กว่าจะมาเป็นสปอร์ตรูปหล่อ Mercedes-Benz AMG GT ได้ ค่ายดาวสามแฉกต้องรับฟังคำติชมต่างๆและประสบการณ์จากการพัฒนารถสปอร์ต SLS AMG มาต่อยอดและพัฒนารถบนพื้นตัวถังใหม่จนกลายมาเป็น AMG GT ที่สำคัญผู้บริหารด้านการดีไซน์รถของ Mercedes-Benz อย่าง Gorden Wagener ยังบอกอีกว่า รถคันนี้ไม่ได้มาเพื่อทดแทน SLS แน่นอน เพราะมันคือรถคนละพิกัด ระดับราคาต่างกัน
หน้าตาของรถนั้น ดูจากแตกต่างจาก Mercedes-Benz รุ่นอื่นๆที่ทำตลาดมา ดูมีจุดยืนชัดเจนดีพอสมควร แต่เสมือนเป็นการนำรถหลายๆรุ่นของค่ายหลากหน้าตาหลากสไตล์มายำรวมกัน ไฟหน้ารถออกแบบ LED เม็ดแพรวพราวแบบ Oversize เหมือน SL-Class กระจังหน้าทรงสวยมีดาวสามแฉกตรงกลางออกแบบตามสไตล์ Mercedes-Benz ยุคใหม่ ชายล่างกันชนที่ยังมีกลิ่นอายจาก Mercedes-Benz รุ่นใหม่ๆเช่นกัน กระจกมองข้างยังคงเป็นชุดเดียวกับ SLS AMG ช่องระบายอากาศด้านข้างทรงโหด ช่วยเพิ่มความร้อนแรงให้กับรถมากขึ้น เส้นสายตัวรถดูพลิ้วและลื่นไหล ลาดลงไปถึงด้านท้ายของรถ มาพร้อมไฟท้ายออกแบบรูปไฟท้ายเหมือน S-Class Coupe ที่มาความสามารถ คือ ไฟเลี้ยวท้ายที่ใช้เป็นแบบ “ซีเควนเชียล” กระพริบบอกทิศทางด้วยหลอดไฟ LED ข้างละ 18 ดวง ท่อไอเสีย 2 ท่อเพิ่มดีกรีความสปอร์ต และปิดด้วยล้ออัลลอยลายสวยๆ เข้ากับคาลิปเปอร์เบรกสีแดงเลย โดยรวมถือว่าหล่อ ล่ำ เย้ายวนใจสาวกดวงดาวแน่นอน
ในด้านข้อมูลทางวิศวกรรม AMG GT ได้ใช้รูปแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้า แต่ใช้วิธียืดแทร็คล้อคู่หน้าออกไปเพื่อทำหน้ารถให้ยาวๆ แล้วเลื่อนตัวเครื่องยนต์ชิดผนังห้องเครื่องซึ่งวิธีการดังกล่าว เรียกว่า Front Midship ซึ่งรุ่นพี่อย่าง SLS ก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน ด้านโครงสร้างตัวถังเป็นอะลูมิเนียมสเปซเฟรมแบบเดียวกันกับ SLS ซึ่งฐานล้อของ AMG GT จะสั้นกว่า SLS 50 มม. และรถก็แคบกว่าด้วย อานิสงค์จากโครงสร้างอะลูมิเนียมทำให้เราคันนี้มีน้ำหนักราว 1,540 กก.
ดิสก์เบรกของทั้งสองเวอร์ชั่นเป็นแบบเจาะรู-เซาะร่อง ซึ่งรุ่น AMG GT ใช้ขนาด 360 มม.ขณะที่รุ่น AMG GT S ใช้ดิสก์เบรก 390 มม. ทำงานคู่กับคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ลูกค้าสามารถเลือกใช้เบรกคาร์บอนเซรามิกขนาด 402 มม. และ 360 มม.ที่ด้านหน้าและหลังตามลำดับได้
ภายในของรถนั้นออกแบบมาค่อนข้างเร้าใจและอลังการสุดๆสมกับเป็นสปอร์ตพันธุ์แรง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวอากาศยาน มากับวัสดุคุณภาพเยี่ยม ช่องแอร์ทรงกลม 4 ช่อง เรียงติดกัน เห็นแล้วชวนนึกถึง S-Class มีหน้าจอสีขนาดใหญ่พอๆกับแท็บเลตติดตรงกลางคอนโซล ใช้วัสดุคุณภาพตั้งแต่คาร์บอนไฟเบอร์แบบด้านและแบบมันเงา ตลอดจนวัสดุโครเมียมสีเงินและไฟเบอร์กลาส การจัดวางปุ่มค่อนข้างสวยงาม แต่อาจจะใช้งานยากไปนิด แต่ก็สวยและโอเคเอามากๆเลย
มาส่องกันที่ขุมพลังที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ ที่มากับพละกำลัง 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 Nm ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบ 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที ความเร็วสูงสุด 304 กม./ชม.
ใครที่อยากได้แรงกว่านี้ ก็ขยับไปเล่นในรุ่น AMG GT S ที่เพิ่มแรงม้าจากรุ่นมาตรฐาน กลายเป็น พละกำลัง 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 Nm 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ท็อปสปีดทำได้ 310 กม./ชม. ซึ่งตัวจิ๊ดคันนี้ยังมาพร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดอิเลกทรอนิกและระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL ที่ปรับการทำงานได้สามโหมดคือ Comfort, Sport และ Sport Plus
Mercedes-Benz AMG GT ตอนนี้ยังไม่ทราบข้อมูลว่าจะเริ่มขายกันเมื่อไหร่ แต่แอบได้ยินพรายกระซิบมาว่า ตลาดพวงมาลัยขวานั้น จะได้รับการวางขายในปีหน้าแน่นอน ยังไม่มีการประกาศราคาชัดเจน แต่แน่นอนต้องราคาถูกกว่า SLS ประมาณหนึ่ง ฉะนั้นสาวกบูชาดาว เก็บตังค์รอเลย
แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย