ค่ายดาวสามแฉก Mercedes-Benz ได้ฤกษ์เปิดตัว All-New Mercedes-Benz GLS รถอเนกประสงค์หรูระดับเรือธงที่เปลี่ยนโฉมใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นรถ SUV ที่มีความหรูหราที่สุดและใหญ่ที่สุดเท่าที่ Mercedes-Benz เคยสร้างมาเลยก็ว่าได้ ณ ขณะนี้ (จนกว่ารุ่น Maybach จะเปิดตัว) แน่นอนว่าคู่แข่งนั้นก็คงหนีไม่พ้น BMW X7
และถ้าหากพับเบาะแถวที่ 2 ลงไปอีก ความจุสัมภาระจะมีมากถึง 2,400 ลิตร นอกเหนือจากการจัดเรียงที่นั่งแบบ 7 ที่นั่งซึ่งเป็นมาตรฐานแล้ว GLS โฉมใหม่ยังมีทางเลือกการตกแต่งแบบ 6 ที่นั่งซึ่งจะมากับเบาะแถวที่ 2 ที่มี 2 ที่นั่งในแบบที่หรูหรานั่งสบายโดยเป็นครั้งแรกใน GLS ที่มีทางเลือกแบบนี้
สำหรับเครื่องยนต์นั้น มีการเปิดตัวด้วยรหัสที่แปลกใหม่นั่นคือ GLS 580 4MATIC ที่มากับเครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร พร้อมระบบ Mild Hybrid ของค่ายนั่นคือระบบ EQ Boost 48 โวลต์พร้อม Integrated Starter-Generator มากับพละกำลังสูงสุด 489 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร พร้อมกันนี้ยังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ช่วยเรียกพละกำลังเพิ่มมาอีก 22 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
สำหรับขุมพลัง 6 สูบก็จะมีทางเลือกทั้งเครื่องดีเซลและเบนซิน เริ่มที่รหัส GLS 450 4MATIC ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง มากับพละกำลังสูงสุด 367 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร และยังเป็นเครื่องแบบ Mild-Hybrid ซึ่งมีการติดตั้งระบบ EQ Boost 48 โวลต์พร้อม Integrated Starter-Generator มาให้อีกด้วย แต่ขุมพลังนี้จะไม่มีจำหน่ายในยุโรป
แต่ในตลาดยุโรป รัสเซีย และตลาดอื่นๆนั้นจะได้เครื่องยนต์ดีเซลความจุ 2.9 ลิตรรหัส OM656 แบบ 6 สูบแถวเรียงแทน โดยมีทั้งหมด 2 รหัส ได้แก่ GLS 350d 4MATIC ที่มากับพละกำลัง 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตรและ GLS 400 d 4MATIC ที่มากับพละกำลัง 330 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร
ทุกขุมพลังจะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic และติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ส่วนตัวแรงอย่าง AMG และรุ่นที่ยกระดับความหรู Maybach จะตามมาในภายหลัง และยังไม่มีข้อมูลขุมพลังในขณะนี้ซึ่งคาดว่าคงจะมากับขุมพลังตั้งแต่ 8-12 สูบ
เมื่อพูดถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ GLS นั้น จะมีระบบการถ่ายโอนกำลังที่มาพร้อมกับคลัทช์แบบหลายแผ่นที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งช่วยให้การถ่ายโอนแรงบิดระหว่างเพลาจาก 0-100% ได้ตามต้องการ และยังมีออปชั่นระบบการถ่ายโอนกำลังพร้อมช่วยลดเกียร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการขับขี่ออฟโรดที่เหนือกว่า
นอกจากนั้นแล้ว ลูกค้ายังสามารถสั่งระบบช่วงล่าง 48-volt E-Active Body Control ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและความคล่องตัวในการขับขี่อีกทั้งยังรองรับการขับขี่บนทางออฟโรดได้ด้วย ส่วนระบบช่วงล่างแบบมาตรฐานจะได้ระบบช่วงล่างถุงลม Airmatic พร้อม Adaptive Damping System Plus
GLS โฉมใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งก็รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วสองจอ , Head‑up Display แสดงผลแบบสีเ , ระบบความบันเทิงด้านหลัง MBUX ที่มีหน้าจอขนาด 11.6 นิ้วสองจอ และแพ็คเกจสำหรับความสะดวกสบายด้านหลัง Rear Comfort package Plus ที่มากับแท็บเล็ตระบบ Android ขนาด 7 นิ้วที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่น MBUX ทั้งหมดได้จากเบาะแถวหลัง
สำหรับระบบความปลอดภัยชุด Driving Assistance จะมีการแนะนำระบบเพิ่มเติม ได้แก่ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist DISTRONIC, ระบบหยุดและออกตัวอัตโนมัติ Assist Stop-and-Go Assist, ระบบช่วยในการลากจูง Trailer Maneuvering Assist และอื่นๆ อีกเพียบ
All-New Mercedes-Benz GLS จะเริ่มลงโชว์รูมในสหรัฐอเมริกาและยุโรปช่วงปลายปี ส่วนตลาดไทยคงมีการเปิดตัวตามมาหลังจากนั้น
ที่มา Carscoops
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย