ตลาดกลุ่ม C-SUV นั้น มีเจ้าตลาดที่สำคัญก็คือ Honda CR-V ที่ครองตลาดในกลุ่มนี้มานานแสนนาน โดยมี Chevrolet Captiva เป็นมวยรองมาตลอด ก่อนที่ Mazda จะกลับมาคัมแบ็กเข้ามาเอี่ยวและมาขอแบ่งเค้กซะหน่อย ทำให้ Mazda กลายเป็นมวยรอง และ Chevrolet ตกอันดับไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามความนิยมของ Chevrolet Captiva ก็ยังเป็น 1 ใน 3 C-SUV และยังคงได้รับความนิยม สังเกตจากรถบนถนนที่มีให้เห็นบ่อยพอสมควรครับ
ดังนั้นเราเลยขอจับ Honda CR-V และ Chevrolet Captiva มาเทียบกันเลย โดยจะเน้นในแง่ของฟังก์ชันและระบบความปลอดภัยให้ชัดๆ เรื่องเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยากให้ทุกท่านที่กำลังมองหารถกลุ่มนี้ลองไปทดสอบด้วยตัวเองจะดีที่สุด เพื่อจะได้รับทราบถึงสมรรถนะและการขับขี่ของตัวรถมากกว่าที่จะอ่านบทความของผู้เขียน ซึ่งอาจจะยกข้อมูลโน่นนั่นนู่นนี่มาละเลงในบทความนี้ ซึ่งอาจทำให้ใครครหาได้ว่า "พูดออกมาลอยๆโดยไม่ได้ทดสอบ" เนื่องจากผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้ลงภาคสนามเลย ไม่เคยได้ขับรถพวกนี้ และยังไม่ทำใบขับขี่ด้วยซ้ำ แต่เนื่องด้วยมีคนมาสอบถามเรื่อง 2 คันนี้ อยากให้เปรียบเทียบให้หน่อย เราเลยต้องจัดให้ตามคำขอ เพื่อความง่ายในการเปรียบเทียบและจะได้เป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆด้วยครับ
รูปร่างหน้าตา
มาเริ่มกันก่อนที่หน้าตาของรถ ซึ่งดูจากรูปกายแล้ว Honda จะได้เปรียบเรื่องความสดใหม่ของรถแน่นอน ด้วยหน้าตาที่ดูใหญ่โตและดูบึกบันและสวยงามตามสไตล์ค่าย Honda เขาอยู่แล้ว ทำให้หลายคนมองเห็นมันและหลงรักมันได้อย่างง่ายดาย ตัวรถมีสัดส่วนความยาว 4,534 มม. กว้าง 1,820 มม. และสูง 1,685 มม. ฐานล้อยาว 2,620 มม. เส้นสายตัวรถที่ฉีกแนวจากตัวเดิมไปมากพอสมควร และมากับล้ออัลลอยขนาด 17-18 นิ้ว ลายสวยๆ ทำให้องค์ประกอบภายนอกของ Honda ดูสวยงามไม่น้อย
ส่วนทาง Chevrolet ที่อยู่ในตลาดมานานกว่า และตัวรถก็มีอายุอานามที่เริ่มมากแล้ว อีก 2-3 ปีถึงจะมีของใหม่หมดจดมาให้ยลโฉมกัน หน้าตาของรถที่เพิ่งปรับใหม่ไม่นาน ถึงจะปรับนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ช่วยเพิ่มความใหม่ให้รถไม่น้อยเหมือนกัน หน้าตาที่ดูบึกบัน และแข็งแรงสไตล์อเมริกา รวมทั้งเส้นสายที่ดูเรียบง่ายไม่เบื่อตา ตัวรถมากับสัดส่วนความยาว 4,673 มม. ยาว 1,850 มม. และสูง 1,756 มม. ฐานล้อยาว 2,707 มม. ถือว่าใหญ่กว่า CR-V ในทุกมิติเลย ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 17-19 นิ้ว
ภายในและฟังก์ชันการใช้งาน
การออกแบบภายในของ Honda CR-V ก็ไม่ได้มีความสวยและอะไรมากเท่าไหร่นัก มันดูอนุรักษ์นิยมยังไงไม่ทราบ แต่ดูแล้วไม่เบื่อตาและรับได้ แต่เป็นคอนโซลที่เน้นการใช้งาน ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก ภายในถือว่ากว้างขวางและสะดวกสบายพอสมควร เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้หลายแบบ ที่สำคัญมีแอร์ตอนหลังเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ฟังก์ชันมีให้เล่นพอสมควร ในรุ่นท็อปและรุ่นรองมีหน้าจอ DVD ให้เล่น พร้อมระบบนำทางมาพร้อม เชื่อมต่อได้ตั้งแต่ USB/AUX และ Bluetooth ถือว่าครบครัน
มาดูที่ภายในของ Chevrolet Captiva ที่ออกแบบภายในค่อนข้างดี เรียบง่ายและเน้นการใข้งานเช่นกัน ไม่ได้สวยอะไรมาก อาจจะดูมีอายุกว่า CR-V ความได้เปรียบของรถคันนี้คือการมีที่นั่งให้ถึง 7 ที่นั่งถือว่าเป็นคันเดียวในตลาดตอนนี้ ตราบใดที่ X-Trail ใหม่ยังไม่มาถึง แต่พื้นที่แถวที่ 3 ก็ไม่ได้มีมากมายอะไรนัก เหมาะกับเด็กและคนตัวเล็กๆเสียมากกว่า ฟังก์ชันภายในก็มีให้เล่นมากพอๆกับ CR-V หน้าจอ CD MP3 พร้อมระบบ 3D Sound Stage 7 นิ้วแบบสัมผัส พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อได้ทั้ง USB/AUX และ Bluetooth ในรุ่นบนๆมาพร้อมลำโพงมากกว่า CR-V คือมีมาให้ 8 ตัวแต่ CR-V มี 6 ตัวครับ เราขอเทียบฟังก์ชันระหว่างรุ่น CR-V 2.4 EL 4WD และ Captiva 2.4 LTZ 4WD เพื่อความสมน้ำสมเนื้อกัน ดูการเทียบได้ที่ตารางด้านล่างเกือบสุดบทความครับ
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ขุมพลังของ Honda มี 2 ขุมพลังให้เลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ i-VTEC มากับพละกำลัง 155 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบ/นาที และเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบ i-VTEC มากับพละกำลัง 170 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบ/นาที เครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 ได้ด้วย ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กโทรนิกส์ มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ Real Time 4WD
ส่วนขุมพลังของ Chevrolet Captiva มีให้เลือก 2 ขุมพลังเช่นกัน ได้แก่ เครื่องเบนซิน 2.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ที่สำคัญเครื่องตัวนี้สามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 ได้ด้วยเช่นกัน และเครื่องยนต์อีกตัวหนึ่ง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร มากับพละกำลัง 163 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 เจนเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมฟังก์ชั่น DSC (Driver Shift Control)
ระบบความปลอดภัย
ด้าน Honda นั้นถือว่าจัดระบบความปลอดภัยมาให้ครบตามมาตรฐานรถระดับนี้ ระบบ ABS EBD เป็นมาครฐานไปแล้ว ไม่มีไม่ได้ ถุงลมคู่หน้า SRS ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด HSA ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS กล้องมองหลัง ถือว่าค่อนข้างโอเคครับ
ส่วน Chevrolet นั้นถือว่าให้ครบและมากพอสมควรเช่นกัน และดูเหมือนจะมากกว่าเจ้าตลาดเสียด้วยซ้ำ มากับถุงลมนิรภัยคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัย ระบบ ABS EBD ระบบเสริมแรงเบรก HBA ระบบช่วงล่างด้านหลังยกสูงอัตโนมัติขณะบรรทุก ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล TCS ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HSC ระบบป้องกันการถอยหลังเมื่อขึ้นทางลาดชัด HSA ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARP
ราคา
Honda CR-V มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย มากับค่าตัวดังนี้ครับ รุ่น 2.0 S มากับราคา 1,168,000 บาท,รุ่น 2.0 E ราคา 1,278,000 บาท,รุ่น 2.4 E ราคา 1,448,000 บาท และรุ่นท็อปสุด 2.4 EL ราคา 1,543,000 บาท
ส่วน Chevrolet Captiva มีรุ่นย่อยให้มากมายถึง 7 รุ่นย่อยด้วยกัน เริ่มที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 LS FWD ราคา 1,198,000 บาท,รุ่น 2.4 LSX FWD ราคา 1,282,000 บาท,รุ่น 2.4 LS 4WD ราคา 1,507,000 บาท และรุ่น 2.4 LTZ 4WD ราคา 1,595,000 บาท ต่อด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 2.0 LSX FWD ราคา 1,410,000 บาท,รุ่น 2.0 LT 4WD ราคา 1,480,000 บาท และรุ่น 2.0 LTZ 4WD ราคา 1,635,000 บาทครับ
สรุป...
Function
|
|||
|
Honda
CR-V 2.4 EL 4WD
|
Chevrolet
Captiva 2.4 LTZ 4WD
|
|
หน้าจอแสดงผลจ้อมูลอัจฉริยะ i-MID
|
มี
|
-
|
|
ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ
|
มี
|
มี
|
|
ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ
|
มี
|
มี
|
|
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซนซ้าย-ขวา
|
มี
|
มี
|
|
Paddle Shift
|
มี
|
-
|
|
พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
|
มี
|
มี
|
|
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
|
มี
|
มี
|
|
ระบบควบคุมความเร็วเครื่องปรับอากาศที่พวงมาลัย
|
-
|
มี
|
|
ช่องปรับอากาศตอนหลัง
|
มี
|
มี
|
|
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
|
-
|
มี
|
|
เบาะนั่งคันขับปรับระดับ 8 ทิศทางพร้อมระบบปรับดันหลัง
|
มี
|
มี
|
|
เบาะนั่งผู้โดยสารหน้าปรับระดับ 4ทิศทาง
|
มี
|
-
|
|
เบาะแถวหลังแถวที่ 2 พับแบบ 60 : 40
|
มี
|
มี
|
|
ระบบเครื่องเสียง
|
จอสัมผัส
DVD/CD MP3 แบบ 1 แผ่น
|
จอสัมผัส
7 นิ้วแบบ 3DSS CD MP3 แบบ 1 แผ่น
|
|
ระบบนำทาง
|
มี
|
มี
|
|
Bluetooth
|
มี
|
มี
|
|
ระบบเชื่อมต่อ USB
|
มี
|
มี
|
|
ระบบเชื่อมต่อ AUX
|
มี
|
มี
|
|
ลำโพง
|
6
ตัว
|
8
ตัว
|
|
Engine
|
|||
เครื่องยนต์
|
เบนซิน
SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
|
เบนซิน
DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว
|
|
ความจุ (ซี.ซี.)
|
2,354
|
1,598
|
|
พละกำลัง (แรงม้า ที่ รอบ/นาที)
|
170/6,000
|
168/5,600
|
|
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร ที่ รอบ/นาที)
|
220/4,300
|
229/4,600
|
|
ระบบส่งกำลัง
|
เกียร์อัตโนมัติ
5 สปีดควบคุมด้วยระบบ Electronics Grade Logic Comtrol
|
เกียร์อัตโนมัติ
6 สปีดพร้อมระบบ Drive Shift Control
|
|
Safety
|
|||
กุญแจรีโมท Immoblizer
|
มี
|
มี
|
|
ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ปรับระดับสูงต่ำได้
|
มี
|
มี
|
|
ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด
|
-
|
มี
|
|
ระบบหน่วงไฟอัตโนมัติ
|
-
|
มี
|
|
ถุงลมคู่หน้า SRS
|
มี
|
มี
|
|
ถุงลมด้านข้าง
|
มี
|
-
|
|
ม่านถุงลมด้านข้าง
|
มี
|
มี
|
|
ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 20 กม./ชม
|
-
|
มี
|
|
ไล่ฝ้ากระจกหลังแบบไฟฟ้า
|
-
|
มี
|
|
ระบบเบรก ABS
|
มี
|
มี
|
|
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
|
มี
|
มี
|
|
ระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก HBA
|
-
|
มี
|
|
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล TCS
|
-
|
มี
|
|
ระบบควบคุมการทรงตัว
|
มี
|
มี
|
|
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อลงทางลาดชัน HDC
|
-
|
มี
|
|
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด HSA
|
มี
|
มี
|
|
ระบบช่วยป้องกันการพลิกคล่ำ ARP
|
-
|
มี
|
|
Price
|
|||
ราคา
|
1,543,000
|
1,595,000
|
Score
|
||
รูปร่างหน้าตา 5
|
4
|
4
|
ฟังก์ชัน 5
|
4
|
4
|
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 5
|
4
|
4
|
ระบบความปลอดภัย 5
|
4
|
4.5
|
ราคา 5
|
4
|
4
|
ศูนย์บริการ 5
|
4.5
|
3
|
รวม 30
|
24.5
|
23.5
|
แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย