วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เผยโฉม Toyota Camry Minor Change ที่รัสเซีย จับตาให้ดี เพราะหน้าแบบนี้ พี่ไทยได้ใช้แน่นอน

  คุณผู้อ่านทั้งหลายผู้ที่กำลังจะซื้อรถ กำลงติดตามข่าวสารรถ ไม่ต้องรอคอยกันอีกต่อไปแล้วครับ มาดูข่าวนี่ก่อน เพราะที่ประเทศรัสเซีย ได้ทำการเปิดตัว Toyota Camry Minor Change กันเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา คุณผู้อ่านไม่ต้องมโนหน้าตาให้ปวดหมองกันแล้วหละ



   เริ่มมาส่องที่หน้าตาของรถกันครับ หน้าตาของรถยังคงได้รับแนวการออกแบบแนว Keen Look ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Toyota อยู่แล้ว ซึ่งมองดูๆแล้ว หน้าตามันนำเอาแนวการออกแบบมาจาก E-Segment ระดับหรูของอเมริกาอย่าง Toyota Avalon เต็มๆ เพียงแค่ Camry จะมีเหลี่ยมสันกว่าเท่านั้น ไฟหน้าของรถปรับใหม่ให้โฉบเฉี่ยวขึ้น และฝังไฟ LED Daytime Runnig Light เข้าไปด้วย ซึ่งการฝังก็ยังคงทำสไตล์ Toyota ซึ่งก็ทำให้รถดูโดดเด่นขึ้นทันที กันชนหน้าออกแบบใหม่คล้าย Vios เพิ่มโครเมี่ยมเติมความหรูหรา แต่ที่ทำให้ขัดใจนิดนึงคือ ตำแหน่งไฟตัดหมอกที่ย้ายจากตำแหน่งเดิมมาอยู่ตรงในส่วนช่องระบายอากาศตรงกันชนหน้านี่หละ ดูตลกดี ล้ออัลลอยเปลี่ยนลายใหม่ เปลี่ยนไฟท้ายใหม่(คาดว่าเวอร์ชั่นไทยจะเป็นแบบ LED) และกันชนท้ายใหม่ โดยรวมคือดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ยังไม่สุดครับ ยังขาดๆเกินๆอยู่

   ภายในมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เริ่มที่พวงมาลัยทรงสปอร์ตกว่าเดิม แผงคอนโซลหน้าใหม่ที่เพิ่มความหวือหวาอีกนิดนึง เปลี่ยนปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศใหม่ และติดตั้งจอ MID สีสันสวยงามตรงมาตรวัด นอกจากนี้ Toyota ยังปรับจูนช่วงล่างและการเก็บเสียงใหม่ และพวงมาลัยไฟฟ้าด้วย

   ด้านเครื่องยนต์นั้น ไม่มีการบอกข้อมูลมากเท่าไหร่ครับ แต่บอกแค่ว่า เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน VVT-iW ที่มีกลไกแบบ Atkinson Cycle ทำให้มีพละกำลังแรงขึ้นเป็น 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 199 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 10.4 วินาที จิบน้ำมัน 13.8 กม./ลิตร แต่....


   ในเวอร์ชั่นไทยค่อนข้างที่จะยืนยันแน่ชัดว่า เครื่อง 2.0 ลิตร จะมากับระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบตรง D-4S ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ เพราะไม่แน่ Toyota อาจจะเอาเครื่อง 2.0 ลิตรแบบรัสเซียอย่างที่กล่าวข้างบนมาขายก็ได้ ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและ 3.5 ลิตร ไม่เปลี่ยนแปลงขุมพลัง

   เรื่องระบบความปลอดภัยต่างๆและราคาต้องดูกันต่อไปครับ ถ้ามีความคืบหน้าเรามาแจ้งให้ทราบแน่นอน การเปิดตัวในไทย ค่อนข้างชัดเจนว่า เจอกันต้นปีหน้าครับ
  
 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!


 

Isuzu ซุ่มพัฒนารถมินิแวนท้าชน Toyota Innova

   ใครจะคาดคิดละครับว่า ค่ายรถเพื่อการพาณิชย์อย่าง Isuzu จะทำ MPV กับเขา ซึ่งใครๆหลายคน (รวมถึงผู้เขียน) คงจะไม่รู้เลยว่า Isuzu มันมีรถ MPV ที่ชื่อว่า Isuzu Panther ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 1991 แล้ว และยังมีบางประเทศที่ยังลากขายกันอยู่ นั่นแปลว่ามันแซยิดมากว่า 23 ปีแล้ว ก็คงเพราะรถมันมีดีในตัวเลยขายได้ ถ้า Isuzu คิดพัฒนารถโฉมใหม่ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ

   ล่าสุดเราก็ได้ยินข่าวมาว่า Isuzu กำลังแอบซุ่มเพื่อพัฒนามินิแวนรุ่นใหม่เพื่อมาท้าไฝว้กับ Toyota Innova มากับรหัสพัฒนาว่า RU30 ซึ่งจะมาเจาะตลาดในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งไทยอาจมีเอี่ยวด้วย รายละเอียดข้อมูลการพัฒนาและอะไรต่างๆยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไหร่นัก

    Isuzu RU30 จะต้องขึ้นสายการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ในเมืองทาดา ประเทศอินเดีย แต่สำหรับ
ฐานการผลิตในประเทศอาเซียน ยังไม่มีข้อมูลว่า Isuzu จะให้ใครผลิต


   และมันอาจเป็นไปได้ว่า Isuzu RU30 ใหม่ อาจจะเป็นตัวตายตัวแทนของ Isuzu Panther ที่ผ่านการแซยิดมานานสองนานได้ครับ แล้วมันจะมาไทยหรือไม่ ต้องรอลุ้นครับ
 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!


 

เปรียบเทียบมวยคู่เดือด ตอนที่ 26 : Nissan NP300 Navara VS. Toyota Hilux Vigo Champ



   ถ้าพูดถึงกระบะในยุคปัจจุบันนั้น มันไม่ใช่แค่เพียงรถคันใหญ่ๆที่มีหน้าที่เพียงแค่ขนของอีกต่อไปแล้วครับ แต่ยังเป็นรถที่สามารถพาเราไปได้ทุกที่ทุกทาง และยังโดยสารได้สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการใช้งานประดุจรถเก๋งด้วย ทำให้ผู้บริโภคสนใจที่จะเลือกรถแนวนี้มาใช้งานกัน ดูจากยอดขายในแต่ละเดือนที่ทำให้เราเห็นชัดว่า คนเล่นตลาดกลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหนกัน


    กระบะสมัยนี้ ใครๆก็คงรู้ว่า มันพกพาฟังก์ชันทันสมัยและความสะดวกสบายอย่างรถเก๋ง ทำให้คนไทยได้เห็นได้ใช้อะไรที่แปลกใหม่และสบายกว่าเดิม ดูจากกระบะหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ในรุ่นสูงๆจะมีระบบอินโฟเทนเมนต์ทันสมัยมาให้ ไม่ว่าจะเป็นจอสัมผัส ระบบนำทาง หรืออะไรต่างๆนานา ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างเมามันเลยละครับ และล่าสุด เราก็ได้ต้อนรับกระบะโฉมใหม่หมดจด อย่าง Nissan NP300 Navara ที่ไม่ใช่เพียงแค่มีฟังก์ชันที่ทันสมัยมากกว่ารุ่นเดิม แต่ยังได้ยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกระบะเมืองไทย ทำให้หลายคนสนใจกับเจ้ากระบะคันใหม่นี้อย่างมากเลยละครับผม

 และเราจะลองนำกระบะโฉมใหม่คันนี้มาเทียบกันกับคู่แข่งสุดเก่าในตลาด พกดีกรีแชมป์ยอดขายกระบะเมืองไทยอย่าง Toyota Hilux Vigo Champ ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 มากี่ยุคกี่สมัยแล้ว แม้ว่ากระบะ Vigo จะมีอายุในตลาดจะครบทศวรรษอยู่แล้ว แต่มันก็ได้รับการพัฒนาให้ก้าวทันยุคสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ ฉะนั้นเราจะมาดูว่า ของใหม่ถอดด้าม กับ ของเก่าเจ้าตลาด อะไรมันจะแน่กว่ากัน

    ถ้าจะให้เทียบเรื่องรูปร่างหน้าตาของรถ ยังไงก็ต้องบอกว่านาทีนี้ต้อง NP300 Navara ก็เพราะว่าหน้าตาที่ดูทันสมัยและดูสวยงามลงตัวกว่า ต่างจากเจ้าตลาด Vigo Champ ที่อยู่ในตลาดมานานพอสมควรแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เจ้า Vigo มันก็ยังดูเข้ายุคเข้าสมัยอยู่ ด้วยเส้นสายตัวรถที่ยังพอไล่ตามทันชาวบ้านบ้าง เรื่องความสูงความใหญ่ต้องยกให้ Vigo ครับ เพราะเจ้า NP300 Navara มันยังคงมีส่วนสูงพอๆกับตัวเดิม มันยังคงเป็นกระบะตัวเตี้ยกว่าใครๆ แต่มันก็มีหน้าตาเป็นอาวุธ ล่อใจใครหลายคนง่ายๆ


