วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เผยโฉม Isuzu D-Max MY2018 ปรับดีไซน์เล็กน้อย ไร้เงาเครื่องใหม่แทนที่ 3.0 ลิตร

  ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้หลายท่านน่าจะเคยเห็นฝูงรถ Isuzu D-Max ถูกคลุมผ้าไว้ ถูกขนไปผ่านรถเทรลเลอร์ ทุกท่านคงจะสงสัยกันว่าภายใต้ผ้าคลุมนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะหรือไม่ และล่าสุดตอนนี้ทาง Isuzu ก็ได้ปล่อยภาพบางส่วนของ Isuzu D-Max รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2018 ออกมาให้เห็นกันแล้ว ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วประเทศจะมีขึ้นวันที่ 11 พ.ย. 60


   Isuzu D-Max MY2018 ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ถูกเปิดตัวขึ้นภายใต้การฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินกิจการของ Isuzu ในประเทศไทย ต่อจาก Isuzu MU-X รุ่นปรับโฉมที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา


  ใครที่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่อาจจะผิดหวัง เพราะทาง Isuzu ไม่ได้เปลี่ยนแปลงดีไซน์มากนัก แต่ก็ได้เพิ่มอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจมากขึ้น เบื้องต้นที่เห็นก็มีไฟหน้าใหม่แบบ Bi-LED พร้อมระบบ Multifunctional Daylight ปรับระดับสูง-ต่ำของไฟหน้าได้ 4 ระดับ,กระจังหน้าทรงใหม่,ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว,กรอบไฟตัดหมอกทรงใหม่,บันไดข้างดีไซน์ใหม่


  ภายในห้องโดยสารไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบ แต่มีการตกแต่งภายในให้ดูดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบุนุ่มเล็กน้อยบริเวณคอนโซลหน้าและมาตรวัด บุนุ่มบริเวณแผงประตูเยอะกว่าเดิม เบาะนั่งสีน้ำตาลใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วได้กลับมาอีกครั้ง มากับระบบ Isuzu iConnect สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายด้วยฟังก์ชั่น Air Mirroring ด้วย Wi-fi Dongle รองรับการเล่น CD/DVD/MP3/WMA/AAC พร้อมช่อง USB รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน และยังมีระบบเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีระบบ Isuzu Insight รองรับการเชื่อมต่อทั้งสมาร์ทโฟนระบบ Android และ iOS


  สำหรับขุมพลังใครที่รอคอยเครื่องใหม่ที่ว่าจะมาแทน 3.0 ลิตร หรือที่ลือกันว่าความจุอยู่ที่ 2.4 ลิตร ตอนนี้ยังไม่มา ก็ยังคงใช้ขุมพลังเดิมพละกำลังเท่าเดิม
*รุ่น 1.9 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซลรหัส RZ4E-TC 1.9 ลิตร ความจุ 1898 ซีซี. พละกำลัง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

*รุ่น 3.0 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4JJ1-TCX 3.0 ลิตร ความจุ 2999 ซีซี. พละกำลัง 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 

ส่วนข้อมูลระบบความปลอดภัยยังไม่มีข้อมูลออกมาตอนนี้

  Isuzu D-Max MY2018 จะมีให้เลือก 8 สี พร้อมแนะนำ 3 สีใหม่ ได้แก่ น้ำเงิน Polynesian Blue , แดง Etna Red และเงิน Zermatt Silver ราคาค่าตัวยังไม่มีการประกาศออกมา เพียงแต่บอกว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000-30,000 บาท

  สำหรับใครที่สนใจจะไปชมคันจริง Isuzu D-Max MY2018 ทาง Isuzu ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี Isuzu ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 วันที่ 11 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. หรือจะไปชมได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รถสปอร์ตทายาท Mazda RX จะยังไม่เปิดตัวภายในปี 2020

  ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลืออออกมาว่าภายในปีนี้ Mazda จะฉลองครบรอบ 50 ปีเครื่องยนต์ Rotary ด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ทายาท Mazda RX ในงาน Toyko Motor Show 2017 แต่ทว่าภายในงานกลับไร้เงาสปอร์ตคันดังกล่าว เรื่องนี้มีคำตอบจากผู้บริหารของ Mazda ออกมาแล้วครับ

  นาย Kiyoshi Fujiwara เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส และยังเป็นหัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาของ Mazda ให้คำตอบในการแถลงข่าวกับนักข่าวภายในงาน Toyko Motor Show 2017 ว่า "พวกเรายังไม่มีทางที่จะทำให้รถคันนี้เปิดตัวภายในปี 2020 ได้"  สาเหตุก็คือทาง Mazda ยังไม่มีเงินลงทุนมากพอที่จะสร้าง Mazda RX Vision Concept ออกมาเป็นรถจำหน่ายจริงภายในปี 2020 

   อย่างไรก็ตาม แฟนๆ Mazda ก็อย่าเพิ่งหมดหวังกันไป นาย Mitsuo Hitomi เจ้าหน้าที่บริหาร Mazda ที่ดูแลศูนย์วิจัยทางเทคนิคของบริษัทได้บอกว่า หากว่า SKYACTIV-X ประสบความสำเร็จ พวกเขาอาจจะมีเงินลงทุนมากพอในการสร้างรถคันนี้ และแน่นอนว่าการพัฒนาเครื่องยนต์ Rotary ยังคงดำเนินการต่อไปอีกทั้งจะถูกสร้างขึ้นสำหรับรถสปอร์ต อย่างไรก็ตามหากการเปิดตัวล่าช้าไปหลายปีมากขึ้น ก็ต้องมีการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา เช่น ระบบช่วยการขับขี่อัตโนมัติ หรือ ใช้ขุมพลังแบบไฟฟ้า

  ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับว่าสปอร์ต Mazda RX จะมาเมื่อไหร่ ส่วนผมขอไปจิบกาแฟรอก่อนแล้วกันครับ

ที่มา Carscoops

มาชม Polestar 1 รถสปอร์ตพลังไฟฟ้าแบรนด์ลูกในเครือ Volvo พร้อมขายปี 2019

  หลายคนน่าจะรู้จัก Polestar ในฐานะชื่อของรถเวอร์ชั่นสมรรถนะสูงของแบรนด์ Volvo เหมือน Mercedes-Benz ที่มี AMG และ BMW ที่มี M นั่นเอง และคราวนี้ทาง Volvo ตั้งใจจะแยกแบรนด์ Polestar ออกมาเสมือนเป็นแบรนด์ลูกเพื่อสร้างรถพลังงานไฟฟ้า ทั้งแบบไฟฟ้าแท้ๆและแบบไฮบริด ซึ่งทาง Polestar ก็ได้เผยรถคันแรกภายใต้แบรนด์ของพวกเราในชื่อ "Polestar 1" แล้ว

   Polestar 1 เป็นรถสปอร์ตแนว Grand Tourer 2 ประตู ในรูปแบบ 2+2 ที่นั่ง (หน้า 2 หลัง 2) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง "Electric Performance Hybrid" พละกำลังรวมทั้งระบบ 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1000 นิวตัน-เมตร 

  คาดว่า Polestar 1 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Volvo’s Scalable Platform Architecture (SPA)  เหมือนที่ใช้ใน Volvo รุ่นใหม่ๆ อย่างไรก็ตามทาง Polestar บอกว่า 50% ของรถคันนี้จะเป็นชิ้นส่วนใหม่หมดและสร้างโดยวิศวกรของพวกเขาเอง และทางบริษัทก็คาดหวังว่ารถสปอร์ตของพวกเขาจะเป็นอีกหนึ่งรถสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงอย่างแท้จริง และการที่รถใช้ชิ้นส่วนที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ไม่เพียงทำให้น้ำหนักเบาเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อการบิดตัวได้ถึง 45% ด้วย


  เพลาหลังของ Polestar 1 จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ช่วยในการขับเคลื่อน ส่วนเพลาหน้าจะขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตรแบบ Drive-E สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้านหลังจะสร้างพละกำลังได้ 218 แรงม้า เมื่อใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวจะสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 150 กิโลเมตร ถือเป็นรถไฮบริดที่ใช้พลังงงานไฟฟ้าวิ่งได้ไกลสุดในตลาด มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง 48:52 รถทำการติดตั้งเบรก Akebono , คาลิปเปอร์แบบ 6 ลูกสูบ และจานเบรกขนาด 400 มิลลิเมตร


  ดีไซน์ภายนอกถอดมาจากต้นแบบ Volvo Concept Coupe เพียงแต่ได้มีการปรับรายละเอียดการออกแบบหลายจุดให้มีความดุดันและสปอร์ตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกันชนหน้าใหม่ ฝากระโปรงหน้าและท้ายใหม่ กระจังหน้าสีดำ รวมถึงด้านท้ายที่เพิ่มความดุดัน กระจกมองข้างที่ใกล้เคียงกับรถจำหน่ายจริงมากขึ้น ส่วนภายในห้องโดยสารยกคอนโซลมาจาก Volvo S90 เลย เพียงแต่มีการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมและคาร์บอนไฟเบอร์ที่คอนโซลหน้าเพิ่มความสปอร์ต


   Polestar 1 พร้อมผลิตออกจำหน่ายในปี 2019 โดยจะทำการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ในเฉินตู ประเทศจีนซึ่งกำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2018 และจะเริ่มผลิต Polestar 1 ตั้งแต่กลางปี 2019 เป็นต้นไป

  นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในอนาคต Polestar ยังมีแผนเปิดตัว "Polestar 2" ในปี 2019 ซึ่งเป็นรถคันแรกจาก Volvo Car Group ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆในการขับเคลื่อน ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งของ Tesla Model 3 และต่อด้วย "Polestar 3" ที่จะเป็นรถ SUV ขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน

ที่มา Carscoops

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Isuzu D-Max รุ่นปรับใหม่เตรียมเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้

  ค่าย Isuzu ถือเป็นค่ายที่ค่อนข้างเงียบเรื่องข่าวรถใหม่มาก ทางค่ายแทบไม่ปล่อยข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงหลุดออกมาเลย แต่ก็พอทราบได้ว่าช่วงเวลาที่ Isuzu มักจะใช้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆของพวกเขาบ่อยๆก็คือ ต้นปีช่วงเดือนมีนาคมก่อนงาน Motor Show และช่วงปลายปี ประมาณปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนพฤศจิกายน 

  และล่าสุดในปีนี้ Isuzu เองก็วางแผนเตรียมเปิดตัว D-Max รุ่นปรับใหม่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่กำลังจะมาถึงนี้ ตามจริงด้วยรถอาจจะได้เปิดตัวในเดือนตุลาคมแล้ว แต่เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่งดกิจกรรมเพราะมีงานพระราชพิธีสำคัญจึงนำมาเปิดตัวภายในเดือนพฤศจิกายนนั่นเอง

  ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการปรับใหม่ครั้งนี้จะเป็นการ "ปรับโฉม Minor Change" หรือ "การปรับอุปกรณ์ Model Year" เฉยๆ แต่เท่าที่ทราบจากลูกเพจที่ไปเห็นรถเทรลเลอร์ที่มี Isuzu D-Max คลุมผ้าจอดไว้อยู่ แล้วเผอิญลมตีใส่รถเหล่านั้นทำให้พอเห็นได้ว่าด้านหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมส่วนไหนบ้าง เพราะอย่างที่บอกว่า Isuzu ค่อนข้างเงียบกับข่าวรถใหม่มากๆ

ฝูง Isuzu D-Max ที่ติดป้าย TC วิ่งทดสอบ คาดว่าอาจจะทดสอบเครื่องใหม่ที่จะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ไม่ปลายปีก็ปีหน้า

  และที่หลายคนตั้งตารอคอยเลยก็คือ "เครื่องยนต์ใหม่" ที่จะมาแทนที่ 3.0 ลิตรเดิม (ตามข่าวลือบอกว่าความจุ 2.4 ลิตร) ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบครับว่าจะมีโอกาสเปิดตัวภายในปลายปีนี้หรือไม่ เพราะมีหลายกระแสที่บอกว่า "ยังไม่มา" บางคนก็บอกว่า "เครื่องใหม่มาแน่" อันนี้ก็ต้องรอดู แต่ถ้าไม่มาปีนี้ คาดว่าต้นปี 2018 ก็คงจะได้เห็นกัน

  อีกเรื่องที่น่าติดตามคือจะมีการเพิ่มออปชั่นและระบบความปลอดภัยอะไรเข้ามาอีกหรือไม่ ที่หลายคนบ่นๆกันก็น่าจะเป็นเรื่องถุงลมนิรภัยที่ยังไม่ให้ 6-7 ใบเหมือนค่ายอื่นๆ ก็ต้องรอดูว่าจะมีการเพิ่มเข้ามาหรือเปล่า

  หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม จะมาแจ้งให้ทราบครับ..

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Mazda Kai Concept ต้นแบบที่อาจเป็นร่างทรงของ Mazda 3 โฉมใหม่

  ค่าย Mazda ได้ทำการเปิดตัวต้นแบบ Mazda Kai Concept รถต้นแบบทรงแฮตซ์แบ็คที่ดูแล้วน่าจะเป็นรถที่แสดงทิศทางการออกแบบของ Mazda 3 เจเนเรชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวภายในปี 2019 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจของงาน Toyko Motor Show 2017 ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้เลยก็ว่าได้

  ดีไซน์ภายนอกยังคงมากับแนวการออกแบบ Kodo Design ที่มีความดุดันมากยิ่งขึ้น ด้านหน้ามีแรงบันดาลใจมาจากต้นแบบ Mazda RX Vision Concept ที่เผยโฉมเมื่อปีที่แล้ว โดยมากับกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟหน้าทรงเรียว ในรถต้นแบบคันนี้จะมีระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นจาก Mazda 3 รุ่นปัจจุบันอยู่ที่ 50 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าใน Mazda 3 เจเนเรชั่นใหม่น่าจะมีการจัดการพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่ดีขึ้น ส่วนด้านท้ายมากับไฟท้ายทรงเรียวพร้อมไฟ LED วงแหวนภายในโคมข้างละ 2 ดวง และยังเสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่ดูเต็มซุ้มล้อ และอีกหนึ่งความพิเศษก็คือหลังคาที่ออกแบบให้มีแผ่นกระจก 2 บานระหว่างฝั่งคนขับกับผู้โดยสารซึ่งดูแปลกตาดี

  ภายในห้องโดยสารมากับเรียบง่ายและสวยงาม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นแบบ RX Vision Concept ยังคงพบกับพวงมาลัย 3 ก้านที่ดูคุ้นเคยพร้อมมาตรวัด 3 วง ชุดหน้าจอระบบ Infotainment ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับคอนโซลหน้าได้อย่างลงตัว การตกแต่งภายในใช้โทนสีดำและแดงเป็นหลัก มีการใช้วัสดุสี Piano Black และโครเมี่ยมในการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

  ขุมพลังนั้นแน่นอนว่าจะต้องใช้เครื่องยนต์เจเนเรชั่นใหม่ของ Mazda ในชื่อ "SKYACTIV-X" โดยมาในรูปแบบของเครื่องเบนซินที่จุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ (Spark Controlled Compression Ignition - SPCCI) ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องเบนซินยุคปัจจุบัน 20-30% รวมทั้งแรงบิดอาจจะเพิ่มขึ้นราวๆ 10-30% และในอนาคตเครื่องตระกูลนี้อาจมีการติดเทอร์โบเพิ่มเพื่อรองรับการขับขี่ที่สนุกสนานในรุ่นอื่นๆ

  ดูจากรูปทรงแล้วคงไม่ต้องสืบเลยว่า Mazda Kai Concept คงจะเป็นรถต้นแบบที่แสดงทิศทางการออกแบบของ Mazda 3 เจเนเรชั่นใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในปี 2019 ถึงตอนนั้นความหวือหวาทั้งหลายที่เห็นในรถต้นแบบก็อาจจะถูกลดหลั่นลงไปตามสไตล์รถจำหน่ายจริง ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ..

ที่มา Carscoops 1 / 2

ชม New Toyota Vios เวอร์ชั่นลาวกับรูปโฉมเดียวกับ Yaris ATIV เมืองไทย

  เมื่อไม่นานมานี้ที่เพื่อนบ้านเราอย่างประเทศลาว ได้ทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับ Toyota Vios ซึ่งรูปโฉมนั้นทุกคนน่าจะคุ้นตา แต่ทว่าดีไซน์นั้นไม่เหมือน Vios Minor Change ที่เปิดตัวในไทยต้นปีที่ผ่านมา เพราะดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในจะอ้างอิงจาก Toyota Yaris ATIV ที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั่นเอง


  ภายนอกไม่มีอะไรที่ต่างจาก Yaris ATIV เมืองไทยเลยแม้แต่น้อย โดยรูปลักษณ์ของ Vios ประเทศลาวจะเหมือนกับ Yaris ATIV ตัว E และ G ของเมืองไทย จะไม่มีการตกแต่งด้วยแถบสีแดงเหมือนกับ Yaris ATIV ตัว S ที่วางขายในไทย


   รุ่น E จะได้ไฟหน้าฮาโลเจนแบบธรรมดา ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ และไฟท้ายแบบ LED ส่วนรุ่น G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดจะได้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจน พร้อมไฟ Daytime Running Lights ที่กันชนหน้า รวมทั้งมีไฟตัดหมอกด้านหน้ามาให้ มือจับประตูรถแบบโครเมี่ยม ด้านท้ายมากับโคมไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ทุกรุ่นจะได้เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว


  ภายในห้องโดยสารไม่มีการออกแบบที่แตกต่างจาก Yaris ATIV เมืองไทย เพียงแต่ทุกรุ่นของ Vios โฉมลาวจะใช้โทนสีเบจและสีดำตกแต่งภายในห้องโดยสารอย่างเดียว ทุกรุ่นมากับมาตรวัดแบบ Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ธรรมดา ระบบเครื่องเสียงทุกรุ่นจะได้ชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตัว ส่วนรายละเอียดออปชั่นอื่นๆก็อาจจะแตกต่างกันแล้วแต่ละรุ่นย่อย ความพิเศษของ Vios ประเทศลาวก็คือ ในตัว G จะมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ด้วย

  Toyota Vios ประเทศลาว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 1NR-FE ความจุ 1.3 ลิตร พละกำลังสูงสุดที่ 99 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมากับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ CVT 


   ระบบความปลอดภัยของ Vios ลาวนั้นถือว่าจัดเต็มมากกว่า Vios โฉมไทย แต่เท่าๆกับ Yaris ATIV เลย โดยจะมีทั้งระบบเบรก ABS EBD BA , ระบบควบคุมการทรงตัว VSC , ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC , ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC , ถุงลมนิรภัย 7 ใบ , กล้องมองหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง (เฉพาะตัว G ส่วนตัว E ได้เซ็นเซอร์อย่างเดียว)


  Toyota Vios โฉมประเทศลาวจะมีสีตัวถังให้เลือกถึง 8 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน สีขาว สีบรอนซ์เงิน สีเทา สีดำ สีแดง สีฟ้า และสีทอง โดยมีการจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.3 E 5MT ราคา 19,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 640,000 บาท
- 1.3 G CVT ราคา 21,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 716,000 บาท

ที่มา Toyota Laos 

แอบถ่ายรถทดสอบ All-New BMW 3-Series พร้อมภาพภายในห้องโดยสาร

  BMW 3-Series โฉมปัจจุบันในรหัสตัวถัง F30 ก็ถือว่าอยู่ในตลาดมาค่อนข้างเนิ่นนานแล้ว ก็ถึงเวลาอันสมควรในการเปลี่ยนโฉมใหม่หมดจด และโฉมใหม่ของ 3-Series จะมากับรหัส G20 ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำการทดสอบมาระยะหนึ่งแล้ว และที่กำลังจะพูดถึงก็คือภาพแอบถ่ายล่าสุดของ All-New BMW 3-Series (G20) ที่มาพร้อมกับภาพภายในห้องโดยสาร

  ดีไซน์ภายนอกไม่ต้องคาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากเพราะรูปทรงก็ยังคงไม่ต่างจาก 3-Series รุ่นปัจจุบัน แต่คาดว่าใน 3-Series โฉมใหม่จะนำเอาดีไซน์ของ 5-Series โฉมล่าสุดมาปรับใช้ด้วย ภายใต้ลายพรางนี้ยังคงบ่งบอกการออกแบบด้านหน้าและด้านท้ายได้ไม่มากนักเพราะถูกพรางไว้อย่างหนาแน่น แต่ที่แน่ๆก็คือ 3-Series โฉมใหม่ จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด "CLAR" เหมือนที่ใช้ใน BMW 5-Series (G30) และ BMW 7-Series (G01) โฉมล่าสุด

  จากทดสอบจะเห็นว่ารถคันนี้เป็นรถทดสอบขุมพลัง Plug-In Hybrid สังเกตจากฝาเสียบปลั๊กไฟที่ซุ้มล้อหน้า และสติ๊กเกอร์ Hybrid ที่แปะข้างกันชนท้าย

  ที่น่าสนใจกว่าภายในก็เห็นจะเป็นภายในห้องโดยสารที่มีการเปลี่ยนแปลงยิ่งกว่าภายนอก มากับดีไซน์ที่ดูทันสมัยและน่าสัมผัสมากขึ้น ภายในจะพบกับชุดมาตรวัดแบบดิจิตอล และหัวเกียร์ทรงใหม่ที่ดูแปลกตากว่า BMW รุ่นก่อนๆ คาดว่าอาจจะเป็นหัวเกียร์เฉพาะรุ่น Plug-In Hybrid หรือไม่ก็หัวเกียร์สำหรับ 3-Series โดยเฉพาะเลย

  นอกจากนี้จะเห็นว่าปุ่ม iDrive ถูกวางใกล้ๆเกียร์ ต่างจากรุ่นปัจจุบันที่ปุ่ม iDrive จะเยื้องจากเกียร์นิดหน่อย และยังเห็นว่าตำแหน่งช่องแอร์ถูกลดระดับลงมาจากรุ่นปัจจุบันอีกด้วย

  ขุมพลังแน่นอนว่าจะยังคงมีความหลากหลายทั้งเครื่องดีเซลและเบนซิน 3 สูบและ 4 สูบ รวมทั้งขุมพลังแบบ Plug-In Hybrid 

  All-New BMW 3-Series น่าจะมีการเผยโฉมอย่างช้าช่วงปลายปี 2018 ครับ 

ที่มา Carscoops

Like Box