วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เจาะสเปค All-New MG5 เปิดราคาในไทยแล้ว เริ่มที่ 559,000-689,000 บาท

 เจาะสเปค All-New MG5 เปิดราคาในไทยแล้ว มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- C 559,000 บาท
- D 599,000 บาท
- X 689,000 บาท
สีตัวถังมีให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีเหลือง Nuclear Yellow (เฉพาะรุ่น X)
- สีแดง Scarlet Red (เฉพาะรุ่น X)
- สีขาว Arctic White
- สีเงิน Silver Metallic (ยกเว้นรุ่น X)
- สีเทา Metal Ash Grey (ยกเว้นรุ่น C)
- สีดำ Black Knight


ข้อมูลสเปคและออปชั่นของ All-New MG5

* มิติตัวถังภายนอกยาว 4,675 มิลลิเมตร กว้าง 1,842 มิลลิเมตร สูง 1,473-1,480 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,680 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 138 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร 
* ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร
* ระบบช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง / ระบบช่วงล่างหลังทอร์ชั่นบีม
* ระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน / ระบบเบรกหลังดิสก์เบรก

รุ่น C ราคา 559,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ระบบควบคุมการ เปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ไฟท้ายแบบ LED 
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • ล้อกระทะ 16 นิ้วพร้อมฝาครอบล้อ พร้อมยาง 205/55 R16
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • ภายในสีดำ
  • เบาะนั่งหุ้มผ้า
  • เบาะนั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • ที่พักแขนด้านหน้า
  • เบาะนั่งด้านหลังพับได้
  • พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำได้
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up – Down
  • กระจกมองหลังตัดแสง
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start
  • กรองอากาศ PM2.5
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • ลำโพง 4 ตัว
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว 
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 3 ตำแหน่ง
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย สมาร์ทโฟนระบบ Android
ระบบความปลอดภัย
  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
รุ่น D ราคา 599,000 บาท (เพิ่มเติม 40,000 บาทจากรุ่น C)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มจากรุ่น C)
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) 
  • ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R16
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มจากรุ่น C)
  • เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์
  • ช่องเอกสารด้านหลังเบาะหน้า
  • ลำโพง 6 ตัว
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มจากรุ่น C+)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • กล้องมองหลัง
รุ่น X ราคา 689,000 บาท (เพิ่มเติม 90,000 บาทจากรุ่น D)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มจากรุ่น D)
  • หลังคาซันรูฟ
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/50 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มจากรุ่น D)
  • สีภายในสีทูโทนดำ-แดง (เฉพาะรถสีเหลือง จะได้ภายในดำ)
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง 
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display)
ระบบสั่งการอัจฉริยะ i - SMART
- SMART CHECK
  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
- SMART COMMAND
  • กุญแจดิจิตอล
  • ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
  • ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan
  • ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
  • ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
- SMART CONNECT
  • ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
  • ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
  • ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
  • อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
  • ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
  • อัพเดตข้อมูลพยากรณ์อากาศ
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มจากรุ่น D)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
  • ม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ

รูปภาพเพิ่มเติม




วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงานเทศกาลเทคโนโลยีครั้งที่ 8 ขนทัพนวัตกรรมใหม่ล่าสุด พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ปี ค.ศ. 2025 ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลก 4 ล้านคัน

 เมื่อเร็วๆ นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงานเทศกาลเทคโนโลยี ครั้งที่ 8 (The 8th Technology Festival) อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์ HAVAL Technical Center ในเมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน ภายในงานอัดแน่นด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด การประกาศเครือข่ายพันธมิตร Coffee Intelligent Ecological Alliance การอัปเกรด GWM Coffee Intelligent 2.0 การเปิดตัวครั้งแรกต่อตลาดโลกของ Intelligent by Wire Chassis ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และห้องโดยสารอัจฉริยะ พร้อมด้วยการประกาศยุทธศาสตร์หลักปี ค.ศ. 2025 หรือ พ.ศ. 2568 เพื่อก้าวขึ้นสู่แบรนด์ระดับโลก 

    ด้วยเป้าหมายยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่ 4 ล้านคัน ซึ่งจะเป็นรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 80% พร้อมเป้าการสร้างรายได้กว่า 6 แสนล้านหยวน (3 ล้านล้านบาท) และเพิ่มงบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอีกกว่าแสนล้านหยวน (5 แสนล้านบาท) ใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคทั่วโลก

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการจัดงานเทศกาลเทคโนโลยีของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งนับเป็นเทศกาลที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของบริษัท โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ "Accelerating Carbon Neutralization and Creating Intelligence" เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สะท้อนระบบนิเวศทางเทคโนโลยีสมัยใหม่อันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

มร.แจ็ค เว่ย ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า 

“ในช่วงเวลา 3-5 ปี หลังจากนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะใช้ช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่เพื่อมุ่งมั่นคิดค้น วิจัย และพัฒนาทั้งในด้านพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม โอกาส และความได้เปรียบในตลาดโลก โดยเราจะผลักดันศักยภาพ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงขององค์กรเพื่อให้ก้าวสู่การเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) อย่างแท้จริง ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 

1.การวางแผนงานระดับโลก (Global Layout) 

2.การลงทุนขนาดใหญ่ในการวิจัยและพัฒนา (Large Investment in R&D) 

3.การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กร (Great Change of Enterprise) และ

 4.การดำเนินงานที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-Centric Operation)”

ด้วยเป้าหมายหลักที่จะเป็น "ผู้นำในจีนและก้าวไปสู่แบรนด์ระดับโลก" ในปี ค.ศ. 2025 หรือ พ.ศ. 2568 เกรท วอลล์ มอเตอร์ วางแผนที่จะบรรลุเป้าหมายยอดขายทั่วโลกที่ 4 ล้านคันในปีนั้น ซึ่ง 80% ของยอดขายดังกล่าวจะมาจากรถยนต์พลังงานใหม่ พร้อมตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 6 แสนล้านหยวน (3 ล้านล้านบาท) และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มงบลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอีกมากกว่าแสนล้านหยวน (5 แสนล้านบาท) เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความชาญฉลาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลก และตั้งเป้าให้มีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาทั่วโลกจำนวนมากกว่า 30,000 คน ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์อีกกว่า 10,000 คน ภายใน 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังคงเน้นย้ำแนวคิดการทำงานที่เน้น "ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง" เพื่อสร้างระบบการทำงานใหม่ที่องค์กรและผู้บริโภคทำงานร่วมกันผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตของผู้บริโภคสู่ภาคธุรกิจ (Consumer to Business หรือ C2B) ซึ่งจะเป็นการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ระหว่าง "ผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบริการ" ที่ทุกฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ในงานเทศกาลเทคโนโลยีในครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำเสนอนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่น่าสนใจ ได้แก่

การก่อตั้ง Coffee Intelligent Ecological Alliance ซึ่งจะเป็นกลุ่มพันธมิตรที่ร่วมสร้างสภาพแวดล้อมแบบใหม่สำหรับการเดินทางอันชาญฉลาดในอนาคต โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เผยแผนการสร้างแพลตฟอร์ม Coffee Intelligent Crowdsourcing ซึ่งจะเปิดตัวในปี พ.ศ. 2564 นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนพันธมิตรกว่า 150 บริษัท ภายในปี 2565 และในปี พ.ศ. 2568 จะมีพันธมิตรที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม ในด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว การแพทย์ การเงิน กีฬา เป็นต้น

Intelligent by Wire Chassis เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวแชสซีอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าของบริษัทเป็นครั้งแรกสู่ตลาดโลก โดยเป็นแชสซีสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 ขึ้นไป สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "หนึ่งสมองประสานห้าระบบเพื่อการควบคุมอิสระหกรูปแบบ" โดยผสานรวมระบบแชสซีหลักทั้ง 5 ระบบ ได้แก่ การบังคับเลี้ยวแบบ steering by wire  การเบรกแบบ braking by wire  การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบ shift by wire การควบคุมคันเร่งแบบ throttle by wire และการควบคุมช่วงล่างแบบ suspension by wire ซึ่งจะครอบคลุมการควบคุมการเคลื่อนไหวทั้ง 6 รูปแบบอย่างอิสระ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย ด้านขวา การขึ้นและลงของตัวรถ

การอัปเกรดและเผยแพร่ GWM Coffee Intelligent 2.0 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด "ภูมิปัญญา พันธมิตร และการขับขี่อันชาญฉลาด" ซึ่งประกอบด้วย 

1.ศูนย์รวมอัจฉริยะ 1 แห่ง ที่มาพร้อมข้อได้เปรียบทางเทคนิคที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การบริการ การสร้างมาตรฐาน ความยืดหยุ่น และการสร้างพันธมิตร 

2. โครงสร้างอันทรงพลัง ที่ทำให้ให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ในระดับไฮเอนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 

3.การอัปเกรดอัจฉริยะที่สำคัญทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ การอัปเกรดรอบห้องโดยสารอัจฉริยะ การขับขี่อัจฉริยะ และการบริการอัจฉริยะ 

ซึ่งการอัปเกรดเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและยานพาหนะ ช่วยสร้างเครือข่ายอัจฉริยะที่ทรงพลังให้แก่ เกรท วอลล์ มอเตอร์  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ จะพบว่าระบบการควบคุมการสั่งงานด้วยไฟฟ้า (Electronic & Electrical Architecture) รูปแบบใหม่ของ เกรท วอลล์ มอร์เตอร์ นี้ จะสามารถควบคุมซอฟต์แวร์ของยานพาหนะจากศูนย์กลางได้มากยิ่งขึ้น สามารถสร้างระบบ SOA (Service-Oriented Architecture) โมดูลซอฟต์แวร์ และอินเทอร์เฟซการสื่อสารที่มีมาตรฐานและเสมือนจริงมากกว่า โดยเป็นการพัฒนาฟังก์ชั่นแยกส่วนระหว่างซอฟต์แวร์และการพัฒนาแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ ในขณะเดียวกัน ระบบใหม่นี้มีฟังก์ชั่นการอัปเกรดระบบสมัครสมาชิก (subscription) โดยผู้ใช้สามารถสมัครรับการอัปเกรดฟังก์ชั่นการบริการต่างๆ ของรถได้ตามต้องการและตามความชอบของตนเองได้แบบไดนามิก โดยไม่ต้องรอชุดการอัปเกรดซอฟต์แวร์ จึงนับเป็นมิติใหม่ของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์เลยทีเดียว

ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Intelligent Cockpit) เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นผู้นำในการสร้างแพลตฟอร์มห้องโดยสารอัจฉริยะโดยใช้ชิป Qualcomm 8155 ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบเครื่องยนต์ของรถยนต์ทั่วไปรุ่นก่อนๆ จะพบว่าประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU มีเพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5 เท่า และมีการประมวลผลภาพ GPU เพิ่มขึ้นมากกว่า 3.5 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับเฟิร์สคลาสในอุตสาหกรรม เสริมด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่มีการประมวลผลสูงเป็นพิเศษโดยเฉพาะการประมวลผลภาพและเสียง ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ภายในห้องโดยสารที่รื่นรมย์ เสถียร และปลอดภัยยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Coffee Intelligent Driving นับเป็นโซลูชั่นการขับขี่อัตโนมัติแรกสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่อัดแน่นไปด้วยการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานอันโดดเด่นที่มีการผลิตเป็นจำนวนมากในประเทศจีน โดย icu 3.0 ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการประมวลผลการขับขี่อัตโนมัติที่ประหยัดพลังงานที่สุดในโลก และสามารถตอบสนองการใช้ในระดับ L3 L4 L5 รวมไปถึงการขับขี่อัตโนมัติรูปแบบอื่นๆ 

เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน ประกอบไปด้วยระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ระบบกักเก็บไฮโดรเจน และส่วนประกอบหลักอื่นๆ ที่สำคัญ โดยภายในปี พ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดตัวรถเอสยูวีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนระดับ C รุ่นแรกของโลก และเกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นสามอันดับแรกในตลาดพลังงานไฮโดรเจนทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2568

ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้ารักษาคำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคทุกคนจะได้รับและใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการที่ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

All-New Hyundai Staria เปิดราคาในไทยแล้วที่ 1,729,000-1,999,000 บาท

   เปิดตัวแล้วในไทยกับ All-New Hyundai Staria รถตู้สุดหรูที่จะมาสานต่อความสำเร็จของ Hyundai H-1 เปิดราคาแล้ว โดยมีทั้งหมด 2 รุ่นย่อยคือ
- S 1,729,000 บาท
- SEL 1,999,000 บาท


มาพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Abyss Black Pearl, สีเทา Graphite Gray Metallic และสีเงิน Shimmering Silver Metallic มีสีภายในให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีทูโทนดำ-เบจ (เฉพาะรถสีดำ)

เรามาดูข้อมูลทางเทคนิคของรถคันนี้กันครับ
ข้อมูลทางเทคนิคของ All-New Hyundai Staria
  • เครื่องยนต์ดีเซล R2.2 CRDI รหัส D4HB ความจุ 2.2 ลิตร 2,199 ซีซี. แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น ระบบอัดอากาศ Variable Geometry Turbocharger with Intercooler พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO4 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Paddle Shift มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
  • มิติตัวถังยาว 5,253 มิลลิเมตร กว้าง 1,997 มิลลิเมตร สูง 1,990 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 3,273 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 186 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.97 เมตร
  • ระบบพวงมาลัย Column Type of Motor Driven Power Steering 
  • ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท / ช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์
  • ระบบเบรกหน้า/หลังดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน

รุ่น S ราคา 1,729,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟลกเตอร์
  • ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED
  • กระจกหน้าต่าง Flush Glass ที่ประตูสไลด์
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
  • ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
  • สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ข้างพร้อมระบบ Smart
  • ที่ปัดน้ำฝนหน่วงเวลาหน้าและหลัง
  • ล้อขนาด 17x6.5J พร้อมยาง 215/65 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD ขนาด 4.2 นิ้ว
  • ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่มกด Shift-by-Wire
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shifter 
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง
  • พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ เข้า-ออก 
  • เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold
  • เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์
  • ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบธรรมดา
  • กระจกไฟฟ้าปรับขึ้นลงอัตโนมัติพร้อมระบบกันหนีบฝั่งคนขับ
  • กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button)  
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัตแยกปรับอิสระหน้า-หลัง
  • ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 
  • ที่ชาร์จไฟแบบ USB 7 ช่อง
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
  • ช่อง USB ต่ออุปกรณ์มัลติมีเดีย 1 ช่อง
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Corntrol) 
  • กล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด (Back Carniera)
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • ม่านถุงลมนิรภัยแบบยาว
  • เข็มขัดนิรภัย 3 จุด 11 ที่นั่ง
  • จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก (ISOFIX) 2 จุด
  • เซ็นเซอร์กะระยะการเข้าจอด (หน้า / หลัง) 
  • ระบบสัญญาณกันขโมย
  • ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS 
  • ระบบเบรก ABS 
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC 
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill start Assist Control)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ MCB (Mult Coision Brake)
  • ระบบเตือนให้เซ็คผู้โดยสารตอนหลัง ROA (Rear Occupant Alert)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCW (Blind Spot Collision Warning) 
รุ่น SEL ราคา 1,999,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น S)
  • ไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED
  • ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Smart
  • ล้อขนาด 18x7.0J พร้อมยาง 235/55 R18
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น S)
  • หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
  • แผงคอนโซลตกแต่งด้วยลายตะเข็บพิเศษ
  • กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • เบาะหุ้มหนังแท้
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 12 ทิศทางพร้อมระบบปรับดันหลัง
  • ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้า
  • ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
  • กระจกไฟฟ้าปรับขึ้นลงอัตโนมัติพร้อมระบบกันหนีบฝั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น S)
  • กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Smart Cruise Corntrol) 
  • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า DAW (Driver Attention Wirring) 
  • ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA (Forward Collision-Avoidance Assist)
  • ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก FCA-JX (Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keeping Assist) 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA (Lare Following Assist) 
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Bind Spot Collision-Avoidance Assist) 
  • ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา BVM (Blind-Spot View Mornitor) 
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA (Rear Cross Traffic Collision-Avoidance Assist) 
  • ระบบป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA (Safe Exit Assist)
ภาพเพิ่มเติม



Like Box