เปิดตัว Honda Mobilio MPV รุ่นใหม่ในเมืองไทยแล้ว : สวยสุดในอนุกรม Brio ในราคาที่สมเหตุสมผล

  หลังจากที่ได้ยินข่าวลือมาจะเปิดไทยในไทยมานานแสนนาน ประกอบกับความเงียบของค่ายที่ Honda เก็บไว้อย่างดีจนเรียกได้ว่า แทบไม่ปล่อยไก่ออกมากันเลยทีเดียวครับ และล่าสุด Honda เจาะตลาดกลุ่มรถมินิ MPV อีกรุ่นต่อจาก Freed ด้วยการเปิดตัว Honda Mobillio ใหม่ในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ชูคอนเซ็ปต์ for MODERN & BIGGER LIFE เพื่อชีวิตยุคใหม่ที่ใหญ่กว่า

   นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันฮอนด้านำเสนอยนตรกรรมในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ 3 รุ่น ได้แก่ Odyssey, Stepwagon Spada และ Freed เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และการใช้งานในหลายรูปแบบ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี สำหรับ Honda Mobilio ใหม่นี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 4 ของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มาเติมเต็มความต้องการของตลาดในระดับต้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ และนับเป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย

   นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยแผนงานด้านการสื่อสารการตลาดว่า Honda Mobilio ใหม่ ใช้คอนเซ็ปต์การสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด Mobilize the Modern Life ขับเคลื่อนชีวิตทันสมัย...ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ตอบโจทย์ทุกด้านของการใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยเป็นการนำเสนอจุดเด่นของ Honda Mobilio ที่สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ที่มีความเปลี่ยนแปลงและหลากหลายมากขึ้น ถ่ายทอดเป็นคำจำกัดความ All-new Honda Mobilio for Modern & Bigger Life ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตยุคใหม่ ที่เปิดกว้างและทำกิจกรรมได้หลายอย่าง

   มาเริ่มมองที่หน้าตาก่อนเลยครับ ดูผิวเผินแล้วหลายคนจะต้องออกความเห็นกันว่า มันคือ "Brio ขยายร่าง" ซึ่งก็ไม่ผิดครับ เพราะที่จริงมันคือการนำเอา Brio มาต่อตูตเปลี่ยนประตูคู่หลัง ทำฝาท้ายหล่อๆ ปรับหน้าให้เท่ขึ้นนั่นเอง แนวการออกแบบรถคันนี้ก็ถือว่า "สวย" ถือว่าเป็นหนึ่งในรถจากอนุกรมของ Brio ที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ครับ มากับแนวการออกแบบที่เรียกว่า Dual Solid Motion ผสมผสานระหว่างรูปทรงของตัวถังที่ปราดเปรียว และกระจกด้านข้างตัวรถที่เรียงต่อกันจากหน้ารถเชื่อมต่อไปยังด้านท้ายรถ แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวอันทรงพลัง แนวการออกแบบด้านหน้ามากับแนวการออกแบบในธีม Exciting H Design!!! ในรุ่นท็อป RS คุณจะได้ไฟหน้าโปรเจกเตอร์พร้อมไฟหรี่แบบ LED สุดเท่ ที่ทำเอาพี่น้องร่วมค่ายอย่าง City/Jazz ต้องเงิบ เพราะไม่ได้มีอย่างเจ้าคันนี้เลย กระจังหน้าทรงดุดัน สเกิร์ตรอบคัน กันชนหน้าหลังแบบสปอร์ต ปลายท่อไอเสียสแตนเลส ล้ออัลลอยในรุ่นท็อปจะเป็นแบบ 15 นิ้วสุดเฟี้ยวที่ลายล้ออาจจะดูทะแม่งๆไปนิด รุ่นรองลงไปก็จะได้ล้อแม็ก 15 นิ้วที่น่าจะดูดีกว่า รุ่นล่างสุดจะได้ล้อกระทะพร้อมฝาครอบล้อ 15 นิ้ว ที่ลายฝาครอบสวยกว่า City/Jazz อีก กระจกมองข้างจะใช้ร่วมกับ City/Jazz รุ่นล่าสุด ต่างจากประเทศอื่นที่จะใช้กระจกมองข้าง City/Jazz ตัวเก่า

เส้นสายตัวรถครึ่งคันหน้ามาจาก Brio ทั้งหมด ต่อเนื่องไปจนประตูหลังที่มีลูกเล่นหักมุมขอบประตูเล็กน้อย บางคนไม่ชอบและอาจขัดใจจุดนี้ แต่ถ้าใครชอบหรือเฉยๆก็ไม่มีปัญหาครัย เส้นสายต่อเนื่องไปจนประตูหลัง และไปจนถึงเสา C ที่มองแล้วให้อารมณ์เหมือน Civic Tourer ของเมืองนอกนิดๆ โดยรวมก็ถือว่าสวยงามลงตัวมากเลยทีเดียว

  ภายในของ Honda Mobilio ก็คือการยกคอนโซลหน้าของ Brio มานั่นแหละครับ แต่มีการปรับปรุงให้ดูดีกว่าและมีชาติตระกูลกว่าบ้าง ความแตกต่างที่เห็นชัดก็คือกรอบช่องแอร์ตรงคอนโซลกลางและฝั่งคนขับมีการเพิ่มวัสดุสีเงินครอบทำให้ดูดีขึ้น มาตรวัดแสดงผลตรงหน้าปัดสีฟ้า ต่างจาก Brio ที่เป็นสีส้ม ในรุ่นท็อปมีลูกเล่นให้เราหลายอย่างเลย ทั้งหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วแบบ Advance Touch เชื่อมต่อได้ทั้ง USB/AUX/HDMI รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และระบบ Bluetooth รวมทั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ซึ่งออปชั่นเจ๋งๆที่กล่าวมานี้ มีแต่ใน"รุ่นท็อป"ครับ ก็จะมี USB AUX ที่จะมีในรุ่นล่าง รวมทั้งระบบปรับอากาศด้านหลังจะมีตั้งแต่รุ่น V ขึ้นไป  

  การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในมากับแนวคิด  Prime Comfort เบาะที่นั่งที่กว้างขวาง ให้สัมผัสนุ่ม พื้นที่วางขาที่กว้างขึ้น และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่ใหญ่และใช้งานสะดวก รูปทรงหลังคาไล่ระดับ ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ซึ่ง Honda Mobilio มีเบาะนั่งแบบ 2 แถวในรุ่น S และเบาะนั่งแบบ 3 แถวในรุ่น V และ RS ซึ่งมีรายละเอียดตามนี้ครับ
 
- เบาะนั่งด้านหน้าดีไซน์สปอร์ต พนักพิงหลังถูกออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกับพนักพิงศรีษะ ช่วยโอบกระชับสรีระของผู้โดยสาร ให้ความสะดวกสบายในขณะขับขี่

- เบาะนั่งแถวที่ 2 ในรุ่น S เพิ่มพื้นที่วางขา พื้นที่บริเวณเข่า และพื้นที่วางเท้าให้มากขึ้น สามารถพับเบาะนั่งแยกแบบ 60:40 พร้อมพับจังหวะเดียว (One Motion) พนักพิงพับราบและปรับเอนได้ 3 ระดับ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 ในรุ่น V และ RS สามารถปรับเบาะนั่งให้เลื่อนหน้า-หลังได้ 100 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้โดยสารแถวที่ 3 ขึ้นลงได้สะดวกขึ้น

- เบาะนั่งแถวที่ 3 เฉพาะรุ่น V และ RS ให้พื้นที่วางขาที่กว้างสบาย สามารถพับราบและพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ คือ พับเบาะลงได้เรียบ และสามารถพับต่อไปด้านหน้า เพื่อให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมากที่สุด ส่วนพนักพิงยังปรับเอนได้ 2 ระดับ

    นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารของ Honda Mobilio ทุกรุ่น ยังได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย และความสะดวกสบายที่ครบครัน มาตรวัดเรืองแสงสีฟ้า ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ช่องจ่ายไฟสำรอง ที่วางแก้วน้ำ 11 ตำแหน่ง ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง และกระจกมองหลังแบบตัดแสง

   ด้านเครื่องยนต์นั้น Honda Mobilio ได้ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC มากับพละกำลัง 120 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี EarthDream Technology และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

   ในด้านระบบความปลอดภัย ถือว่าจัดมาให้ครบครันพอสมควร ตั้งแต่ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 3 จุด 2 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 เป็นแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง, ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สำหรับรุ่น RS เพิ่มความสะดวกในขณะถอยหลังด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Auto Door Lock By Speed

   Honda Mobilio มีให้เลือก 4 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ รุ่น S M/T ราคา 597,000 บาท,รุ่น S A/T ราคา 642,000 บาท,รุ่น V A/T ราคา 682,000 บาท และรุ่น RS A/T ราคา 739,000 บาท ซึ่งการมาถึงของ Mobilio น่าจะทำให้ตลาดของมินิ MPV ต้องสะเทือนบ้างนิดๆ แล้วใครที่คิดว่ามันจะไปทับหรือไปแย่งยอดขาย Freed หรือไม่ แต่ตัวรถเป็นคนละระดับกัน เพราะ Freed จะดูหรูกว่า แต่อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่เราก็ต้องรอดูในระยะยาวครับ แต่ ณ เวลานี้ Toyota Avanza,Suzuki Ertiga และ Chevrolet Spin เงิบกันแป๊บ....

 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!