วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Nissan Terra Minor Change ความหวังครั้งใหม่กับการสู้ศึก PPV

เปิดตัวแล้วกับ Nissan Terra Minor Change ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- 2.3 E 2WD 7AT 1,199,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่ ดาวน์เกรดจาก 2.3 V 2WD AT เดิม ถูกลง 100,000 บาท)
- 2.3 VL 2WD 7AT 1,449,000 บาท (แพงขึ้น 100,000 บาท)
- 2.3 VL 4WD 7AT 1,499,000 บาท (แพงขึ้น 40,000 บาท)


สีตัวถังมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ 
- ใหม่! สีแดง Coulis Red (เฉพาะ VL 2WD และ 4WD)
ใหม่! สีทองแดง Forged Copper (เฉพาะ VL 2WD และ 4WD)
- สีดำ Black Star
- สีขาวมุก White Pearl
- สีเงิน Brilliant Silver
- สีเทา Twilight Grey


รายละเอียดสเปคและออปชั่นของแต่ละรุ่นย่อย Nissan Terra Minor Change
* ทุกรุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลรหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบคู่แปรผัน VGS อินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนวล
* ขนาดมิติตัวถัง ยาว 4,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,865 มิลลิเมตร สูง 1,865 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,805 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 225 มิลลิเมตร
* น้ำหนักรถ 2,041-2,150 กิโลกรัม
* ระบบกันสะเทือนหน้าปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบ 5 ลิงก์ คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง
* ระบบเบรกหน้าและหลัง ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน (ยกเว้นรุ่น E เบรกหลังดรัมเบรก)
* ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

2.3 E 2WD 7AT ราคา 1,199,000 บาท

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • กระจังหน้าโครเมียม
  • กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ
  • กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ
  • กระจกบังลมหน้าและกระจกประตูหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass) แบบอัดซ้อนนิรภัย (Laminated Glass)
  • ราวหลังคาสีเงิน
  • ไฟหน้า LED Projector
  • ไฟหรี่ LED
  • ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติพร้อม Follow-Me-Home
  • ไฟส่องสว่างกลางวัน Daytime Running Light
  • ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • กระจกมองข้างขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
  • มือจับประตูโครเมียมแบบ Grip Type
  • คิ้วประตูท้ายโครเมียม
  • ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบ 2 จังหวะ พร้อมระบบหน่วงเวลา
  • ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • บังโคลนหน้าและหลัง
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 255/60 R18
  • ยางอะไหล่ขนาด  255/60 R18
  • ดิสก์เบรกหน้า / ดรัมเบรกหลัง
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • โทนสีภายในสีดำ
  • ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V 3 จุด
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3
  • ช่องเก็บขวดน้ำที่แผงประตูแถว 1 , แถว 2 และด้านข้างแถว 3
  • ระบบเครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ Nissan Connect : หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ช่องต่ออุปกรณ์ USB/iPod
  • ช่องจ่ายไฟ USB Type A 1 ตำแหน่ง / Type C 1 ตำแหน่ง
  • ระบบปรับอากาศและระบบควบคุมความเร็วพัดลมเบาะตอนหลัง
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับระดับได้ แบบยูรีเทน 3 ก้าน พร้อมตกแต่งสีเงิน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งงานด้วยเสียง
  • หัวเกียร์ยูรีเทน
  • เบรกมือธรรมดา
  • มาตรวัดรอบและมาตรวัดระยะทาง
  • มาตรวัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT 7 นิ้วและ Off Road Meter
  •  รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
  • นาฬิกาดิจิตอล
  • กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนึบเฉพาะด้านผู้ขับขี่
  • เซ็นทรัลล็อค
  • เบาะนั่งแบบแยกมีช่องเก็บของด้านหลังเบาะ (หลังเบาะหลังและผู้โดยสาร) วัสดุหุ้มเบาะและแผงประตูผ้าสีดำ
  • เบาะนั่งแถวที่ 1 ฝั่งผู้ขับขี่ ปรับมือ 6 ทิศทาง / ฝั่งผู้โดยสารปรับมือ 4 ทิศทาง พร้อมหมอนรองศีรษะ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ชนิด แบบแยก 60:40 ปรับระดับได้ เลื่อนตำแหน่งหน้า-หลัง, ปรับเอนและพับได้จากตำแหน่งคนขับ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 ชนิดแบบแยก 50:50 ปรับระดับได้ ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • ไฟส่องสว่างในห้องผู้โดยสารแบบ LED
  • ไฟอ่านแผนที่
  • ช่องเก็บแว่นกันแดด
  • ระบบ Push Start
ระบบความปลอดภัย
  • ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA
  • ถุงลม 6 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / และม่านถุงลม
  • ระบบลิมิเต็ดสลิป B-LSD
  • แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 1 ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนเพื่อรัดเข็มขัดนิรภัย
  • เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 2 ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 3 ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • เข็มขัดนิรภัยปรับระดับได้เบาะนั่งแถวที่ 1 ด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
  • กุญแจรีโมทพร้อม Immobilizer และสัญญาณกันขโมย
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ
  • กล้องมองหลัง
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง 4 จุด
  • โครงสร้างนิรภัย Zone Body
  • คานกันกระแทกด้านข้าง
  • พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ เมื่อเกิดการชนด้านหน้า
  • ระบบตัดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ในกรณีรถพลิกคว่ำ
  • ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
  • ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน Intelligent Forward Collision Warning (IFCW)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (IEB)
  • ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Intelligent Driver Alertness (IDA) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)
2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท (เพิ่ม 250,000 บาทจากรุ่น 2.3 E 2WD 7AT)

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 E 2WD 7AT) 
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ
  • ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ
  • ระบบประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมเซ็นเซอร์ (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ)
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 E 2WD 7AT
  • โทนสีภายในสีดำ-แดงเบอร์กันดี / ดำ-เบจ
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
  • ระบบเครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ Nissan Connect : หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
  • ช่องจ่ายไฟ USB Type A 2 ตำแหน่ง / Type C 1 ตำแหน่ง
  • จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ช่องต่ออุปกรณ์ HDMI สำหรับจอภาพด้านหลัง
  • ชุดตกแต่งแผงข้างประตู (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ)
  • พรมปูพื้นรถยนต์ (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับระดับได้ หุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมตกแต่งสีเงิน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งงานด้วยเสียง
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า
  • วัสดุหุ้มเบาะและแผงประตู หนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ/สีเบจ 
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังปรับไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 E 2WD 7AT
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า 4 จุด ด้านหลัง 4 จุด 
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
  • ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • ระบบเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
  • ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM)
  • ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
  • ระบบกระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror (RVM)
2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท (เพิ่ม 50,000 บาทจากรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT)

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT)
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Shift-on-the-fly
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT)
  • ลำโพง 8 ตัว
  • ระบบเครื่องเสียง Bose Premium Audio System
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT)
  • ระบบล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
  • ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) พร้อม Off-Road Monitor

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เจาะข้อมูลสเปคและออปชั่นแต่ละรุ่นย่อยของ All-New Honda Civic เวอร์ชั่นไทย เปิดราคาจำหน่าย 964,900-1,199,900 บาท

ข้อมูลสเปคและออปชั่นแต่ละรุ่นย่อยของ All-New Honda Civic เจเนเรชั่นที่ 11
* ทุกรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC Turbo พละกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
* มิติตัวถังภายนอก ยาว 4,678 มิลลิเมตร กว้าง 1,802 มิลลิเมตร สูง 1,415  มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,733 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 126 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร น้ำหนักรถ 1,312-1,334 กิโลกรัม
* ระบบพวงมาลัยแบบดูอัลพิเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (DP-EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.4 เมตร
* ระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน / ระบบเบรกหลังแบบดิสก์เบรก
* ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทอิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง / ระบบกันสะเทือนหลังมัลติลิงก์อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง

สีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีแดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น RS)
- สีฟ้า Morning Mist Blue Metallic (เฉพาะรุ่น EL และ EL+)
- สีขาวมุก Platinum White Pearl (บวกเพิ่ม 10,000 บาท)
- สีเทา Meteoroid Grey Metallic
- สีดำมุก Crystal Black Pearl (บวกเพิ่ม 6,000 บาท)
- สีเงิน Lunar Silver Metallic


รุ่น EL ราคา 964,900 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
  • ไฟ LED Daytime Running Lights
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบปรับตั้งหน่วงเวลา
  • ท่อไอเสียแบบคู่
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
  • สีภายในสีเทาเบจ/ดำ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
  • เบาะผ้า
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ One Push Ignition System
  • ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ Honda Smart Key System
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้าคู่หน้าปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advance Touch ขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ช่องต่อ USB 1 ตำแหน่ง
  • ลำโพง 4 ตัว
  • โหมดการขับขี่ ECON + NORMAL
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • มาตรวัดหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT 7 นิ้ว
ระบบความปลอดภัย
  • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Drive Attention Monitor
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่งปรับระดับสูง-ต่ำได้
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor
  • ระบบป้องกันล้อล็อคและระบบกระจายแรงเบรก ABS & EBD
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA
  • ระบบล็อคประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock By Speed)
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immoblizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
  • ชุดระบบความปลอดภัย Honda Sensing
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)
    • ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
    • ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
    • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam (AHB)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow (ACC with LSF)
    • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification System (LCDN)

รุ่น EL+ ราคา 1,009,900 บาท (เพิ่มเงิน 45,000 บาทจากรุ่น EL)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มจากรุ่น EL)
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มจากรุ่น EL)
  • เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 3 ตำแหน่ง
  • ลำโพง 8 ตัว
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มจากรุ่น EL)
  • ไม่มีอะไรต่างจากรุ่น EL
รุ่น RS ราคา 1,199,900 บาท (เพิ่มเงิน 190,000 บาทจากรุ่น EL)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มจากรุ่น EL+)
  • ไฟหน้าแบบ LED
  • มือจับประตูด้านนอกสีดำ
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบปรับตั้งหน่วงเวลา พร้อมระบบปรับน้ำฝนอัตโนมัติ
  • ท่อไอเสียแบบคู่ พร้อมปลายท่อไอเสีย
  • สปอยเลอร์หลังแบบ Wing
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มจากรุ่น EL+)
  • ภายในสีดำ
  • เบาะนั่งหุ้มหนังกลับและวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ Honda Smart Key System พร้อม Honda Smart Key Card
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวา
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger
  • แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แขข TFT 10.2 นิ้ว
  • ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advance Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
  • ลำโพง 8 ตัว
  • ระบบเชื่อมต่อ Honda Connect
  • โหมดการขับขี่ ECON + NORMAL + SPORT
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มจากรุ่น EL+)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง




วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Lotus แต่งตั้ง Wearnes Automotive เป็นผู้แทนจำหน่ายใหม่ในไทย เปิดจองรถแล้ว และพร้อมเปิดโชว์รูมช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้

   เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟนๆรถสปอร์ตแบรนด์ผู้ดีอย่าง Lotus เมื่อ Lotus ประเทศไทย ได้ผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ "Wearnes Automotive Thailand" จากบ้านเดิมที่เคยอยู่ "Niche Car" พร้อมเปิดรับจอง Lotus Emira ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวที่อังกฤษหมาดๆ และเตรียมเปิดศูนย์บริการในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ 

   Lotus แบรนด์รถแข่งในตำนานของอังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย (Wearnes Automotive Thailand) ผู้จำหน่ายรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายของรถยนต์โลตัสอย่างเป็นทางการเพียงผู้เดียวในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย 166 ราย ใน 35 ประเทศทั่วโลก โดย ‘เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย’ เดินหน้าชักธงรบด้วยกลยุทธ์ Driver to Driver ชูสุดยอดแห่งนวัตกรรมรถสปอร์ตหรู สมรรถนะสูง น้ำหนักเบา ซึ่งครองใจผู้บริโภคทั่วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 73 ปี รุกขยายตลาดรถสปอร์ตในประเทศไทย

Lotus Elise Sport 220

   โดยลูกค้าชาวไทยจะได้เป็นเจ้าของ Lotus Exige Sport 350 และ Elise Sport 220 เพียง 6 คันสุดท้าย ที่จะกลายเป็นรถที่หายาก และเป็นรถสะสมของคนที่รักรถสปอร์ต และรถรุ่นใหม่อย่าง Emira ที่เพิ่งเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่ที่เมืองฮีเทล ในนอร์โฟล์ค ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นรถสปอร์ตเจเนอเรชั่นล่าสุดที่มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำของเครื่องยนต์อันทรงพลัง และการออกแบบหรูหราที่ส่งเสริมการขับที่ดีขึ้น พร้อมฟังค์ชั่นการใช้งานครบครัน เป็นแนวรถสปอร์ตที่ขับบนท้องถนนได้ทุกวัน ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้แล้วที่โชว์รูมและศูนย์บริการของรถยนต์โลตัส คาร์ส เลขที่ 99/3 ถนนรามคำแหง แขวง/เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีรามคำแหง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนไตรมาส 4 ปี 2564 นี้   

    นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการทั่วไป เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า "ตนเองและทีมเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์โลตัสอย่างเป็นทางการเพียง           รายเดียวในประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการตลาดและการบริการหลังการขายครบวงจร                       ด้วยมาตรฐานความเป็นเลิศของแบรนด์รถสปอร์ตหรู เพื่อรุกขยายตลาดรถสปอร์ตไทย ด้วยกลยุทธ์ Driver to Driver และนำเสนอสุดยอดแห่งนวัตกรรมรถสปอร์ตหรูสมรรถนะเยี่ยม น้ำหนักเบาของรถยนต์โลตัส ที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 73 ปี”

   Mr. Andre Roy ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ กล่าวว่า “รถยนต์โลตัสเป็นแบรนด์          รถสปอร์ตชื่อดังของอังกฤษที่สร้างตำนานให้วงการรถแข่งมาอย่างยาวนาน เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาส           ได้ร่วมงานกับแบรนด์ที่ผลิตรถสปอร์ตที่น่าพึงพอใจและน่าทึ่งมากมาย และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ขยายแบรนด์ให้เติบโตในประเทศไทยในฐานะตลาดที่สามสำหรับรถยนต์โลตัสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป รองจากฮ่องกงและสิงคโปร์”

   Mr. Geoff Dowding กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาดของรถยนต์โลตัส กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือของ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป มาสู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดรถยนต์ที่มีศักยภาพ สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจยานยนต์ของแบรนด์โลตัสให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ของเวิร์นส์ในตลาดกลุ่มนี้ ผนวกกับความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการด้านธุรกิจของโลตัสในฮ่องกงและสิงคโปร์ จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”

Lotus Exige Sport 350

   รถยนต์โลตัส เป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศอังกฤษ เน้นการผลิตรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงและรถแข่ง ตั้งอยู่ที่เมืองฮีเทล ในนอร์โฟล์ค ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 หรือ พ.ศ. 2491 โดย Mr. Colin Chapman ได้สร้างรถแข่งคันแรกของเขาในโรงรถ ปัจจุบันแบรนด์รถยนต์โลตัสยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความเป็นตัวตน           ที่แท้จริงของผู้ก่อตั้ง เน้นการออกแบบรถสปอร์ตขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบาและมีระบบแฮนด์ลิงที่ดี นอกจากนี้ทีม             ฟอร์มูล่าวันของรถยนต์โลตัสยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งสามารถคว้าแชมป์กรังปรีซ์ครั้งแรกในปี 1960 ที่โมนาโก และชนะการแข่งขันกรังปรีซ์กว่า 79 รายการ ในปี 1994

Lotus Emira

   ปัจจุบัน รถยนต์โลตัสผลิตทั้งรถสปอร์ตและรถสำหรับแข่งขัน ที่ยังคงมุ่งเน้นด้านนวัตกรรมทางวิศวกรรม ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย วัสดุพรีเมี่ยม และทุกคันจะสร้างแบบแฮนด์บิวท์ ซึ่งผ่านการทดสอบรอบสนามทดสอบที่มีชื่อเสียงที่โรงงานในเมืองฮีเทลเพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่สูงและโครงสร้างน้ำหนักเบาที่มีประสิทธิภาพ และตั้งเป้าที่จะผลิต          รถรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2028

โชว์รูมและศูนย์บริการอย่างครบวงจรของรถยนต์โลตัส-เรียบหรู

สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างครบวงจรของรถยนต์โลตัส ถูกออกแบบอย่างเรียบหรู ทันสมัย สะดวกสบาย สะท้อนถึงดีเอ็นเอของแบรนด์รถยนต์โลตัสได้อย่างชัดเจน ทั้งยังตอบโจทย์วิถีแห่ง New Normal พร้อมเดินทางสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง เชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีรามคำแหง โดยมีพื้นที่รวมโชว์รูมและศูนย์บริการ 400 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน สามารถรองรับรถเข้าซ่อมบำรุงได้ 150 คันต่อปี โดยทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ในการดูแลรถหรูสมรรถนะสูงมากว่า 10 ปี  และทีมช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นที่พร้อมให้บริการซ่อมบำรุงและดูแลรักษารถยนต์โลตัสทุกรุ่นด้วยอะไหล่แท้ 

โดยล่าสุด ‘เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย’ ได้เปิดจองรถสปอร์ตรุ่น Exige Sport 350 และรุ่น Elise Sport 220 เพียง 6 คันสุดท้าย และรุ่น Emira รถสปอร์ตเจเนอเรชั่นล่าสุด นวัตกรรมสุดล้ำของรถยนต์โลตัสรูปโฉมใหม่ ทันสมัย ดีไซน์หรูหรา สวยงาม ฟังค์ชั่นการใช้งานครบครัน ปรับแต่งเหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ทว่ายังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเช่นเดิมในสไตล์และรูปแบบของรถยนต์โลตัส รถเล็ก น้ำหนักเบา และวิ่งได้เร็ว ที่สำคัญคือมีความทันสมัยมากกว่าทุกรุ่น เช่น หน้าจออินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 10.5 นิ้ว อุปกรณ์ดิจิทัล ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ การเตือนการออกนอกเลน ระบบเตือนการจราจรด้านหลัง เบาะนั่งแบบสปอร์ต ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 12 ทิศทาง กุญแจแบบ keyless go เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดียิ่ง โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์สามารถส่งมอบให้ลูกค้าและพร้อมวางขายในปี 2565 

ทั้งนี้ รถสปอร์ตแบรนด์โลตัสรุ่น Exige Sport 350 และรุ่น Elise Sport 220 จะถูกจัดแสดงในโชว์รูมของเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย บนถนนรามคำแหง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2564 นี้              สำหรับผู้ที่สนใจกรุณาติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณปรีติ ศรีสวัสดิ์ เบอร์โทรศัพท์ 092-342-4446 อีเมล์ preeti.srisawas@wearnes.com

Like Box