รุ่น Titanium
เมื่อดูดีไซน์โดยรอบตัวรถนั้น ทุกคนคงเฉลียวใจว่ามันเป็นรถ All-New จริงๆเหรอ เพราะมันช่างคล้ายรุ่นเดิมหรือเกิน เหตุผลก็คือรถคันนี้ยังคงสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรุ่นปัจจุบัน แต่ตัวรถก็ถูกเพิ่มความยาวขึ้นอีก 71 มม. และกว้างขึ้นอีก 12 มม.
ด้านหน้าตัวรถนั้นจะมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Ford รุ่นใหม่ๆหลายรุ่น โดยเฉพาะในส่วนกระจังหน้าที่พาลให้นึกถึงสปอร์ตหรู Aston Martin เส้นสายด้านข้างนั้นยังดูคล้ายคลึงกับรุ่นเดิมแต่ถูกออกแบบให้ดูเฉียบคมขึ้นเพื่อให้เข้ากับหน้าตาของรถและในส่วนของด้านท้ายที่มากับชุดไฟท้ายทรงใหม่แบบทรงแนวนอน ซึ่งดูสวยงามกว่าเดิมมาก รวมทั้งมีการเล่นรายละเอียดกรอบไฟตัดหมอกหลังบริเวณกันชนท้ายด้วย
ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดให้ดูสวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้นกว่าโฉมเดิม พวงมาลัยนั้นยกมาจากรุ่นพี่อย่าง Focus มาเลย การตกแต่งภายในใช้วัสดุที่ดูแพงยิ่งขึ้น กลางคอนโซลติดตั้งจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 4.2 / 6.5 และ 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ SYNC3 นอกจากนั้นแล้วลูกค้ายังสามารถเลือกออปชั่นระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Bang & Olufsen ได้ด้วย
รุ่น ST
รุ่น Vignale
ในขณะที่รุ่น Vignale จะมาสายหรู ด้วยชุดกระจังหน้าแบบตะแกรงรังผึ้ง พร้อมกันชนดีไซน์หรู ภายในห้องโดยสารเพิ่มเติมจากรุ่นอื่นๆคือการเดินด้ายตะเข็บแท้และบุนุ่มคอนโซลให้ดูแพงยิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งดีไซน์หรู
รุ่น Active Crossover
Ford Fiesta โฉมใหม่จะมีขุมพลังให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล โดยเริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost ที่มีพละกำลังให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ 100 , 125 และ 140 แรงม้า ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนรุ่นพละกำลัง 100 แรงม้าจะมีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (ยังไม่ทราบว่าเป็นเกียร์ลูกใหม่ใน Focus หรือ Powershift) ให้เลือกเป็นออปชั่นด้วย
ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซลจะมีให้เลือกในความจุ 1.5 ลิตร กับพละกำลัง 2 ระดับ ได้แก่ 85 และ 120 แรงม้า ซึ่งมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 82 และ 89 กรัม/กม. ตามลำดับ
ในรุ่นเริ่มต้นจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.1 ลิตร พละกำลัง 70 และ 85 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเป็นมาตรฐาน ค่าการปล่อย CO2 อยู่ที่ 101 กรัม/กม. สำหรับรุ่นเบนซิน 1.0 ลิตร Ecoboost และรุ่นดีเซล 85 แรงม้าจะมีกระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ Active Grille Shutter ติดมาให้ด้วย ทุกรุ่นที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะมีโหมดการขับขี่ Eco ที่ช่วยปรับตั้งค่าเครื่องยนต์และคันเร่งเพื่อส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ Ford ยังได้ปรับปรุงการเก็บเสียงใน Fiesta โฉมใหม่ ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วราวๆ 7%
Ford Fiesta โฉมใหม่จะมาถึงในตลาดยุโรปช่วงปี 2017 ส่วนเมืองไทยนั้นคาดเดาว่าน่าจะมีการเปิดตัวช่วงปลายปี 2017 เป็นอย่างเร็วหรืออย่างช้าต้นปี 2018 ครับ
ที่มา Carscoops
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย