ที่งาน Singapore Motorshow 2020 ที่ผ่านมา บริษัท Motor Image ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายค่ายดาวลูกไก่ Subaru ได้ทำการเปิดตัว Subaru Forester e-Boxer วางจำหน่ายรุ่นย่อยเดียวคือ 2.0i-S EyeSight Hybrid ในราคาเริ่มต้นที่ 124,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 2,790,000 บาทไทย)
Forester e-Boxer จะมีรูปทรงภายนอกที่แทบเหมือนรุ่นปกติทุกอย่าง ต่างแค่การติดตั้งโลโก้ "e-Boxer”เพียงไม่กี่จุดบนรถเท่านั้น ภายใต้ฝากระโปรงจะติดตั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตรพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยเสริมพละกำลัง คือ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 16.7 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 66 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Hybrid Lineartronic CVT มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากชุดแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่ตั้งอยู่ใต้พื้นรถบริเวณห้องสัมภาระด้านหลัง แต่ไม่กระทบต่อความจุสัมภาระด้านหลังมากนัก โดยลดจาก 520 เหลือ 509 ลิตร
แน่นอนว่าคันนี้จะมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Symmetrical All-Wheel Drive อันเป็นเอกสิทธิ์ของ Subaru พร้อมโหมด X-Mode และ SI Drive โดยขุมพลังที่กล่าวมานั้นจะเป็น Mild Hybrid กล่าวคือ เป็นระบบไฮบริดขนาดเล็กที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่หน้าที่หลักยังคงเป็นเครื่องยนต์
ในช่วงความเร็วต่ำนั้น สามารถใช้ระบบไฟฟ้าล้วนๆในการออกตัวซึ่งได้ในระยะทางสั้นๆเท่านั้น พอไต่ระดับความเร็วเพิ่มขึ้น เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ความเร็วสูงเครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลักเท่านั้น
Forester e-Boxer สเป็คของสิงคโปร์มาพร้อมกับไฟหน้า LED, ล้อขนาด 18 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone, ชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วที่สามารถรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ได้), เบาะไฟฟ้าคู่หน้า, โหมดการขับขี่ X-Mode แบบพิเศษ, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ (ด้านหน้า, ด้านข้าง, ผ้าม่าน, หัวเข่าของผู้ขับขี่) และชุดระบบความปลอดภัย EyeSight ที่ประกอบด้วย
Subaru Forester e-Boxer ยังไม่มีแผนนำเข้ามาจำหน่ายในไทยขณะนี้ แต่เท่าที่ทราบคือยังอยู่ในช่วง "ศึกษาความเป็นได้" ในการนำมาผลิตในไทย ซึ่งหากคุ้มทุนพอและน่าจะสร้างยอดขายได้เยอะ ก็จะมีโอกาสนำมาจำหน่ายแน่นอน สาวกดาวลูกไก่ก็ต้องติดตามต่อไป
ที่มา Paultan
ในช่วงความเร็วต่ำนั้น สามารถใช้ระบบไฟฟ้าล้วนๆในการออกตัวซึ่งได้ในระยะทางสั้นๆเท่านั้น พอไต่ระดับความเร็วเพิ่มขึ้น เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ความเร็วสูงเครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลักเท่านั้น
- ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนชน Pre-Collision Braking
- ระบบจัดการกำลังเครื่องยนต์ก่อนชน Pre-Collision Braking
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงหรือออกจากช่องทางขับ Lane Sway and Departure Warning
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- ระบบการเตือนรถคันหน้าออกตัว Lead Vehicle Start Alert
ที่มา Paultan
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย