ค่ายรถสปอร์ตแดนผู้ดีอย่าง McLaren ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลของ "Senna" รถไฮเปอร์คาร์พลังแรงคันใหม่ ก่อนจะนำไปโชว์ตัวต่อสาธารณะชนภายในงาน Geneva Motor Show 2018 ที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนมีนาคมนี้
McLaren Senna ถือเป็นหนึ่งในรถที่มาแนวรถแข่งแต่สามารถวิ่งบนท้องถนนทั่วไปได้อย่างถูกกฎหมาย ติดตั้งขุมพลังเบนซิน 4.0 ลิตรเทอร์โบคู่ V8 ที่มากับพละกำลังสูงสุด 800 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร และมากับน้ำหนักตัวที่เบาแค่ 1,198 กิโลกรัมเท่านั้นอันเนื่องมาจากการใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมในหลายๆจุด
ไม่เพียงเท่านั้น ไฮเปอร์คาร์พันธุ์แรงคันนี้ยังมากับอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาทีเท่านั้น และทะยานไปถึง 200 กม./ชม. ในเวลา 6.8 วินาที สามารถวิ่งในระยะทาง 1/4 ไมล์ได้ในเวลา 9.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.
ระบบส่งกำลังได้ทำการติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 7 สปีด พร้อมระบบ RaceActive Chassis Control II (RCC II) ที่สามารถปรับการทำงานของโช้คอัพได้ ล้อรถหุ้มด้วยยาง Pirelli P ZERO Trofeo R นอกจากนี้แล้ว Senna ยังติดตั้งระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่ McLaren ติดตั้งในรถบนถนนเลยก็ว่าได่ หรือแม้แต่ดิสก์เบรกแบบพิเศษ CCM-R ที่ทำจากคาร์บอนเซรามิคแต่ละแผ่นใช้เวลาผลิตนานร่วมเดือนเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วคาลิปเปอร์เบรกด้านหน้าได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง F1 มีลูกสูบระบายอากาศ 6 ตัวเพื่อช่วยระบายความร้อน
ดีไซน์ภายนอกนั้นถือว่ามีความดุดันและก้าวร้าวกว่า McLaren รุ่นอื่นๆที่ผ่านมา มองเผินๆก็เหมือนรถแข่งที่วิ่งในสนามและยังคงดีไซน์ตามแนว McLaren ยุคใหม่ไว้อยู่ ด้านหน้าจะมีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ประตูรถคู่หน้ามีการใส่ลูกเล่นกระจกบริเวณบานประตูเพื่อให้มองทะลุภายในห้องโดยสาร ต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายที่มากับสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 4.87 กิโลกรัมเท่านั้นแต่ออกแบบให้สามารถรับแรงกดได้มากกว่า 100 เท่าของน้ำหนักสปอยเลอร์เลยทีเดียว
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และหนัง Alcantara ลูกค้าสามารถผู้ซื้อสามารถสั่งออปชั่นอย่างหนังชั้นคุณภาพสูง หรือเลือกแพ็คเกจ Touring ที่จะมากับเบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์ ในขณะที่เซ็นเซอร์กะระยะถอยจอด , กล้องมองหลังติดตั้งมาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมทั้งลำโพงน้ำหนักเบาจาก Bowers & Wilkins จำนวน 7 ตัวด้วย ซึ่งเมื่อรวมแล้วมีน้ำหนักแค่ 7.32 กิโลกรัมเท่านั้น
McLaren Senna ผลิตจำนวนจำกัดแค่ 500 คัน วางราคาจำหน่าย 750,000 ปอนด์ หรือประมาณ 33,012,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีไทย) ซึ่งต่อให้มีเงินตอนนี้ก็ไม่สามารถซื้อได้แล้วเพราะรถถูกขายหมดเกลี้ยงเรียบร้อย โดยคันที่ 500 นั้นถูกประมูลขายในราคา 2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 88,237,000 บาทไทย
ภาพจาก Carscoops
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย