วิจารณ์กันแบบเมามันส์กับ Toyota Hilux Vigo Champ : กระบะที่ยอดขายแกร่งสุดในปฐพี ทำไมไม่มีใครล้มแชมป์ได้?

  ขอบอกเลยว่า ตลาดกระบะเมืองไทยในช่วงปี 2014-2015 จะเป็นช่วงร้อนระอุและลุกเป็นไฟ เพราะมีการแข่งขันกันสูงและแข่งกันอย่างเมามันครับ ต่างค่ายต่างเตรียมแผนการเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่กันแล้ว บางค่ายแม้จะมีภาพหลุดออกมาจากโรงงานจนต้องตามลบกันให้สนั่นโซเชียล แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง มันก็จะทำให้ผู้บริโภครู้ว่าของใหม่ค่ายนั้นค่ายนี้กำลังจะมา จะได้ไม่ต้องพลาดพลั้งซื้อของเก่าไงละครับ

  เราจะมาพูดถึงของเก่าคันนึง ของเก่าที่มีอายุอานามจะครบทศวรรษแล้ว แต่ทำไมของเก่านี้ มันยังคงขายดี และยังเป็นที่ 1 ในใจประชาชนหลายคนอยู่ จากที่สังเกตยอดขายมาตลอด แทบจะไม่มีเจ้าไหนเลยล้มยักษ์รายนี้ได้ (ยกเว้นตอนมหาอุทกภัยนี่หละ) ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ก็คือกระบะ Toyota Hilux Vigo Champ ตัวปัจจุบัน ตั้งแต่ตอนเป็นวีโก้ธรรมดา จนมาถึงแชมป์ตอนนี้ มันยังคงเป็นกระบะที่ได้รับความนิยมชนิด Isuzu จะแย่งชิงเก้าอี้ผู้นำก็คงจะยากครับ อยากจะรู้เหมือนกันว่ากระบะคันนี้มันมีดีอะไรถึงขายดีขนาดนี้ครับ

   เริ่มกันที่หน้าตาก่อนเลย หากพูดถึงหน้าตาของ Toyota Hilux Vigo Champ หลังจากปฏิรูปโฉมยกใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา รูปโฉมณ ตอนนี้ ก็ถือว่ายังดูหล่อ ยังดูเกรงขามเหมือนเดิม แม้ในหลายๆจุดจะเริ่มส่อแววถึงความเก่าและล้าสมัยเข้าแล้ว แต่ก็ต้องขอชมวิศวกรที่ออกแบบรถคันนี้เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว เพราะดูยังไงรถคันนี้มันยังคงมีเส้นสายที่ยังดูร่วมสมัยไม่ต่างจากกระบะคู่แข่ง เพราะ หัวเก๋งสไตล์นี้นั้น Toyota มันก็ได้โหมโรงก่อนแล้ว ก่อนที่ค่ายอื่นจะทำออกมาลักษณะเดียวกัน ด้วยความที่เส้นสายกระบะวีโก้มันยังดูโค้งมน ยังดูดีอยู่และยังคงดีไม่สร่าง กระจังหน้าที่ปรับเปลี่ยนใหม่ให้ดูบึกบึนขึ้นจากเดิม บวกกับกันชนหน้าทรงธรรมดา ถึงจะเรียบง่ายแต่มองได้นานครับ แม้ว่าตัวรถจะเริ่มเชยและตกยุคเพราะค่ายอื่นเขาพากันเปิดตัวกระบะใหม่ที่มีดีกว่าในหลายจุด แต่ยังไงเจ้าวีโก้มันก็ยังมีมนต์ขลังของมันครับ

   มาดูที่ภายในของรถกันดีกว่า ภายในของรถก็ยังออกแบบให้เข้ายุคเข้าสมัยอยู่เหมือนกัน แต่ก็มีหลายจุดที่ส่อแววถึงความเก่าแล้ว คอนโซลหน้าที่ออกแบบให้ดูทันสมัย ด้วยการแบ่งช่องแอร์กับระบบอินโฟเทนเมนต์แยกจากปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ ก็ถือว่าดูดีขึ้นพอสมควร พวงมาลัยรถที่ยกมาจาก Camry แทบทั้งดุ้น ตอนนี้ทุกรุ่นจะได้พวงมาลัยแบบนี้หมดแล้ว ดีแล้วครับ เพราะแอบขัดใจรุ่นล่างๆโดยเฉพาะตอนเดียวที่ทำพวงมาลัย 3 ก้านยังกะกางเกงในเลย

ในรุ่น Prerunner และยกสูงนั้น เริ่มมีภายในสีดำมาให้เราเป็นทางเลือกซึ่งบอกเลยว่า มันทำให้รถดูดีขึ้นจริงๆครับ เพราะสีครีมมันอาจดูโบราณไปนิดมั้ง ความกว้างขวางในห้องโดยสารก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งครับ เบาะค่อนข้างนั่งสบายพอควร เรื่อง Legroom Headroom ผ่านไปได้เลย

 แต่อยากจะติเรื่องระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่ปรับไม่ได้จริงๆตามที่เราตั้ง อันเป็นเพราะการตัดระบบลมไล่ฝ้าออก กระบะค่ายอื่นเขาใส่กันหมดในแอร์ออโต้แล้ว แอร์มือหมุนยังพอทน ไม่ติดไม่ว่า แต่อย่าหลอกผู้บริโภคด้วยวิธีโง่ๆแบบนี้ครับ ถ้าไม่ติดเรื่องแอร์ก็ชอบแอร์ Toyota นะครับ เพราะ มันเย็นได้ดังใจจริง ยิ่งอากาศร้อนๆเนี่ย มานั่งรถ Toyota แป๊บเดียวเย็นสบายเลย

ฟังก์ชันอินโฟเทนเมนต์ในรุ่น 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตรจะมีให้เลือก็คือหน้าจอสัมผัส 6.1 นิ้ว รองรับ Smart G-Book และมาพร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อกับ Bluetooth ได้ สามารถโทรออกด้วยเสียงได้ ถือว่าครบครัน ในรุ่นท็อปสุดจะมี Cruise Control มาให้ บางค่ายยังไม่มี แต่บางค่ายก็มีและกระจายออปชั่นได้ดีกว่า Vigo อีกครับ ในรุ่นล่างจะออกแบบวิทยุธรรมดาใหม่ให้ดูเท่และทันสมัยกว่าเดิม

   มาว่ากันที่เครื่องยนต์กันดีกว่า ด้านเครื่องยนต์นั้น มีขุมพลังให้เลือกกันหลายแบบหลายขุมกันเลยทีเดียว เริ่มที่ขุมพลังดีเซล 2.5 ลิตรที่มีให้เลือก 2 ระดับ แบบอินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลัง 120 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 325 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที และแบบ VN Turbo มากับพละกำลัง 144 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ขุมพลังบล็อกต่อมาคือเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร VN Turbi มากับขุมพลัง 171 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตรที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที(เกียร์อัตโนมัติ 360 นิวตัน-เมตรที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

  ระบบช่วงล่างของรถนั้น Toyota ให้นิยามกับระบบช่วงล่างนี้ว่า DTS (Diamond Tech Suspension) ด้วยการปรับเซตช่วงล่างใหม่หลายที่หลายจุดพอสมควร เพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนชอบบอกว่าหลุดโค้ง หลายคนที่ใช้ก็บอกว่าช่วงล่างนุ่มกว่าเดิมนิดหน่อย ดีขึ้น อาจมีอาการโคลงอยู่บ้างเล็กน้อย

   ด้านระบบความปลอดภัยก็มีให้พอสมควร แต่สิ่งที่อยากชม Toyota ก็คือ การติดตั้งระบบถุงลมคู่หน้า SRS ลงในกระบะ "ทุกรุ่นย่อย" ไม่มีกั๊ก ชนิดบางค่ายยังต้องเงิบ แต่ก็ยังขาด ABS EBD ในบางรุ่น (อย่าลืมกันนะครับว่าพี่โตเราได้ตัด VSC TRC ออกจากรุ่นปัจจุบันด้วย) กล้องมองหลัง กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัยและอื่นๆอีกมากมายครับ

   สำหรับค่าตัวนั้น Toyota ให้ค่าตัวตั้งแต่รุ่นล่างยันรุ่นบน เริ่มต้นที่ 512,000 บาท และรุ่นท็อปจบที่ 1,012,000 บาท รุ่นท็อปนั้นค่าตัวเหยียบล้านแล้ว ในขณะที่ของเล่นก็ไม่ได้มากไปกว่าเขาเลย บางค่ายยังขายถูกกว่าด้วยซ้ำครับ ยิ่งรุ่นล่าสุดอย่าง Nissan NP300 Navara ออกมาคงทำให้ Toyota และค่ายอื่นเงิบกันไม่น้อย เพราะ Nissan มาเต็มจริงครับ


   สรุปเลยก็คือ Toyota Hilux Vigo Champ ยังคงเป็นกระบะคันหนึ่งที่คนไทยยังนิยมใช้และเลือกมันมาเป็นหนึ่งในรถที่มาประจำการในบ้านของเรา แม้ว่าช่วงหลังๆนั้นจะมีค่ายคู่แข่งต่างทยอยส่งของใหม่ที่มีดีกว่าเปิดตัวออกมาจนได้รับความนิยมกันพอสมควร ซึ่งก็ต้องกระทบกันนิดหน่อย แต่ยังไงก็ตามรถกระบะคันนี้ เรายังเห็นมันเป็นที่ 1 ของยอดขายกระบะอยู่เลยครับ แม้แต่ค่าย Isuzu คู่แข่งตัวจิ๊ดที่ตามกัดตูดกันมาตลอด ก็ยังทำอะไรกับ Toyota ไม่ได้เลย แต่ยังไงผู้เขียนก็เชื่อว่า สักวันยอดมันต้องลด เพราะกระบะโฉมใหม่อีกไม่นานมันก็จะมาแล้ว ซึ่งก็น่าจะทำให้หลายคนถอยจากตัวปัจจุบันบ้าง หรือไปเล่นค่ายอื่นก็มีครับ ฉะนั้นแล้วใครยังชอบของเก่าก็จัดครับ หรืออยากรอของใหม่ก็รอต่อไป

สิ่งที่อยากเห็นใน All-New Toyota Hilux ใหม่
- ไฟหน้า LED ฝัง DRL (กระจายออปชั่นดีๆ อย่าใส่เฉพาะตัวท็อป)
- กระจายระบบ Cruise Control ให้ได้ในหลายรุ่นย่อยหน่อย
- จอสัมผัสต้องใหญ่กว่านี้ ซัก 7 นิ้วไปเลย และขอจอดีๆไม่รวนด้วย
- นำเอาระบบ VSC TRC กลับมาใส่ และขอระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC มาด้วยจะดีมาก

 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!