วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561

All-New Honda Passport รถอเนกประสงค์แดนมะกันที่มาเติมเต็มช่องว่างระหว่าง CR-V และ Pilot

  ที่ตลาดสหรัฐฯ ค่าย Honda ได้ทำการเปิดตัว All-New Honda Passport ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีตำแหน่งทางการตลาดแทรกกลางระหว่าง Honda CR-V และ Honda Pilot 

  การจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า แน่นอนว่า Honda Passport จะมีขนาดใหญ่และมีดีไซน์ที่ดูแข็งแกร่งกว่า CR-V  แต่จะมีความสปอร์ตและขนาดเล็กกว่า Pilot ทาง Honda ให้สัญญาว่ารถคันนี้จะผสานการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งบนพื้นผิวถนนและบนเส้นทางแบบออฟโรด

   ภายนอกของรถจะมากับกระจังหน้าสีดำ พร้อมไฟหน้าแบบ LED ที่มีรายละเอียดเหมือนรถ Honda ยุคใหม่ๆ เสริมความเท่ด้วยชุดตกแต่งทำจากพลาสติกสีดำรอบคันรถ ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วมาให้เป็นมาตรฐาน ส่วนด้านท้ายจะมากับปลายท่อไอเสียคู่แบบโครเมี่ยม

   ห้องโดยสารจะใช้คอนโซลชุดเดียวกับ Honda Pilot ติดตั้งพวงมาลัย 4 ก้านดีไซน์ใหม่ ตรงกลางหน้าปัดจะมากับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว , ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน , ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตัวและหน้าจอขนาด 5 นิ้ว

  สำหรับรุ่นที่สูงขึ้นไปอีก โดยรุ่นกลาง EX-L จะมากับเบาะหนังพร้อมฟังก์ชั่นปรับอุ่น , หลังคา moonroof และระบบอินโฟเทนเมนต์พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto , เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า , ระบบ HomeLink และกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะปรับตามการเลี้ยวของรถ

  ถัดขึ้นไปอีกจะเป็นรุ่น Touring และ Elite จะติดตั้งระบบนำทาง GPS, ไฟส่องสว่างภายในรถ และระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยม 10 ลำโพง ไฮไลท์อื่น ๆ ได้แก่ เบาะที่นั่งด้านหลังแบบอุ่น , การตกแต่งภายในสีดำเงาและมี 4G LTE Wi-Fi Hotspot ด้วย

    Honda ให้ข้อมูลว่า Passport จะมีห้องโดยสารด้านหลังและพื้นที่ภายในทั้งหมดดีที่สุดในกลุ่ม ด้านหลังของรถจะมากับความจุสัมภาระที่ 1,166 ลิตร และสามารถเพิ่มเป็น 2,205 ลิตร  เมื่อพับเบาะหลังด้วยการกดปุ่ม หากยังไม่เพียงพอก็จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระอีก 70.8 ลิตรใต้แผ่นกั้นบริเวณท้ายรถ

  ขุมพลังของรถจะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร พละกำลัง 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 354 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และยังมีออปชั่นเสริมซึ่งเป็นระบบช่วยควบคุมแรงบิดของล้อทั้ง 4  ขณะเข้าโค้ง  (Torque Vectoring All-Wheel Drive System) ได้อีกด้วย

   เนื่องจาก Passport ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ออฟโรดด้วย ทุกรุ่นจึงติดตั้งระบบช่วยจัดการการยึดเกาะถนนที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งแบบ ปกติ (Normal) , ทราย (Sand) , หิมะ (Snow) และโคลน (Mud) ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทาง Honda กล่าวว่าระบบนี้ช่วยให้ Passport มีความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดมากกว่าครอสโอเวอร์คู่แข่งคันอื่นๆ

   และแน่นอนว่า Honda Passport คันนี้ไม่มีขายในไทยครับ!

ที่มา Carscoops

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box