วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2563

Honda Civic Type R Minor Change ปรับดีไซน์นิดหน่อย เน้นปรับด้านการขับขี่

  ภายหลังการปรับโฉมให้กับ Honda Civic ทั้งโฉมซีดาน แฮตซ์แบ็ค และตัวแรง Si แล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของตัวแรงสุดอย่าง Type R ที่ต้องปรับโฉมใหม่แล้วตามมา

   โดยรถมีการเปิดตัวภายในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ที่ผ่านมา การปรับเปลี่ยนภายนอกจะมากับกระจังหน้าใหม่ที่มีช่องรับอากาศใหญ่ขึ้น ตกแต่งกันชนหน้าและกันชนท้ายใหม่ และยังมีสีภายนอกใหม่ สีน้ำเงิน Boost Blue ด้วย

   ภายในห้องโดยสาร (ไม่มีภาพปล่อยออกมา) ผู้ใช้จะพบกับพวงมาลัยใหม่ที่หุ้มด้วย Alcantara และหัวเกียร์ใหม่ที่มาพร้อมการเปลี่ยนเกียร์ที่สั้นลง ติดตั้งระบบสร้างเสียงเครื่องยนต์ปลอม Active Sound Control ที่เพิ่มความเร้าใจของเสียงเครื่องให้ดุดันขึ้นไปอีก และแน่นอนว่ายังติดตั้งชุดความปลอดภัย Honda Sensing มาให้เป็นมาตรฐานในทุกเกรดการแต่ง อันประกอบไปด้วย
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS) 
  • ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS) 
  • ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam (AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow (ACC with LSF)
 ระบบช่วงล่างด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนใหม่นั้นมีผลให้แรงเสียดทานลดลงและปรับปรุงความรู้สึกของพวงมาลัยใหม่ด้วย นอกจากนั้นแล้วทาง Honda ยังปรับปรุงตัวหน่วงการสั่นสะเทือนให้นุ่มนวลขึ้นและเพิ่มการยึดเกาะด้วยบูชด้านหลังที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย

  เครื่องยนต์ยังคงเดิม โดยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จเจอร์ 4 สูบความจุ 2.0 ลิตร พละกำลัง 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร  ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อมระบบระบบขับเคลื่อนและเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป

  โหมดการขับขี่ยังคงมีให้เลือก 3 โหมดเช่นเดิม ได้แก่ Comfort, Sport และ + R ในแต่ละโหมดจะปรับแต่งฮาร์ดแวร์ให้เหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ  สามารถปรับช่วงล่างให้แข็งหรืออ่อนลงได้ รวมทั้งปรับน้ำหนักพวงมาลัย และการตอบสนองคันเร่งได้ด้วย

   Civic Type R ที่ได้รับการอัปเดตใหม่จะเปิดตัวในสหรัฐก่อนสิ้นฤดูหนาว (ช่วงเดือนกุมภาพันธ์) และจะประกาศราคาค่าตัว ณ ตอนนั้น

ที่มา Carscoops

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box