วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Toyota Prius Minor Change ปรับโฉมหน้ารถไฮบริดยอดนิยมค่ายสามห่วง

  ค่าย Toyota ได้ทำการเปิดตัว Toyota Prius Minor Change เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ไฮไลต์สำคัญน่าจะเป็นการนำเสนอระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยกำลังไฟฟ้า (AWD-e)เป็นครั้งแรก

   โดยตัวรถจะมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มเติมที่เพลาหลังส่งผลให้มีความเร็วขณะขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 69 กม./ชม. มอเตอร์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดรายที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสภาพอากาศหนาวเย็น แบตเตอรี่จะติดตั้งใต้เบาะหลังและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดยพื้นที่จุสัมภาระยังคงมีมากถึง 1,854 ลิตร

   Toyota Prius AWD-e จะเป็นหนึ่งในรถยนต์นั่งขับเคลื่อน 4 ล้อที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุดในอเมริกา โดยสามารถทำอัตราสิ้นเปลือง 22.1 กม./ลิตรสำหรับการขับขี่ในเมือง 20.4 กม./ลิตรสำหรับการขับขี่นอกเมือง และเฉลี่ยอยู่ที่ 21.3 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้ทีเดียว และเมื่อเปรียบเทียบรุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Prius L Eco ตัวนี้จะมีอัตราสิ้นเปลือง 24.65 กม./ลิตรสำหรับการขับขี่ในเมือง 22.53 กม./ลิตรสำหรับการขับขี่นอกเมือง และเฉลี่ยอยู่ที่ 23.8 กม./ลิตร 

   สำหรับการออกแบบรถภายนอก Prius Minor Change จะมากับโคมไฟหน้าทรงใหม่ที่ดูเข้าตามากขึ้นพร้อมด้วยกันชนหน้าที่ออกแบบให้รับกับไฟหน้าใหม่ เช่นเดียวกับไฟท้ายทรงใหม่ที่ค่อนข้องดูดีมากขึ้นและกันชนท้ายใหม่ ลูกค้าจะมีทางเลือก 2 สีตัวถังภายนอกใหม่ ได้แก่ สีแดง Supersonic Red และ สีฟ้า Electric Storm Blue ส่วนภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ (ใช้คอนโซลแบบเดียวกับ Prius Prime) ตกแต่งภายในใหม่ให้ดูหรูหราและมีคุณภาพมากขึ้น

   Toyota Prius Minor Change จะติดตั้งชุดระบบความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยของ Toyota Safety Sense P ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยก่อนการชนพร้อมฟังก์ชั่นการตรวจจับคนเดินถนน Pre-Ccollision System with Pedestrian Detection , ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ  Lane Departure Alert with Steering Assist , ระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam , และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control

  Toyota Prius Minor Change รุ่น AWD-e จะมีราคาเริ่มต้นในตลาดสหรัฐฯที่ 27,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 892,000 บาท

ที่มา Carscoops


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box