วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ชมรถทดสอบ All-New BMW X4 ขายรุ่นเก่ายังไม่ทันไรเปลี่ยนโฉมเสียแล้ว

  แม้ว่า BMW จะเพิ่งวางขาย X4 ครอสโอเวอร์คูเป้พื้นฐาน X3 ในเวลาแค่ 3 ปีเท่านั้น แต่ BMW ได้เตรียมเปิดตัว X4 เจเนเรชั่นใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้เลย คงจะเป็นเพราะว่าเพื่อให้ตามทันและสอดคล้องกับ X3 โฉมใหม่ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ และนี่คือภาพล่าสุดของรถทดสอบ X4 เจเนเรชั่นใหม่ล่าสุดที่กำลังวิ่งทดสอบอยู่

   แม้ว่าดูผิวเผินเส้นสายตัวรถจะไม่ได้แตกต่างจากโฉมปัจจุบันมากเท่าไหร่นัก เป็นเรื่องปกติของ BMW ที่เส้นสายของรถมักจะไม่ค่อยต่างมากเท่าไหร่เวลาเปลี่ยนโฉม แต่พอลองมองลึกๆเข้าไปแล้วขอบโครเมียมที่กระจกนั้นถูกออกแบบให้หนาขึ้น รวมถึงออกแบบให้มีความโค้งหลังคามากขึ้นและลาดเอียงกว่าเดิมแต่ดูท่าว่าบริเวณกระจกโอเปร่าท้ายจะมีการออกแบบใหม่ด้วย 

จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญคงจะเป็นด้านท้ายที่น่าจะมากับไฟท้ายทรงตัว L ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ย้ายตำแหน่งติดตั้งทะเบียนจากฝากระโปรงท้ายมาเป็นกันชนท้ายแทน รวมทั้งออกแบบฝาท้ายให้มีสปอยเลอร์ในตัวด้วย

   ทั้ง BMW X3 และ X4 โฉมใหม่จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CLAR ซึ่งน่าจะส่งผลต่อน้ำหนักที่ลดลงไปจากเดิมมากพอสมควร แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมก็ตาม อีกทั้งยังจะส่งผลต่อภายในห้องโดยสารที่กว้างขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่วางขาตอนหลังที่เพิ่มขึ้น  
  สำหรับขุมพลังก็จะใช้เครื่องยนต์ร่วมกับ X3 เจเนเรชั่นใหม่ และคาดว่าน่าจะมีรุ่นขุมพลังแรงรหัส M ในรุ่น X4 M (ที่แรงกว่า M Performance) โดยคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6 ของ M3 ที่มีพละกำลังถึง 500 แรงม้า รุ่น Plug-In Hybrid กำลังอยู่ในการพิจารณา ซึ่งอาจมาในรหัส xDrive35e

  สำหรับ BMW X4 น่าจะมีการเผยโฉมตามหลัง BMW X3 ที่จะมีการเผยโฉมประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าครับ

ที่มา Motor1

Update การเปลี่ยนแปลงคร่าวๆใน Toyota Hilux Revo MY2017

  หลายคนคงเฝ้ารอคอยว่ากระบะ Toyota Hilux Revo จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง หลังจากที่ต้องเหนื่อยกับการพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาบัลลังก์แชมป์ยอดขายกระบะ ไม่ว่าจะเป็นการอัดโปรโมชั่นที่ส่วนลดสูงสุดหลักแสนก็ตาม แต่ด้วยคู่แข่งหลายค่ายที่กระหน่ำเปิดตัวมากกว่ารวมทั้งอัดสารพัดออปชั่นมาสู้ ก็มีส่วนให้ลูกค้าหลายคนเริ่มเปิดใจไปมองหารถค่ายอื่นไม่น้อยเลย


   ซึ่งล่าสุดผมก็ได้ข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Toyota Hilux Revo MY2017 (รุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ปี 2560) จากวงในเหมือนเช่นเคย จึงนำมาอัพเดตข้อมูลให้คนที่กำลังสนใจรุ่นนี้ได้ทราบข่าวกันครับ

   ต้องบอกตามตรงว่าหลังจากที่ผมได้อ่านข้อมูลคร่าวๆแล้ว รู้สึก "ผิดหวัง" ไปพอสมควร เพราะตัวรถไม่ได้มีการเพิ่มเติมอะไรที่น่าสนใจมากเท่าไหร่นัก หากใครคาดหวังว่ารถจะมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้แปลกตากว่าเดิม ขอให้ทำใจไว้ล่วงหน้า เพราะเท่าที่ได้ข่าวมา Hilux Revo MY2017 ยังคงไม่มีการปรับปรุงดีไซน์รถ และปรับแต่งขุมพลังใดๆทั้งนั้น

การเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมก็มีดังต่อไปนี้ครับ
- สัญญาณเสียงเตือนกุญแจ ได้เพิ่มเข้ามาในรุ่น J จากเดิมที่มีแค่ในรุ่น J Plus / E / E Plus / G 

- ไฟแสดงตำแหน่งกุญแจและไฟห้องโดยสารสว่างอัตโนมัติเมื่อเปิดประตู  ได้เพิ่มเข้ามาในรุ่น J Plus จากเดิมที่มีในรุ่น E / E Plus / G


- รุ่นที่มีกระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวอย่าง J Plus , E , E Plus และ G จะมีการเปลี่ยนสีด้านในไฟเลี้ยวจากเดิม "สีขาว" เป็น "สีดำ" ส่วนรุ่นอื่นๆยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น


- การเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสาร ทุกรุ่นย่อยจะปรับแค่ในส่วนของปุ่มควบคุมต่างๆบริเวณแผงข้างประตูเท่านั้น ในส่วนปุ่มควบคุมกระจกไฟฟ้าห้องโดยสาร จากเดิม "มีสัญลักษณ์พร้อมไฟ LED" เปลี่ยนเป็น "ไม่มีสัญลักษณ์และไฟ LED" (ยกเว้นรุ่น 2.8 G Doublecab)
- ปุ่มควบคุมระบบเซ็นทรัลล็อคและปุ่มล็อคกระจก จากเดิม "แบบมีสัญลักษณ์พร้อมไฟ LED" เปลี่ยนเป็น "แบบมีสัญลักษณ์เท่านั้น" (ยกเว้นรุ่น 2.8 G Doublecab)

- สัญญาณเสียงเตือนกุญแจ ได้เพิ่มเข้ามาในรุ่น J จากเดิมที่มีแค่ในรุ่น J Plus / E / E Plus / G 

- ไฟแสดงตำแหน่งกุญแจและไฟห้องโดยสารสว่างอัตโนมัติเมื่อเปิดประตู  ได้เพิ่มเข้ามาในรุ่น J Plus จากเดิมที่มีในรุ่น E / E Plus / G เท่านั้น


ภาพประกอบของเวอร์ชั่นปากีสถาน
  สำหรับไฮไลต์สำคัญที่น่าสนใจจริงๆใน Hilux Revo รุ่นปรับอุปกรณ์ประจำปี 2560 คงจะหนีไม่พ้น การเพิ่มรุ่นไม่มีกระบะท้าย หรือ "Deckless" รองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อรถกระบะแล้วนำไปติดกระบะแบบพื้นเรียบด้านท้าย,ตู้บรรทุกสินค้า หรือ ห้องบรรทุกห้องโดยสาร โดยมาในรุ่นย่อยชื่อ "2.4 J Deckless" ซึ่งทำตลาดต่ำกว่ารุ่น 2.4 J นั่นเอง

  นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกรุ่นย่อย Double Cab 2.7E ขับเคลื่อน 2 ล้อตัวเตี้ยออกไปด้วยเช่นกัน

   ส่วนรุ่น TRD Sportivo ยังไม่มีข่าวคราวออกมาแต่อย่างใด และทั้งหมดนี้คือข้อมูล Hilux Revo MY2017 ที่ได้มา คาดว่าน่าจะมีการเปิดตัวราวๆเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมหรือได้ข้อมูลของรุ่น TRD Sportivo จะนำมาอัพเดตให้ทราบกันครับ

   

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Mitsubishi Mirage & Attrage 2017 ปรับอุปกรณ์เพิ่มเติมความคุ้มค่า

  ค่ายสามเพชร Mitsubishi กระตุ้นตลาดรถกลุ่มอีโคคาร์ด้วยการเปิดตัว Mitsubishi Mirage และ Attrage รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2017 ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมให้มีความครบครันมากยิ่งขึ้นในราคาคุ้มค่าน่าเป็นเจ้าของ


   สำหรับ Mitsubishi Mirage MY2017 มีการเพิ่มเติมไฟ LED Daytime Running Lights ที่กันชนหน้าเท่านั้น นอกนั้นภายนอกยังคงการออกแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 


  ทางด้าน Attrage นั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดบริเวณด้านท้าย โดยมีการออกแบบรายละเอียดไฟท้ายใหม่และกันชนท้ายใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยเหมือนกับเวอร์ชั่นอเมริกาที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ส่วนด้านหน้ารถและจุดอื่นๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น


  ภายในห้องโดยสารของทั้งคู่นั้นมีการเปลี่ยนชุดหน้าจอ DVD แบบสัมผัสใหม่ให้รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri นอกจากนี้ยังเพิ่มเบาะนั่งหุ้มหนังและหัวเกียร์หุ้มหนังในรุ่นท็อป อีกทั้งยังมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มปุ่มรับและวางสายโทรศัพท์ และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมาให้ 

  เครื่องยนต์นั้นยังคงใช้ เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT

  สำหรับระบบความปลอดภัยของรถนั้นยังคงจัดเต็มครบครันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบป้องกันล้อล็อคและระบบกระจายแรงเบรก ABS & EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TLC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ESS
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) เฉพาะรุ่น GLS CVT และ GLS-Ltd CVT
- ระบบตัดเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนเเรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) เฉพาะรุ่น GLS CVT และ GLS-Ltd CVT


  Mitsubishi Mirage และ Attrage 2017 มีราคาค่าตัวดังนี้
* Mirage ยกเลิกรุ่น GL MT
 - รุ่น GLX MT ราคา 457,000 บาท (บวกจากเดิม 13,000 บาท)
 - รุ่น GLX CVT ราคา 491,000 บาท (บวกจากเดิม 13,000 บาท)
 - รุ่น GLS CVT ราคา 557,000 บาท (บวกจากเดิม 13,000 บาท)
 - รุ่น GLS-Ltd CVT ราคา 596,000 บาท (บวกจากเดิม 24,000 บาท)
* Attrage
 - รุ่น GLX MT ราคา 462,000 บาท (บวกจากเดิม 11,000 บาท)
 - รุ่น GLX CVT ราคา 506,000 บาท (บวกจากเดิม 11,000 บาท)
 - รุ่น GLS CVT ราคา 561,000 บาท (บวกจากเดิม 11,000 บาท)
 - รุ่น GLS-Ltd CVT ราคา 599,000 บาท (ราคาเท่าเดิม)

แอบถ่าย All-New Hyundai Kona รถครอสโอเวอร์สุดชิคจากแดนกิมจิ

  ค่ายรถแดนกิมจิอย่าง Hyundai กำลังเตรียมการสำหรับรถครอสโอเวอร์สุดเฟี้ยวคันใหม่ของพวกเขาในชื่อ "Kona" ที่จะมีการเปิดตัวในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีภาพแอบภ่ายออกมาแล้ว คราวนี้เรามาดูภาพล่าสุดกันดีกว่าครับ

  ภาพเหล่านี้ถูกแอบถ่ายใต้ในเมืองมาดริด ประเทศสเปน ดูจากหลายๆรูปแล้วคาดว่าน่าจะเป็นการถ่ายโฆษณารถหรืออาจจะถ่ายวีดิโอโปรโมท สังเกตได้จากรถถ่ายทำที่วิ่งตามอยู่ข้างหลัง

   Hyundai วางตำแหน่งให้ Kona เป็นรถครอสโอเวอร์ระดับ B-SUV ที่มีคู่แข่งคือ Toyota C-HR , Honda HR-V , Mazda CX-3 , Ford Ecosport จะเห็นว่าตัวรถมีดีไซน์ที่ค่อนข้างล้ำและแปลกตากว่า Hyundai ยุคใหม่ๆที่เปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านมา รายละเอียดภายนอกก็จะมีไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED กระจังหน้าหกเหลี่ยมแบบ Cascading Grille และออกแบบกันชนหน้าให้มีลูกเล่นดีไซน์ค่อนข้างเยอะทำให้น่าจับตามอง เส้นสายตัวรถก็มาแนวโฉบเฉี่ยวสวยงามน่าสัมผัสไม่น้อย จนไปถึงด้านท้ายที่มีการเสริมลูกเล่นบริเวณซุ้มล้อจนไปถึงกันชนท้าย ถือว่าแปลกตาและน่ามองไม่ใช่น้อย

   สำหรับภายในห้องโดยสารนั้นการออกแบบก็จะเป็นไปตาม Hyundai ยุคใหม่ จะมีการติดตั้งชุดหน้าจอสัมผัสบริเวณเหนือช่องระบบปรับอากาศเหมือนใน Hyundai i30 รุ่นล่าสุดนั่นเอง

   Hyundai Kona จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Hyundai i20 และ i30 คาดว่าขุมพลังจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 และ 1.4 ลิตรเทอร์โบชาร์จทั้งคู่ รวมทั้งเครื่องดีเซล นอกจากนี้อาจมีทางเลือกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเสริมเข้ามาด้วย

  ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย หากเมืองไทยสนใจจะนำมาขาย ก็ต้องรอดูว่า Hyundai เมืองไทยจะใจถึงแค่ไหน

ที่มา Carscoops1 / 2 / 3

   

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Nissan อาจจะเลิกขาย Juke ในอเมริกา แล้วขาย Kicks แทน

   ข่าวความเคลื่อนไหว Nissan ในอเมริกา มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ 2 แหล่งด้วยกันให้ข้อมูลว่า Nissan เตรียมยุติการผลิตครอสโอเวอร์สุดเฟี้ยวอย่าง Juke ภายหลังหมดรุ่นปี 2017 หรือช่วงต้นรุ่นปี 2018 เพื่อเปิดทางให้ครอสโอเวอร์น้องใหม่อย่าง Kicks มาทำตลาดแทน บางคนอาจจะดีใจกับข่าวนี้เพราะไม่ชอบในความประหลาดของ Juke เมื่อเทียบกับ Kicks ที่มีรูปทรงที่สามารถเข้าถึงและเป็นที่ยอมรับกับใครหลายคนได้มากกว่า


   Nissan Kicks มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า Juke ในเกือบทุกสัดส่วน มีฐานล้อที่ยาวกว่า Juke 80 มิลลิเมตร ซึ่งจะส่งผลต่อพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลังที่ดีขึ้น ระบบขับเคลื่อนนั้นคาดว่าจะได้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นมาตรฐาน แต่ที่น่าลุ้นคือจะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาให้ ก็ต้องดูว่า Nissan เล็งเห็นความสำคัญตรงนี้หรือเปล่า

   สำหรับขุมพลังรถยังเร็วไปที่จะรู้ได้ว่าจะใช้แบบไหน ในตลาดบราซิลจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร พละกำลัง 112 แรงม้า แต่ในตลาดอเมริกานั้นอาจจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรเทอร์โบ พละกำลัง 190 แรงม้าจาก Nissan Juke


   ข่าวการมาของ Kicks ในอเมริกาไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเขา เพราะมีรถทดสอบพรางตัวออกมาวิ่งแล้ว โดยมีการแอบถ่ายได้ที่รัฐมิชิแกนของอเมริกา Nissan จะทำการผลิต Kicks ที่บราซิลและเม็กซิโก และมีแผนจะวางขาย Kicks ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ตลาดอเมริกาก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

  สิ่งที่น่าสนใจคือ Nissan Kicks นั้นจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะมาแทนที่ตำแหน่ง Juke ได้หรือไม่ หรือ Juke ยังคงอยู่ต่อและขาย Kicks ควบคู่กันไปด้วยราคาที่ถูกกว่าและมากับการออกแบบที่เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายกว่า ก็ต้องรอดูว่า Juke เจเนเรชั่นใหม่ที่น่าจะมีการเปิดตัวก่อนสิ้นปี 2018 จะมีแนวการออกแบบที่แหวกแนวแค่ไหน

   ส่วนเมืองไทยนั้น คาดว่า Nissan Kicks น่าจะมีการเปิดตัวในไทยราวๆปี 2018 ครับ และน่าจะมาแทนที่ Nissan Juke 

ที่มา Motor1.com

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

หลุดดีไซน์ของ Toyota Land Cruiser Prado Minor Change

  Toyota วางแผนเปิดตัว Land Cruiser Prado รุ่นปรับโฉม Minor Change ใหม่ในตลาดญี่ปุ่นวันที่ 12 กันยายนของปีนี้ แต่ยังไม่ทันไรนั้นก็มีภาพหลุดดีไซน์ของ Land Cruiser Prado Minor Change ออกมาให้เราได้เห็นกันแล้ว

  เจ้าของอินสตราแกรมชื่อ hamad1two3 ได้ทำการโพสต์ภาพ Toyota Land Cruiser Prado ใหม่ที่สแกนมาจากโบรชัวร์ของญี่ปุ่น ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพที่สแกนมาจากโบรชัวร์ ยกเว้นภาพภายในห้องโดยสารเป็นภาพที่มีการรั่วไหลผ่านโลกออนไลน์ออกมา

   นับเป็นครั้งที่สองของการปรับโฉมให้กับ Prado โฉมปัจจุบัน ภายนอกมากับไฟหน้าแบบ LED ที่ดูเรียวขึ้น มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Lights ภายในโคม กระจังหน้าห่กเหลี่ยมทรงใหม่ ออกแบบซี่ลวดทรงตั้งที่ดูมีรายละเอียดมากกว่าโฉมปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกรอบไฟตัดหมอกใหม่และกันชนหน้าใหม่ด้วย 

  ส่วนด้านท้ายยังมีการออกแบบรายละเอียดไฟท้ายใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น ฝาท้ายออกแบบขอบโครเมียมใต้แผ่นป้ายทะเบียนใหม่ ปรับรายละเอียดกันชนท้ายใหม่เล็กน้อย รายละเอียดภายนอกอื่นๆก็จะมีการออกแบบล้ออัลลอยลายใหม่ด้วยเช่นกัน

  ส่วนภายในห้องโดยสารจากภาพที่หลุดออกมา จะเห็นว่ามีการออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ตั้งแต่ในส่วนชุดหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนต์ ปุ่มควบคุมต่างๆบนคอนโซล และยังมีการออกแบบรายละเอียดบนหน้าปัดวัดความเร็วใหม่ด้วย

ภาพเรนเดอร์เสมือนจริงจากอินสตราแกรม hamad1two3
  ในตลาดญี่ปุ่น Toyota Land Cruiser Pradoจะมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 246 นิวตัน-เมตร ตามด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV ดีเซล พละกำลัง 177 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และแน่นอนในตลาดที่ขายดีที่สุดอย่างประเทศแถบตะวันออกกลางจะมีเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V6 ที่มากับพละกำลังสูงสุด 235 แรงม้า มาให้เลือกด้วย

   ย้ำอีกทีว่า Toyota วางแผนเปิดตัว Land Cruiser Prado รุ่นปรับโฉม Minor Change ใหม่ในตลาดญี่ปุ่นวันที่ 12 กันยายนปีนี้ครับ ส่วนเมืองไทยน่าจะมีผู้นำเข้าอิสระนำเข้ามาขายหลังจากนั้น

ที่มา IG : hamad1two3 / Indianautosblog

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ไขข้อสงสัย! ว่าด้วยเรื่องป้ายทะเบียน TC ในติดในรถทดสอบ

  ช่วงนี้หลายคนที่ติดตามข่าวสารของรถยนต์ในเมืองไทย จะทราบข่าวถึงการทดสอบรถหลายๆรุ่นในเมืองไทย ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นแทบทุกปี แต่ที่หลายคนสงสัยคือทำไมรถทดสอบดังกล่าวถึงติดป้ายทะเบียนด้วยตัวอักษรนำหน้าว่า TC แทนที่จะเป็นอักษรไทยเหมือนป้ายทะเบียนรถปกติ เรื่องราวมันเป็นมาเป็นไปอย่างไร เราจะมาชี้แจงแถลงไขให้ด้านล่างนี้ครับ


  แต่เริ่มเดิมทีนั้นปกติเราจะเห็นรถทดสอบที่หุ้มอำพรางตัวทั้งคันและติดป้ายแดงวิ่งทดสอบบนถนนเมืองไทย บางรุ่นก็ติดเป็นป้ายขาวออกมาเลย หรือรถบางรุ่นไม่มีการอำพรางตัวรถและติดป้ายทะเบียนปกติเสมือนเป็นรถทั่วไปวิ่งบนถนนจนแยกไม่ออกว่า รถคันไหนเป็นรถทดสอบที่บริษัทรถยนต์กันแน่ ดังนั้นแล้วเพื่อให้แยกรถเหล่านี้ออกจากรถของประชาชนธรรมดาทั่วไปชัดเจน จึงเป็นที่มาของป้ายทะเบียนพิเศษนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้จากกรมการขนส่งทางบกเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง


ภาพจาก Facebook : Khun Keerati
ภาพจาก Community Headlightmag
   ป้ายทะเบียนรถพิเศษนี้ก็คล้ายๆป้ายทะเบียนทั่วไป เป็นแผ่นป้ายโลหะพื้นสีขาวสะท้อนแสง ขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 34 เซนติเมตร และอัดรอยนูนเครื่องหมาย ขส ที่มุมล่างขวา บรรทัดแรกนำหน้าด้วยตัวอักษร TC ตามด้วยตัวเลขไม่เกิน 4 หลัก และบรรทัดที่สองแสดงชื่อจังหวัด กรุงเทพมหานคร ในส่วนของรถจักรยานยนต์ จะเป็นแผ่นป้ายโลหะพื้นสีขาวสะท้อนแสง ขนาดกว้าง 17.20 เซนติเมตร ยาว 22 เซนติเมตร มี 3 บรรทัด บรรทัดแรกนำหน้าด้วยตัวอักษร TC ตามด้วยตัวเลขไม่เกิน 4 หลัก และบรรทัดที่สองแสดงชื่อจังหวัด กรุงเทพมหานคร โดยป้ายทะเบียนดังกล่าวถือเป็นป้ายทะเบียนรถทดสอบก่อนการผลิตจริง

   นอกจากนี้ยังมีอีกป้ายพิเศษก็คือ ป้ายสำหรับรถทดสอบคุณภาพก่อนการผลิตจริง ซึ่งจะต่างจากรถทดสอบที่กล่าวมาย่อหน้าก่อนหน้านี้ ป้ายทะเบียนจะเหมือนกันทุกประการ แค่เปลี่ยนจากอักษร TC เป็น QC แทน

  ถือว่าเป็นการมาบอกเพื่อให้ทราบว่าทะเบียนเหล่านี้ไม่ใช่ทะเบียนปลอม และไม่ใช่ป้ายทะเบียนไทยตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เอาไว้ใช้วิ่งต่างประเทศด้วย ฉะนั้นหากเจอรถทะเบียนหมวด TC หรือ QC ก็แปลว่าเป็นรถทดสอบจากค่ายรถครับ

   หากใครที่อยากอ่านข้อมูลแบบละเอียดสามารถไปดาวน์โหลดไฟล์ของกรมการขนส่งทางบกได้ที่นี่ครับ
https://www.dlt.go.th/th/download.php?ref=M2E0LJyirTkjoz13q29ZMT1sM2I0oTycrTMjpJ1Sq2IZoT1vM2S0qTysrPMjZT01qmuZAT1kM0I0MTycrS8oSo3Q

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/092/6.PDF
  
   

BMW 8-Series Concept ต้นแบบคูเป้สุดหรูจากค่ายใบพัด

  ค่ายใบพัดฟ้าขาวได้ทำการเผยโฉมต้นแบบคูเป้ระดับเรือธง BMW 8-Series Concept และจะนำไปโชว์ภายในงาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este 2017 ที่จัดขึ้นวันที่ 26-28 พฤษภาคมที่ประเทศอิตาลี

   แน่นอนว่า BMW 8-Series Concept ถือเป็นการพรีวิวให้กับรถคูเป้ระดับเรือธงของค่ายคันใหม่ที่จะมาแทน 6-Series Coupe ในปัจจุบันนั่นเอง

   ดีไซน์ภายนอกมากับชุดกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ดีไซน์ดุดัน พร้อมไฟหน้าเลเซอร์ทรงเรียวสวยงาม อีกทั้งยังมีกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านข้างรถออกแบบให้มีช่องระบายอากาศ เส้นสายตัวรถค่อนข้างโค้งมนและไหลลื่น เสริมความน่าเกรงขามด้วยล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ส่วนด้านท้ายมีดีไซน์ไฟท้ายที่ค่อนข้างล้ำสมัย กันชนท้ายออกแบบให้มีรูระบายอากาศ และยังมีการติดตั้งท่อไอเสียคู่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแยกฝั่งมาให้ รวมทั้งครีบใต้กันชนทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์

   ภายในห้องโดยสารยังมีดีไซน์ที่ยังได้กลิ่นอายมาจาก 6-Series อยู่ การออกแบบเป็นไปตามแนวทางของ BMW ดั้งเดิม ซึ่งจะมีดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่ายและเน้นไปที่ตำแหน่งผู้ขับขี่เป็นหลัก ในรถต้นแบบมีการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังแท้แบบสปอร์ตพร้อมฝาครอบหลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากนี้ยังมีชุดพวงมาลัยที่ตกแต่งด้วยวัสดุอะลูมิเนียม แผงหน้าปัดความเร็วแบบดิจิตอล หน้าจอขนาดใหญ่พร้อมปุ่มควบคุม iDrive

   สำหรับรุ่นผลิตจริงนั้นคาดว่าน่าจะทำการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ  3.0 ลิตร V6 และเครื่องเบนซินเทอร์โบชาร์จ V8 ขนาด 4.4 ลิตร อีกทั้งเครื่องใหญ่สุด เบนซินเทอร์โบชาร์จ 6.6 ลิตร V12 จาก M760Li xDrive

   BMW 8-Series รุ่นผลิตจริงพร้อมเปิดตัวและวางขายจริงในราวๆปี 2018 ครับ ส่วนตอนนี้สาวกบีมเมอร์ก็ยลโฉมต้นแบบกันไปก่อนนะครับ

ที่มา Carscoops

   

   

Like Box