วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562

All-New Toyota Corolla Altis เปิดตัวในไทยแล้ว มาพร้อมทางเลือกขุมพลัง Hybrid และอัดแน่นความปลอดภัย

   สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวก Toyota เมื่อวันนี้ (3 ก.ย.) ทาง Toyota Motor Thailand ได้ทำการเปิดตัว All-New Toyota Corolla Altis มาพร้อมสโลแกน "MAKE A NEW HIGH...ข้ามสู่ขีดสุดที่เหนือกว่า" พร้อมกันนี้ยังดึงพระเอกสุดหล่ออย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย

  All-New Toyota Corolla Altis เป็นอีกหนึ่งผลผลิตจาก Toyota ที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดอย่าง TNGA ดีไซน์ภายนอกถือว่ามีความสวยงามหรูหราและเฉียบคมขึ้นกว่าเดิม โดยจะมากับไฟหน้าแบบ LED และฮาโลเจนในรุ่นล่างๆ และไฟท้ายแบบ LED (รุ่นบนจะเป็น Full LED) ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 15-17 นิ้วแล้วแต่รุ่นย่อย

   ไฮไลต์สำคัญรอบนี้คือการแนะนำขุมพลังแบบ Hybrid ซึ่งเป็นเจเนเรชั่นที่ 4 แล้วที่พัฒนาให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จ่ายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพและทนทาน ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม พร้อมกันนี้ยังมีการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี

   อีกไฮไลต์ก็คือการแนะนำรุ่น GR Sport (แทนที่ Esport) ที่มีการตกแต่งภายนอกให้ดูสปอร์ตดุดันมากขึ้นด้วยชุดสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์ท้าย ออกแบบด้านหน้าให้ดุขึ้นพร้อมล้อลายพิเศษขนาด 17 นิ้ว เน้นการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำและแดง เพิ่มความมันส์ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หรือ Paddle Shift

    ภายในห้องโดยสารมีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัยขึ้น ปรับปรุงวัสดุภายในห้องโดยสารให้ดีขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แถมยังรองรับ Apple CarPlay เป็นรุ่นแรกของ Toyota ที่จำหน่ายในไทยอีกด้วย อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่น่าสนใจก็จะมีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger, หน้าจอ Head-Up Display (HUD), ระบบปรับอากาศตอนหลัง , จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ขนาด 4.2-7 นิ้วแล้วแต่รุ่นย่อย, ม่านบังแดดด้านหลัง, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า , ระบบเบรกมือไฟฟ้า , ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และ ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร ซึ่งทั้งหมดนี้จะกระจายแล้วแต่รุ่นย่อย ไม่ได้มีทุกรุ่น

  ในตัวท็อปสุดนั้นจะมีการติดตั้งระบบ T-Connect Telematics ซึ่งสามารถตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอพพลิเคชั่น T-Connectและ Apple Watch ได้ รวมทั้งมี Toyota Smart Center พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง ด้วย โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆดังนี้

  • Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชั่น
  • Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด
  • Packing Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่
  • Stolen Vehicle Tracking ตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม
  • OPS (Operator Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ
  • SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง *อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางกรณี
  • Pay As You Drive ประกันภัย "ขับน้อย จ่ายน้อย"
  • Navigator ระบบนำทางพร้อมแสดงข้อมูลจราจร รองรับการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น T-Connect
  •  My TOYOTA Wi-Fi กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้พร้อมกันสูงสุด 8 อุปกรณ์ ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็กเกจ
      All-New Toyota Corolla Altis จะมีทางเลือกเครื่องยนต์ 3 แบบ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกก็คือ ขุมพลัง Hybrid นั่นเอง
- เครื่องยนต์เบนซิน 1ZR-FBE ความจุ 1.6 ลิตร พละกำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที 
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 2ZR-FE ความจุ 1.8 ลิตร พละกำลัง 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที 
ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift (ไม่มีทางเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว)
- เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE Atkinson cycle 1.8 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรต์ รวมกำลังทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ที่ทาง Toyota เคลมว่าสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ 23.3 กม./ลิตร

  ระบบความปลอดภัยรอบนี้ถือว่าจัดมาเต็ม เพราะมีการติดตั้งชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ ที่มีบางอย่างเหนือกว่า Camry เสียอีก โดยภาพรวมนั้นจะมีดังนี้ครับ

  • เข็มขัดนิรภัยหน้าดึงรั้งและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • เข็มขัดนิรภัยหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรก ABS
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าด้านคนขับ
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน EBS
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer
  • สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย (เฉพาะ GR Sport และ Hybrid ทุกรุ่น)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (เฉพาะ GR Sport และ Hybrid High)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (เฉพาะ GR Sport และ Hybrid High)
  • ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS (เฉพาะ Hybrid High)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control ) แบบ All-speed Range (เฉพาะ Hybrid High)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) (เฉพาะ Hybrid High)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre Collision System) (เฉพาะ Hybrid High)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA (Lane Departure Alert with Steering Assist) (เฉพาะ Hybrid High)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA (Lane Tracing Assist) (เฉพาะ Hybrid High)
   สีภายนอกมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีน้ำตาล Phantom Brown, สีดำ Attitude Black Mica, สีขาวมุก White Pearl, สีแดง Red Mica Metallic, สีเทาฟ้า Celestite Grey, สีเงิน Silver Metallic และสีขาว Super White (เฉพาะรุ่น Limo และ 1.6 G) ส่วนรุ่น GR Sport จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่  สีดำ Attitude Black Mica, สีขาวมุก White Pearl และสีแดง Red Mica Metallic

All-New Toyota Corolla Altis มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่
- Limo ราคา 829,000 บาท
- 1.6 G ราคา 869,000 บาท
- GR Sport ราคา 999,000 บาท
- HYBRID Entry ราคา 939,000 บาท
- HYBRID Mid ราคา 989,000 บาท
- HYBRID High ราคา 1,099,000 บาท

   ทาง Toyota ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 2,300 คัน/เดือน โดยจะจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมลงโชว์รูมทั่วประเทศในวันที่ 13-15 กันยายนนี้

รายละเอียดสเปคและออปชั่นของ All-New Toyota Corolla Altis 
* ขนาดมิติตัวถังยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,780 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร (Hybrid สูง 1,455 มิลลิเมตร) ฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร ระดับต่ำสุดจากพื้น 155 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร ใน Hybrid และ 50 ลิตรในเบนซิน 1.6 และ 1.8 ลิตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2-5.4 เมตร
* ระบบช่วงล่างหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
* ระบบช่วงล่างหลังอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
* ระบบเบรกหน้าดิสก์เบรก ขนาด 15 นิ้ว
* ระบบเบรกหลังดิสก์เบรก ขนาด 15 นิ้ว
* พวงมาลัยระบบ EPS (Electric Power Steering)

เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 และ 1.8 ลิตร
* รุ่น Limo ราคา 829,000 บาท
* เครื่องยนต์เบนซิน 1ZR-FBE ความจุ 1.6 ลิตร พละกำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที 
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ชุดไฟหน้าฮาโลเจน
  • ชุดไฟท้าย LED
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบธรรมดา
  • กระจังหน้าสีดำ
  • มือจับประตูด้านนอกสีตัวรถ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Lights)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
  • ระบบไฟหน้า Follow-me-home
  • ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วพร้อมยางขนาด 195/65 R15
  • ล้ออะไหล่ : ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วพร้อมยางขนาด 195/65 R15
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • เบาะผ้าสีทูโทน เบจและน้ำตาล
  • พวงมาลัยหุ้มยูรีเทน
  • วัสดุตกแต่งคอนโซลกลาง พร้อมกล่องเก็บของ และที่วางแก้วน้ำสีดำ
  • หัวเกียร์หุ้ม PVC
  • วัสดุตกแต่งที่จับประตูสีดำ
  • เบาะนั่งด้านหน้าแบบธรรมดา
  • เบาะนั่งด้านหลังแบบธรรมดา
  • กระเป๋าหลังเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสาร
  • เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • เครื่องเล่น CD รองรับ Bluetooth / USB และลำโพง 4 จุด
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display)
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำ และใกล้-ไกล
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ช่องต่อ USB ด้านหน้า
  • หน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-protection ทั้ง 4 บาน
  • กุญแจรีโมท
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ระบบความปลอดภัย
  • เข็มขัดนิรภัยหน้าดึงรั้งและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • เข็มขัดนิรภัยหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรก ABS
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าด้านคนขับ
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน EBS
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer
รุ่น 1.6 G ราคา 869,000 บาท (เพิ่มเงิน 40,000 บาทจากรุ่น Limo)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Limo)
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและตั้งเวลาได้
  • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม
  • ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16
  • ล้ออะไหล่ : ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น Limo)
  • เบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์สีทูโทน เบจและน้ำตาล
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง
  • เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ช่องปรับอากาศด้านหลัง
  • เครื่องเล่น CD รองรับ Bluetooth / USB และลำโพง 6 จุด
  • ช่องชาร์จแบตผ่าน USB ในกล่องเก็บของ
  • ระบบสตาร์ทรถและเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start and Smart Entry)
ระบบความปลอดภัย 
  • ไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่น Limo
รุ่น GR Sport ราคา 999,000 บาท (เพิ่มเงิน 130,000 บาทจากรุ่น 1.6 G)
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 2ZR-FE ความจุ 1.8 ลิตร พละกำลัง 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที 
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.6 G)
  • ชุดไฟหน้า LED
  • ชุดไฟท้าย Full LED
  • กระจังหน้าเปียโนแบล็ค
  • กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ (Auto Folding) พร้อม Reverse Link
  • ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass)
  • ไฟตัดหมอกหน้า LED
  • สเกิร์ตหน้า / สเกิร์ตข้าง / สเกิร์ตหลัง / สปอยเลอร์หลัง
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/45 R17
  • ล้ออะไหล่ : ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/45 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.6 G)
  • เบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์สีดำและตกแต่งสีแดง
  • ตกแต่งคอนโซลกลาง พร้อมกล่องเก็บของ และที่วางแก้วน้ำด้วยวัสดุเปียโนแบล็ค
  • วัสดุตกแต่งที่จับประตู เปียโนแบล็ค / สีแดง
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า
  • เบาะนั่งด้านหลังพับได้ (60:40) พร้อมที่วางแขนและวางแก้วน้ำ
  • กระเป๋าหลังเบาะนั่งคู่หน้า
  • เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Bluetooth / USB พร้อม Apple CarPlay และลำโพง 6 จุด
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) แบบสี 4.2 นิ้ว
  • ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ไฟส่องสว่างบริเวณที่บังแดดด้านหน้า
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.6 G)
  • สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

เครื่องยนต์ Hybrid
* เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE Atkinson cycle 1.8 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรต์ รวมกำลังทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT 

รุ่น Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ชุดไฟหน้าฮาโลเจน แบบ Hybrid
  • ชุดไฟท้าย Full LED
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและตั้งเวลาได้
  • กระจังหน้าเปียโนแบล็ค
  • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Lights)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
  • ระบบไฟหน้า Follow-me-home
  • กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ (Auto Folding)
  • ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16
  • ล้ออะไหล่ : ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • เบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์สีดำ
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง
  • ตกแต่งคอนโซลกลาง พร้อมกล่องเก็บของ และที่วางแก้วน้ำด้วยวัสดุเปียโนแบล็ค
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง
  • วัสดุตกแต่งที่จับประตู เปียโนแบล็ค / สีเงิน
  • เบาะนั่งด้านหน้าแบบธรรมดา
  • เบาะนั่งด้านหลังแบบธรรมดา
  • กระเป๋าหลังเบาะเบาะผู้โดยสาร
  • เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ช่องปรับอากาศด้านหลัง
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • เครื่องเล่น CD รองรับ Bluetooth / USB และลำโพง 6 จุด
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) แบบสี 4.2 นิ้ว
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำ และใกล้-ไกล
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ช่องต่อ USB ด้านหน้า
  • หน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-protection ทั้ง 4 บาน
  • กุญแจรีโมท
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
  • ช่องชาร์จแบตผ่าน USB ในกล่องเก็บของ
  • ระบบสตาร์ทรถและเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start and Smart Entry)
  • ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ไฟส่องสว่างบริเวณที่บังแดดด้านหน้า
ระบบความปลอดภัย
  • เข็มขัดนิรภัยหน้าดึงรั้งและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • เข็มขัดนิรภัยหลังELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรก ABS
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าด้านคนขับ
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน EBS
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer
  • สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย
รุ่น Hybrid Mid ราคา 989,000 บาท (เพิ่มเงิน 50,000 บาทจากรุ่น Hybrid Entry)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Entry)
  • ชุดไฟหน้า LED แบบ Hybrid
  • ชุดไฟท้าย Full LED
  • ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass)
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Entry)
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า
  • เบาะนั่งด้านหลังพับได้ (60:40) พร้อมที่วางแขนและวางแก้วน้ำ
  • กระเป๋าหลังเบาะคู่หน้า
  • เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Bluetooth / USB พร้อม Apple CarPlay และลำโพง 6 จุด
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) แบบสี 7 นิ้ว
  • กล้องมองหลัง
  • แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย
ระบบความปลอดภัย 
  • ไม่มีเพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Entry
รุ่น Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท (เพิ่มเงิน 110,000 บาทจากรุ่น Hybrid Mid)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid MID)
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ (Auto Folding) พร้อม Reverse Link
  • ไฟตัดหมอกหน้า LED
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/45 R17
  • ล้ออะไหล่ : ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/45 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid MID)
  • เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า
  • ระบบ T-connect Telematics
  • ระบบนำทาง (Navigator)
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนแบบอัตโนมัติ
  • หน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี
  • ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร (nanoe)
  • ม่านบังแดดหลัง
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid MID)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA  (Rear Cross Traffic Alert) 
  • ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitoring System)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed Range
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre Collision System) 
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA (Lane Departure Alert with Steering Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA (Lane Tracing Assist) 

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box