   ไฟหน้าของ Hilux Vigo Champ ยังเป็นแบบฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ธรรมดาในทุกรุ่น ในขณะที่ NP300 Navara มีไฟหน้าแบบ LED Daytime Running Light แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าของใหม่มันต้องดีกว่าและมาแรงกว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว มองมาที่เส้นสายด้านข้างของ Hilux Vigo Champ ยังออกแบบให้เทียบเท่ากับกระบะยุคปัจจุบัน ทั้งที่มันเก่าแล้ว ต้องชมวิศวกรที่ออกแบบเมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้วนี่หละครับ ส้วนเส้นสายของ NP300 Navara คลับคล้ายคลับคลาว่าออกแบบให้คล้ายกับรถหลายๆรุ่น หลายคนที่บอกว่าช่วงประตูหน้าชวนนึกถึง Vigo ประตูหลังเหมือน Ranger โป่งล้อก็คล้ายกับรุ่นเดิม แต่ยังไงก็ตามตัวรถก็สวยทันสมัยไม่แพ้ใครเลย
   เข้ามาที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่ง Toyota ยังคงมีห้องโดยสารที่ทันสมัยและยังพอรับได้อยู่ ในรุ่นท็อปนั้นมีฟังก์ชันต่างๆให้เล่นครบครัน ไม่ว่าจะเป็นจอสัมผัส ระบบนำทาง ระบบโทรออกด้วยเสียง หรืออะไรต่างๆนานา แต่ Nissan นั้น ด้วยความที่รุ่นเก่านั้น มีหน้าตาที่อาจจะดูเชยหรือสวยสู้เขาไม่ได้ และภายในก็แข็งทื่อน่าเบื่อ มาคราวนี้ Nissan พกความหรูหราพอๆกับ Teana เข้ามาในห้องโดยสาร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารดูดีกว่าเดิมเอามากๆเลย และยังมีฟังก์ชันทันสมัยให้เล่น หน้าจอสัมผัส ระบบนำทาง อะไรต่างๆมีให้ครบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มีมากกว่าใครๆก็คือ ระบบ Push Start ซึ่งเป็นครั้งแรกในกระบะไทยที่ติดตั้งระบบนี้ นอกจากนี้ยังมีแอร์ด้านหลังมาให้อีกด้วย ไม่มีกระบะค่ายไหนคันไหนที่ให้อะไรแบบนี้มาก่อน ถือเป็นการสร้างจุดขายใหม่ให้กับวงการนี้เลยละครับผม ถ้าต้องการเปรียบเทียบออปชั่นต่างๆที่ให้มาว่าใครมีมากกว่ากัน ก็เลื่อนลงไปดูตารางด้านล่างได้เลยครับ



   ด้านเครื่องยนต์นั้นทางฝั่งของ Nissan ยังคงมากับเครื่องรหัสเดิม YD25DDTi ที่มีการปรับแต่งขุมพลังให้แรงขึ้น มาพร้อมทางเลือก 2 ขุมพลัง ได้แก่ 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที และพละกำลัง 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ตัวนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะตัวท็อปชของแต่ละตัวถังครับ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนวล ครังแรกในวงการกระบะไทยระบบกัน สะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช็คอัพ เบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกและเบรกหลังเป็นดรัมเบรก

   ด้าน Toyota มีขุมพลังให้เลือกกันหลายแบบหลายขุมกันเลยทีเดียว เริ่มที่ขุมพลังดีเซล 2.5 ลิตรที่มีให้เลือก 2 ระดับ แบบอินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลัง 120 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 325 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที และแบบ VN Turbo มากับพละกำลัง 144 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ขุมพลังบล็อกต่อมาคือเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร VN Turbi มากับขุมพลัง 171 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตรที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที(เกียร์อัตโนมัติ 360 นิวตัน-เมตรที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ระบบกันสะเทือนและเบรกเหมือน Nissan ครับ


    ด้านระบบความปลอดภัยของรถ ก็เป็นที่แน่นอนนะครับว่าของใหม่ต้องให้มากกว่าอยู่แล้ว งานนี้ Nissan เลยจัดเต็มระบบความปลอดภัยครบ โดยจะเน้นไปในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ ซึ่งกระจุกอยู่แต่ในรุ่น 4WD เท่านั้น ซึ่งก็มีระบบ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (LSD) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ส่วน Toyota ไม่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่อะไรเลย (เคยมี EBD VSC TRC แต่ถูกตอนออกไปแล้ว เพราะเหตุผลเรื่องต้นทุน) แต่ก็เอาใจด้วยถุงลมคู่หน้าทุกรุ่นย่อย เพราะแม้แต่ Navara ก็ไม่ได้ให้มาครบทุกรุ่นนะครับ และยังมีระบบเบรก ABS รวมทั้งกล้องมองหลังด้วย

    มาที่ค่าตัวของ Nissan NP300 Navara ถูกตอนออกเป็น 18 รุ่นย่อยด้วยกันครับ ซึ่งมีดังนี้ครับ

ราคา NISSAN NP300 NAVARA KING CAB
รุ่น KC S 6MT ราคา 575,000 บาท
รุ่น KC E 6MT ราคา 631,000 บาท
รุ่น KC V 6MT ราคา 670,000 บาท
รุ่น KC Calibre S 6MT ราคา 681,000 บาท
รุ่น KC Calibre E 6MT ราคา 728,000 บาท
รุ่น KC Calibre EL 6MT ราคา 743,000 บาท
รุ่น KC Calibre V 7AT ราคา 807,000 บาท
รุ่น KC 4WD V 6MT ราคา 842,000 บาท

ราคา NISSAN NP300 NAVARA DOUBLE CAB
รุ่น DC S 6MT ราคา 656,000 บาท
รุ่น DC E 6MT ราคา 712,000 บาท
รุ่น DC Calibre S 6MT ราคา 757,000 บาท
รุ่น DC Calibre E 6MT ราคา 804,000 บาท
รุ่น DC Calibre EL 6MT ราคา 819,000 บาท
รุ่น DC Calibre EL 7AT ราคา 861,000 บาท
รุ่น DC Calibre V 7AT ราคา 892,000 บาท
รุ่น DC Calibre VL 6MT ราคา 921,000 บาท
รุ่น DC 4WD S 6MT ราคา 832,000 บาท
รุ่น DC 4WD VL 7AT ราคา 996,000 บาท


ส่วน Toyota Hilux Vigo Champ มีรุ่นให้เลือกเยอะกว่า ถึงจะไม่นับรุ่นตอนเดียว ซึ่ง Nissan ยังไม่เปิดตัว มันก็ยังเยอะกว่าอยู่ดี
รุ่น Single Cab
รุ่น 2.5J Single Cab NON-PS ราคา 512,000.
รุ่น 2.5J Single Cab ราคา 532,000.
รุ่น 2.5J Single Cab NVT ราคา 542,000.
รุ่น 2.7J Single Cab ราคา 532,000.
รุ่น 2.7J Single Cab CNG ราคา 627,000.

รุ่น 2.5J STD Smart Cab ราคา 592,000.



รุ่น Smart Cab
รุ่น 2.5J Smart Cab ราคา 637,000.
รุ่น 4×2 2.5E
Smart Cab ราคา 662,000.
รุ่น 4×2 2.5E TRD Sportivo
Smart Cab ราคา 702,000.
รุ่น 4×2 2.5J
Smart Cab ราคา 637,000.
รุ่น 4×2 2.5G VNT
Smart Cab ราคา 717,000.
รุ่น Prerunner 2.5E Smart Cab ราคา 687,000.
รุ่น Prerunner 2.5E
ABS Smart Cab  ราคา 727,000.
รุ่น Prerunner 2.5E
ABS Smart Cab TRD Sportivo ราคา 772,000.
รุ่น Prerunner 2.5G Smart Cab ราคา 767,000.
รุ่น Prerunner 2.5E
ABS AT Smart Cab ราคา 772,000.
รุ่น Prerunner 2.5G
Smart Cab AT ราคา 812,000.
ุรุ่น Prerunner 3.0G Smart Cab ราคา 802,000.


รุ่น Double Cab
รุ่น 4×4 2.5E Smart Cab ราคา 762,000.
รุ่น 4×4 3.0G
Smart Cab ราคา 862,000.
รุ่น 4×2 2.5J Double Cab ราคา 687,000.
รุ่น 4×2 2.5E
Double Cab ราคา 747,000.

รุ่น 4×2 2.5G Double Cab ราคา 777,000.  
รุ่น 4×2 2.7E Double Cab ราคา 737,000.  

รุ่น 4×2 3.0G AT Double Cab ราคา 867,000.
รุ่น Prerunner 2.5E Double Cab ราคา 772,000.
รุ่น Prerunner 2.5E ABS Double Cab ราคา 812,000.
รุ่น Prerunner 2.5G Double Cab ราคา 852,000.
รุ่น 2.5E AT ABS Double Cab ราคา 857,000.  
รุ่น 2.5E AT TRD Sportivo Double Cab ราคา 912,000.  
รุ่น Prerunner 2.5G AT Double Cab ราคา 892,000.
รุ่น Prerunner 3.0G Double Cab ราคา 887,000.  

รุ่น Prerunner 3.0G Double Cab AT ราคา 942,000.
รุ่น 4×4 2.5E Double Cab ราคา 842,000.
รุ่น 4×4 3.0G Double Cab ราคา 972,000.
รุ่น 4×4 3.0G AT Double Cab ราคา 1,012,000.



Function

Nissan NP300 Navara Double Cab VL 4WD
Toyota Hilux Vigo Champ
3.0 G 4WD
ระบบปรับอากาศ
แบบอัตโนมัติแยกโซนอิสระ
ซ้าย-ขวา
แบบอัตโนมัติ
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
มี
-
ระบบเครื่องเสียง
จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
จอสัมผัสขนาด  6.1 นิ้ว
ระบบนำทาง
มี
มี
ช่องเชื่อมต่อ USB AUX
มี
มี
Bluetooth
มี
มี
ระบบโทรออกด้วยเสียง
-
มี
เบาะนั่งคนขับ
ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
พร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า
ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อน
มี
มี
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
มี
มี
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
มี
-
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่
แบบ 3 มิติ
แบบดิจิตอล
ลำโพง (ตัว)
6
6
กระจกไฟฟ้า
ขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนึบ
ขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนึบ
Engine
รุ่นเครื่องยนต์
ดีเซล YD25DDTi
ดีเซล 1KD-FTV
แบบเครื่องยนต์
4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler
4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler
ความจุ (ซี.ซี.)
2488
2982
พละกำลัง (แรงม้า ที่ รอบ/นาที)
190 (3,600)
171 (3,600)
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร ที่ รอบ/นาที)
450 (2,000)
360 (1,400-3,200) A/T
343(1,400-3,400) M/T
Safety
ระบบเบรก ABS
มี
มี
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
มี
-
ระบบเสริมแรงเบรก BA
มี
-
ลิมิเต็ดสลิป ABLS
มี
-
ระบบควบคุมการทรงตัว VDC
มี
-
ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชัน HDC HAS
มี
-
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
มี
-
กุญแจรีโมท Immoblizer
มี
มี
กล้องมองหลัง
มี
มี
ถุงลมคู่หน้า SRS
มี
มี
Price
ราคา
996,000
1,012,000
 

   สรุปภาพรวมของทั้งสองคัน เริ่มที่ Nissan NP300 Navara ที่ผู้เขียนอยากจะชมว่า Nissan ทำให้เรากลับมามองกระบะของเขาอีกครั้งหนึ่ง มองจนชอบและอาจถึงกับหลงรักเลยก็ว่าได้ เพราะการที่ Nissan ออกแบบรถได้ดูดีและสวยงามมากกว่าเดิม รวมทั้งจัดสรรอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยเพียบ และสร้างจุดขายใหม่ให้กับรถหลายประการ ในราคาที่คุ้มค่าและไม่แพงเกินไป ส่วน Toyota Hilux Vigo Champ แม้จะเป็นกระบะที่เก่าแล้ว แต่ไม่รู้ด้วยคุณสมบัติอะไรของมัน ซึ่งน่าจะมีอะไรดีหลายอย่างแหละ รวมถึงโปรโมชั่นที่ออกมาพอสมควร ทำให้มันยังคงเป็นอันดับ 1 ในตลาดกลุ่มนี้โดย ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครโค่นมันได้ แต่ถ้ามาเทียบในแง่ขององค์ประกอบภายใน ก็ต้องพูดตามจริงว่าของใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่าอยู่แล้ว ซึ่ง Nissan ทำคะแนนตรงนี้ไว้เยอะ ส่วน Toyota เก่าแล้ว เลยไม่มีอะไรใหม่ อีกทั้งค่าตัวรุ่นท็อปยังแพงกว่ารุ่นท็อปของ NP300 Navara อีก ทั้งที่มีของน้อยกว่า ถ้าเทียบองค์ประกอบโดยรวม ยังไงครั้งนี้ก็ให้ Nissan NP300 Navara เป็นฝ่ายชนะครับ

Score
รูปร่างหน้าตา 5
4.5
4
ฟังก์ชัน 5
5
4
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 5
4
4
ระบบความปลอดภัย 5
5
4
ราคา 5
4.5
4
ศูนย์บริการ 5
4
5
รวม 30
27
25
 
 แนะนำ ติชม พูดคุย ติดตามข่าวสารรถใหม่ฉับไวก่อนใครกับ Cars New Update ที่นี่!!


 

Like Box