี้จะโฟกัสไปที่ความหรูหราและสะดวกสบายเยอะพอสมควร แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายการขับขี่แบบออฟโรด ด้วยการติดตั้งเฟรมแบบขั้นบันไดพร้อมเฟืองท้ายแบบ Diff-Lock 100% การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็คือการใช้ระบบช่วงล่าง/ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ สำหรับเพลาหน้าและเพลาหลังก็เปลี่ยนใหม่หมดซึ่งจะช่วยในการขับขี่ทางสมบุกสมบันได้ดีมากขึ้น
ในการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งมวลนั้นทำให้ All-New Mercedes-Benz G-Class มีมุมไต่อยู่ที่ 31 องศา และมุมจาก 30 องศา สามารถวิ่งลุยน้ำที่ระยะความลึก 70 เซนติเมตร พื้นรถทำมุมคร่อมกับพื้นทางลาดชันได้สูงสุด 26 องศา โดยมีระยะต่ำสุดจากพื้นรถอยู่ที่ 241 มิลลิเมตร
All-New Mercedes-Benz G-Class ยังออกแบบหม้อเกียร์ถ่ายทอดกำลังใหม่ รวมทั้งยังมีโหมดการขับขี่ใหม่ G-Mode ที่จะเซตคันเร่ง พวงมาลัย ปรับระดับแดมเปอร์เพื่อรองรับในการขับขี่ออฟโรดแบบขั้นสุด นอกจากนี้แล้วระบบกันสะเทือน/ช่วงล่างก็ใช้ของ AMG ตัวรถใช้วัสดุอะลูมิเนียมทำให้มีน้ำหนักเบาลงจากเดิม 170 กิโลกรัม
All-New Mercedes-Benz G-Class จะเริ่มวางขายในบ้านเกิดที่เยอรมนีในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ในราคาเริ่มต้นที่ 107,040.50 ยูโร หรือประมาณ 4,149,000 บาทยังไม่รวมภาษีในไทย
ที่มา Carscoops
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย