วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เผยโฉม All-New Subaru Forester รุ่นผลิตในประเทศไทย พร้อมส่งมอบเดือน มี.ค. ปีหน้า

   ภายในงาน Motor Expo 2018 ที่ผ่านมา ค่าย Subaru ได้ทำการเผยโฉม All-New Subaru Forester ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกของค่ายที่มีการผลิตในไทย โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงมีนาคมปี 2019 สำหรับผู้จอง 99 คนแรกจะได้รับสิทธิ์เยี่ยมชมโรงงานของ Subaru ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังด้วย

     ดีไซน์ภายนอกยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบจากรุ่นที่แล้วไว้อยู่ แต่ก็ได้ขัดเกลาให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น เราจะพบกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย กันชนหน้าออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้นและรับกับชุดกระจังหน้า ด้านข้างมีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับรุ่นที่แล้วแต่ขัดเกลาให้มีความโค้งมนมากขึ้น ออกแบบเส้นสายบนตัวถังให้ดูมีมิติและมีมัดกล้ามมากขึ้น ต่อเนื่องไปถึงด้านท้ายที่จะมากับโคมไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบให้ดูมีลูกเล่นกว่าเดิม

  All-New Subaru Forester ได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม จะมีขนาดความยาว 4,625 มิลลิเมตร กว้าง 1,815 มิลลิเมตร สูง 1,730 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร และมีระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถอยู่ระหว่าง 1,533-1,545 กิโลกรัม

   เครื่องยนต์นั้นจะทำการติดตั้งเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตรแบบลูกสูบนอน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT มากับระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบปีกนกคู่ ระบบเบรกหน้าและหลังเป็นดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน

  สำหรับรายละเอียดตัวรถสามารถอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

รุ่น 2.0 i-L ราคา 1,330,000 บาท
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ที่ฉีดล้างน้ำไฟหน้า
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบฮาโลเจน
- ไฟหน้า LED แบบปรับระดับอัตโนมัติ
- ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
- ไฟเลี้ยวแบบ One Touch
- กระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ


- ที่ปัดน้ำฝนแบบมีเซ็นเซอร์ตรวจจับหยดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ราวหลังคา
- สปอยเลอร์หลังคา
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/60R17
- ระบบเครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วพร้อมระบบนำทาง
- ระบบแฮนด์ฟรีรองรับ Bluetooth
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone
- เบรกมือไฟฟ้า
- หน้าจออเนกประสงค์ประสิทธิภาพสูง
- พวงมาลัยอเนกประสงค์พร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
- ระบบเข้าสู่รถด้วยรหัส PIN
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า
- ที่พักแขนเบาะหลังพร้อมที่วางแก้ว
- กล้องจับภาพด้านหลัง
- เบาะหลงแบบปรับเอนได้
- แผ่นปิดห้องสัมภาระด้านหลังแบบถอดได้
- เซ็นเซอร์ถอยหลัง
- ระบบ SI-Drive
- ระบบ Smart Entry และ Push Start
- พวงมาลัยแบบปรับระดับ 4 ทิศทาง
- ช่องเสียบ USB และช่องเสียบเครื่องเล่นเพลง
- X-Mode
- เบาะหลังแบบพับได้ในอัตราส่วน 60:40
- เบาะหนัง
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ AVH
- เบรก ABS แบบ 4 Sensors/4 Channels พร้อมระบบกระจายแรงเบรก
- ระบบควบคุมแรงบิดอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
- ระบบเสริมแรงเบรก
- ระบบป้องกันคันเร่งค้าง
- ระบบยับยั้งการทำงานของเครื่องยนต์
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VDC
- ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉิน
- จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX
- ระบบแป้นเหยียบนิรภัย
- คานนิรภัยเสริมความแข็งแรงบริเวณประตูข้าง
- ถุงลมนิรภัย SRS ด้านข้าง ด้านหน้า และม่านถุงลม
- ถุงลมนิรภัย SRS ป้องกันเข่า

รุ่น 2.0 i-S ราคา 1,380,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น 2.0 i-L 50,000 บาท)
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟหน้า LED แบบปรับระดับอัตโนมัติ
- ไฟหน้าแบบปรับทิศทางตามการเลี้ยว
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/55R18
- ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง
- Special X-Mode
ระบบช่วยเตือนในการเปลี่ยนเลน
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ

รุ่น 2.0 i-S ES ราคา 1,450,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น 2.0 i-L 70,000 บาท)
- เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ Eyesight
 * ระบบเบรกและจัดการกำลังเครื่องยนต์ก่อนชน
 * ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงหรือออกจากช่องทางขับ
 * ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผันและการเตือนรถคันหน้าออกตัว
- กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า
- จอแสดงมุมมองภาพด้านข้าง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box