ภายนอกของรถมีการออกแบบด้านหน้าใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวสวยงามยิ่งกว่าเดิม สำหรับรุ่น Esport จะมีการติดสเกิร์ตรอบคันและสปอยเลอร์ท้ายให่ดูสปอร์ตขึ้นด้วย ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร Esport ขึ้นไปมากับชุดไฟหน้าทรงใหม่แบบ Bi-Beam LED Projector ที่ดูเรียวขึ้นพร้อมไฟ LED Daytime Running Lights ส่วนรุ่นอื่นๆจะมากับไฟหน้าแบบฮาโลเจน พร้อมไฟ LED Daytime Running Lights เช่นกัน
เส้นสายด้านข้างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ล้ออัลลอยในรุ่น 1.6 J MT จะได้ล้อลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว ส่วนรุ่น 1.6 E CNG , 1.6 G , 1.8 E , 1.8 V จะได้ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายเดิม แต่ปรับแต่งให้ดูเข้มขึ้น และรุ่น Esport , Esport Option จะได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่ และด้านท้ายมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโคมไฟท้ายใหม่ให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับภายในห้องโดยสารมีการออกแบบคอนโซลใหม่ให้ดูหรูหราน่าใช้ขึ้น และเพิ่มเติมออปชั่นต่างๆในแต่ละรุ่นให้ครบครันมากขึ้น คราวนี้ในรุ่น 1.6 G/1.8 Esport ขึ้นไปจะได้ปุ่มสตาร์ท และกุญแจ Smart Entry มาให้แล้ว ส่วนมาตรวัดความเร็วแบบ Optitron และจอแสดงผลข้อมูล MID 4.2 นิ้วออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยและอ่านง่ายกว่าเดิม หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วชุดใหม่รองรับบริการพิเศษ T-Connect จะมีในรุ่น Esport Option และ 1.8 V นอกจากนี้ในรุ่น Esport Option จะเพิ่มเบาะไฟฟ้าด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า และรุ่นท็อปสุด 1.8 V จะได้เบาะปรับไฟฟ้าแบบคู่หน้า 8 ทิศทางพร้อมฟังก์ชั่นปรับดันหลังไฟฟ้า
สำหรับขุมพลังนั้นยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง มากับเครื่องยนต์เบนซิน 1ZR-FBE ความจุ 1.6 ลิตร มากับพละกำลัง 125 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที และเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE ความจุ 1.8 ลิตร มากับพละกำลัง 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (1.6 J MT) และ เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด นอกจากนี้รุ่น 1.8 ลิตรทุกรุ่นจะได้สวิตซ์การขับขี่แบบ Sport Mode มาให้ด้วย
สำหรับระบบความปลอดภัยถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ เพราะทาง Toyota ได้จัดระบบความปลอดภัยมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็จะมี
- ระบบเบรก ABS+EBD และ BA ทุกรุ่น
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ทุกรุ่น
- ระบบป้องกันการลืนไถล TRC ทุกรุ่น
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (รุ่น 1.6 E CNG ขึ้นไป)
- ถุงลมนิรภัย 7 ใบ (คู่หน้า+ด้านข้าง+เข้าคนขับ) ทุกรุ่น
- กระจกมองข้างแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (รุ่น 1.8 V)
- กระจกมองข้างแบบ Reverse Link (รุ่น 1.8 V)
Toyota Corolla Altis Minor Change จะมีสีตัวถังให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีขาว Super White II , สีบรอนซ์เงิน Silver Metallic , สีดำ Attitude Black Mica , สีเทา Gray Metallic , สีน้ำตาล Phantom Brown (สีใหม่) และ สีขาวมุก White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
Toyota Corolla Altis Minor Change แบ่งการจำหน่าย 7 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
- 1.6 J MT 799,000 บาท (+20,000 บาท)
- 1.6 E CNG 969,000 บาท (+15,000 บาท)
- 1.6 G 869,000 บาท (+25,000 บาท)
- 1.8 E 874,000 บาท (+25,000 บาท)
- 1.8 Esport 939,000 บาท (ราคาเท่าเดิม)
- 1.8 Esport Option 979,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
- 1.8 V 1,079,000 บาท (ราคาเท่าเดิม)
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย