ภายนอกของรถจะมากับดีไซน์กระจังหน้าที่ดูดุดัน และกันชนหน้าที่ค่อนข้างทันสมัย รุ่น Eco ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวถัง Double Cab ติดตั้งไฟ Daytime Running Lights อันเป็นเทรนด์ของกระบะสมัยนี้ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอกหน้า ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Double Cab จะได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ซุ้มล้อรอบคัน บันไดข้าง กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว และเซนเซอร์กะระยะถอยหลัง
ภายในห้องโดยสารมาในดีไซน์เรียบง่าย เน้นการใช้งาน ในรุ่น Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มากับเบาะปรับได้ 6 ทิศทาง บริเวณคอนโซลกลางจะมีที่เก็บของพร้อมฝาปิด รวมทั้งที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 ตำแหน่งที่สามารถเลื่อนฝาปิดเพื่อแปลงเป็นที่เก็บของเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังมีที่เก็บแว่นกันแดด ที่เก็บของขนาดใหญ่ที่คอนโซลหน้า และที่วางขวดหรือสิ่งของอื่นๆ บริเวณแผงประตู
เบาะด้านหลังสามารถปรับองศาพนักพิงได้ พนักพิงศีรษะปรับระดับได้ เบาะรองนั่งสามารถยกขึ้นและยึดไว้กับที่เพื่อให้สามารถเข้าถึงช่องเก็บเครื่องมือได้ ทางด้านของระบบปรับอากาศ หน้าต่าง กระจกไฟฟ้า และเซ็นทรัลล็อค 2 จังหวะ ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ Bluetooth และยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ เครื่องเสียงรองรับการเล่นไฟล์ MP3/WMA มีช่องเสียบ USB และ AUX มาให้ อีกทั้งยังสามารถเล่นเพลงจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth
สำหรับขุมพลังนั้นจะมากับเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร จาก Cummins ของอเมริกา มากับพละกำลัง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจาก Getrag JC538 จากเยอรมัน และยังติดตั้งชุดเฟืองขับเคลื่อน 4 ล้อ Borg Warner จากอเมริกา สามารถเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อเป็น 4 ล้อ 4×4 High ได้ด้วยระบบ Shift-on-the-fly ในขณะรถวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม/ชม และระบบ 4×4 Low ต้องหยุดรถก่อนเพื่อความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยนั้นจะมากับระบบเบรก ABS แบบ 4-channel ของ Bosch ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ EBD ระบบป้องกันการโจรกรรมจะเป็นระบบปลดล็อคด้วยรีโมทในรถแบบ 2 จังหวะ ขั้นแรกจะปลดล็อคเฉพาะประตูด้านคนขับ ประตูที่เหลือจะปลดล็อคเมื่อกดที่ตัวรีโมทซ้ำอีกครั้ง โดยที่กระจกทั้งหมดจะปิดโดยอัตโนมัติถ้ากดปุ่มแช่ไว้
สำหรับ Foton Tunland จะมีทางเลือกให้ลูกค้า 2 ตัวถัง ได้แก่
- รุ่นตอนเดียวในราคาเริ่มต้นราวๆ 5 แสนกว่าบาท
- รุ่น Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ในราคาไม่เกิน 8 แสนบาท
- รุ่น Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อยกสูง ราคา 8 แสนกว่าบาท
รายละเอียดข้อมูลต่างๆนอกจากนี้น่าจะมีการเปิดเผยอีกครั้งช่วงงาน Motor Expo 2016 ครับ โดยทาง Foton ตั้งเป้ายอดขายกระบะของพวกเขาในปี 2560 ไว้ที่ 1,500 คัน ใครอยากสัมผัสคันจริง รอชมได้ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี วันที่ 1-12 ธันวาคมครับ
ภาพจาก caradvice.com.au
ภาพจาก caradvice.com.au
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย