ภายในงาน Detroit Auto Show 2018 (ชื่อเต็ม North American International Auto Show 2018) ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็ได้มีการเปิดตัวซีดานหรูระดับเรือธงของสหรัฐอย่าง All-New Toyota Avalon รถระดับ E-Segment ที่ทำตลาดสูงกว่า Toyota Camry
All-New Toyota Avalon ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ TNGA Platform เช่นเดียวกับ Prius โฉมล่าสุด , Camry โฉมล่าสุด และ C-HR มีขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นแต่เตี้ยลงโดยมีขนาดตัวยาว 4,978 มิลลิเมตร กว้าง 1,849 มิลลิเมตร และสูง 1,435 มม. มีความยาวฐานล้อ 2,870 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบให้หรูหราและสะดุดตามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์กันชนหน้าแอบมีการนำกลิ่นอายของ Lexus เข้ามาใส่ซึ่งทำให้ดูดุดันและเกรี้ยวกราด มาพร้อมกับไฟหน้าทรงเรียว เส้นสายด้านข้างดูมีความโฉบเฉี่ยวและเฉียบคมกว่าเดิม ตัวถังดูมีมัดกล้ามมากขึ้น ต่อเนื่องจนไปถึงด้านท้ายที่มากับไฟท้ายดีไซน์เรียวกว่าเดิมพร้อมลูกเล่นแถบสีแดงลากยาวตั้งไฟท้ายด้านซ้ายจรดด้านขวา
ภายในห้องโดยสารมีดีไซน์ที่ดูล้ำสมัยผสมผสานกับความหรูหรา บริเวณมาตรวัดมีการติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้วที่แสดงข้อมูลต่างๆของรถ , การตั้งค่าระบบความปลอดภัย , ระบบนำทางและฟังก์ชั่นอื่นๆ และยังมีออปชั่นเสริมอย่างหน้าจอ Head-Up Display ขนาด 10 นิ้ว ตรงกลางแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ Entune 3.0 สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi hotspot ได้
นอกจากนี้ยังมีออปชั่นระบบเครื่องเสียงที่มาพร้อมลำโพงจาก JBL 14 ตัว กำลังขับ 1,200 วัตต์ , ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย , Toyota Remote Connect ที่เชื่อมต่อกับ Smartwatch , ระบบเชื่อมต่อกับ Amazon Alexa Connectivity, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay , ช่องต่อ USB 5 พอร์ต รวมทั้งตัวเลือกเบาะหนังและลายไม้อีกหลากหลายแบบ
All-New Toyota Avalon จะมีทางเลือกขุมพลัง 2 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ Hybrid (น่าจะเท่า Camry ที่มีพละกำลัง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ชนิดนิกเกิลเมทัลไฮดราย มีกำลัง 120 แรงม้า รวมกำลังทั้งระบบ 211 แรงม้า) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
และเบนซิน 3.5 ลิตร V6 (น่าจะมีพละกำลังเท่า Camry ที่ 301 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 362 นิวตัน-เมตร) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
All-New Toyota Avalon ยังมีการปรับปรุงระบบช่วงล่างโดยมาพร้อมกับโช้คอัพที่ปรับระดับได้ ช็อคแอบชอร์บเบอร์ทั้งสี่ล้อมาพร้อมกับวาล์วควบคุมทิศทางสำหรับซับแรงกระแทก ส่วนช่วงล่างด้านหลังจะเป็นแบบมัลติลิงก์
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 แบบ ได้แก่ Eco, Normal และ Sport และสำหรับรุ่นย่อย Touring จะมีโหมด Sport+ ให้ใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ Toyota ยังมีระบบลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ปรับปรุงเสียงเครื่องยนต์ให้ดีขึ้น ปรับปรุงท่อไอเสียใหม่ด้วย
สำหรับระบบความปลอดภัยนั้นจะมีการติดตั้ง Toyota Safety Sense P ซึ่งจะมาพร้อมกับ
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชนพร้อมระบบเตือนการชนคนเดินเท้า Pre-Collision System with Pedestrian Detection
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบเตือนไม่ให้ออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Alert with Steering Assist
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams
ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆก็จะมี
- ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้างและขณะถอยหลัง Blind Spot Monitor with Rear Cross Traffic Alert,
- กล้องมองหลัง Back Guide Monitor
- ระบบแสดงภาพมุมสูงพร้อมระบบเตือน Panoramic View Monitor with Alert
- ระบบโซนาร์ตรวจจับที่ทำงานร่วมกับระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Intelligence Clearance Sonar with Rear Cross Traffic Braking system.
All-New Toyota Avalon ยังไม่มีการเปิดราคาจนกว่าจะเริ่มเปิดขายที่สหรัฐฯช่วงเดือนมีนาคม ส่วนเมืองไทยอดใช้ตามระเบียบ
ที่มา Carscoops
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย