วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

เผยโฉมแล้วกับ All-New Mazda CX-5 โฉมมาเลเซีย เมืองไทยเจอกัน 13 พฤศจิกายนนี้!

  ที่เพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซียได้ทำการพรีวิว All-New Mazda CX-5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีพิธีเปิดตัวที่โรงงาน Inokom ในเขต Kulim รัฐ Kedah ของมาเลเซียนั่นเอง ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นช่วงเดือนตุลาคม

ส่วนเมืองไทยก็อดใจรออีกไม่กี่เดือน เพราะ  All-New Mazda CX-5 จะเปิดตัวในไทยภายในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ หรืออีกแค่ 40 กว่าวันเท่านั้นเอง โดยเปิดตัวตามหลังมาเลเซียไม่นาน และแน่นอนว่าไทยยังคงนำเข้าจากมาเลเซียเหมือนเดิม แต่ก่อนอื่นนั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า All-New Mazda CX-5 ของมาเลเซียมีอะไรน่าสนใจบ้าง

   All-New Mazda CX-5 ของมาเลเซีย จะมีทางเลือกเครื่องยนต์ด้วยกัน 3 แบบ คือ
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 162 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 257 นิวตัน-เมตรที่ 3,250 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Skyactiv-D พละกำลัง 173 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
ทุกขุมพลังจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control (GVC) มาเป็นมาตรฐาน ระบบขับเคลื่อนในตัวเบนซินทุกรุ่นจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยกเว้นเครื่องดีเซล 2.2 ลิตรที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือก


ส่วนเมืองไทยแน่นอนว่ายังมีทางเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบเช่นเคย คือ เบนซิน 2.0 ลิตรและดีเซล 2.2 ลิตร และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็อยู่ในรุ่นดีเซลเหมือนเดิมเช่นเคย

  All-New Mazda CX-5 จะมีทางเลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 2.0G 2WD GL ราคา 134,605.50 ริงกิต (ประมาณ 1,062,000 บาทไทย) จะได้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมไฟ DRL,ไฟท้ายหลอดไส้,และไฟตัดหมอก,ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 225/65,เบาะนั่งด้านหน้าปรับมือ,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone พร้อมช่องปรับอากาศด้านหลังและปุ่มสตาร์ท

นอกจากนี้ก็จะมีช่องเสียบ USB ด้านหลัง,เบาะนั่งหุ้มผ้า,ธีมการตกแต่งภายในสี Gun Metallic , ปุ่มควบคุม Commander Control และระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับ MZD Connect พร้อมลำโพง 6 ตัว ชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยจะมากับถุงลมนิรภัย 6 ใบ (คู่หน้า+ด้านข้าง+ม่าน) ABS พร้อม EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) และระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control

- รุ่น 2.0G 2WD GLS ราคา 148,605.50 ริงกิต (ประมาณ 1,173,000 บาทไทย) สิ่งที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาก็คือไฟ LED ทั้งหน้าและท้าย , เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง , เบาะนั่งหุ้มหนัง , ระบบปรับลำแสงไฟหน้า Adaptive Front-Lighting System (AFS) , ตกแต่งภายในด้วยลายไม้และโลหะ , ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องและออกจากรถ Walk Away Lock และ กุญแจ Keyless Entry

ระบบความปลอดภัยก็จะมีระบบ i-ACTIVSENSE เพิ่มเติม ได้แก่ ระบบ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Monitoring (BSM), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Forward Smart City Brake Support (SCBS) และ เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 4 จุด

- รุ่น 2.5G 2WD GLS ราคา 160,996.70 ริงกิต (ประมาณ 1,271,000 บาทไทย) สิ่งที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55

- รุ่น 2.2D 2WD GLS ราคา 164,579.10 ริงกิต (ประมาณ 1,299,000 บาทไทย)  และ 2.2D AWD GLS ราคา 164,579.10 ริงกิต (ประมาณ 1,383,000 บาทไทย) ความต่างของสองรุ่นนี้คือระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อนั่นเอง แต่สิ่งที่ได้เพิ่มจากรุ่นเบนซินก็คือ ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Warning System (LDWS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist System (LKA), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) , ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA) และ ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ Adaptive LED Headlights (ALH) นอกจากนี้ตัวดีเซลยังได้จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 4.6 นิ้วมาด้วย ต่างจากรุ่นเบนซินที่เป็นสีขาวดำ

  และคราวนี้สิ่งที่หลายคนรอคอยก็คือ สีแดงใน Mazda CX-5 ซึ่งคราวนี้มันมาแล้วครับ! เป็นเหตุผลอันเนื่องมาจากทาง Mazda มาเลเซียได้เปิดโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ Inokom ในเขต Kulim รัฐ Kedah ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อรถที่จะมาขายในไทยด้วย นั่นทำให้คนไทยจะมีโอกาสใช้สีแดงใน CX-5 เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านเราเลยครับ โดยสีพรีเมี่ยมอันได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal (ที่ต่อยอดมาจาก Soul Red Metallic), Machine Gray และ Snowflake Pearl White Pearl Mica จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2,000 ริงกิต หรือประมาณ 15,600 บาทไทย

 ใครที่กำลังรอคอยตอนนี้ก็เตรียมทุบกระปุกรอได้เลยครับ...

ที่มา Paultan

วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

Land Rover วางแผนสร้าง "Road Rover" ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า เปิดตัวปลายปี 2019

  หากใครคิดว่า Range Rover Velar เป็นรถ SUV ที่มีความเข้าใกล้กับความเป็นรถออนโรด (มากกว่ารถออฟโรดตะลุยเหมือนรุ่นอื่นๆ) เท่าที่ Land Rover เคยสร้างมา จงคิดใหม่..เพราะสำนักข่าว Autocar ของอังกฤษรายงานว่า Land Rover วางแผนสร้างรถครอสโอเวอร์ระดับหรูที่จะมาในชื่อว่า "Road Rover"

  คาดการณ์ว่า Road Rover จะเปิดตัวในงาน Los Angeles Auto Show ในช่วงปลายปี 2019 โดย Road Rover รุ่นแรกจะมาในฐานะรถพลังงานไฟฟ้าระดับหรูที่จะมาต่อกรกับ Mercedes-Benz S-Class ในด้านการตกแต่งภายในที่หรูหราอลังการ และน่าจะมากับค่าตัวราวๆ 90,000 ปอนด์ (ประมาณ 4,021,000 บาท) รถจะเน้นการปรับแต่งให้มี "การขับขี่ที่น่าประทับใจบนถนน" แต่ยังรองรับการลุยแบบ Off-Road ด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับยกขึ้นสูงต่ำได้

  Road Rover จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่แบบอะลูมิเนียมที่สามารถรองรับทั้งก้อนแบตเตอรี่และเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ ซึ่ง Road Rover ก็จะถูกพัฒนาควบคู่ไปกับ Jaguar XJ เจเนเรชั่นใหม่ และน่าจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางอย่างน้อย 480 กิโดเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่เกิน 5 วินาที

  และแน่นอนว่า Road Rover จะมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างออกไปจาก Land Rover และ Range Rover อีกทั้งจะไม่ได้มีแค่รุ่นเดียวเท่านั้น เพราะในอนาคต Land Rover ยังมีแผนขยายไลน์อัพออกไปอีกหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างความมั่นคงของแบรนด์ให้เพิ่มขึ้นอีก เหมือนกับ Range Rover ที่ได้แตกไลน์อัพออกมาเป็น Sport , Evoque และ Velar

  แล้วทำไม Land Rover ต้องมาเสียเวลาสร้างแบรนด์ใหม่ Road Rover ด้วย ทั้งๆที่มี Range Rover อยู่แล้ว จริงๆแล้วมันมีเหตุผลสำคัญหลายอย่างเลยทีเดียว

  เนื่องจากว่า Range Rover เองก็เกิดมาเป็นรถ SUV ระดับหรูที่สามารถรองรับการลุยอย่างสมบุกสมบันได้แบบสบายๆ แต่ในการสร้างรถพลังงานไฟฟ้านั้น วิศวกรยังมีความท้าทายในเรื่องของขุมพลังแบตเตอรี่ที่จะต้องทำให้สามารถทนน้ำได้ และรถจะต้องมีแอโร่ไดนามิกที่ดีซึ่งรถแบรนด์ Range Rover ทำไม่ได้

  นอกจากนี้ Jaguar Land Rover ยังวางแผนที่จะบรรลุยอดขายให้ได้ 1 ล้านคัน/ปี โดยได้ทำการเปิดตัวรถครอสโอเวอร์อย่าง Jaguar F-Pace และ E-Pace ไปแล้ว ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามสำนักข่าว Autocar เชื่อว่ายอดขายรถเก๋งแบรนด์ Jaguar น่าจะยังเติบโตเพียงพอในการช่วยดันยอดขายได้ โดยในช่วงปีงบประมาณ 2016/2017 Jaguar สามารถทำยอดขายได้เพียง 94,000 คันในรุ่น XE, XF และ XJ   
  และ ที่สำคัญเลยคือในปัจจุบันนี้ลูกค้าหลายคนเริ่มหันเหไปซื้อรถครอสโอเวอร์และเอสยูวีมากขึ้น ดังนั้นแบรนด์ Road Rover จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะสร้างยอดขายให้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น และยังป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าทั่วโลกได้

   ชื่อ Road Rover ไม่ใช่ชื่อใหม่แต่อย่างใด เคยเป็นชื่อที่ใช้ในช่วง 1950s ในตอนนั้นที่มีแผนจะสร้างรถที่หรูยิ่งกว่า Land Rover แต่ก็ถูกแช่แข็งโครงการ จากนั้นชื่อนี้ก็มาอยู่ในรถอเนกประสงค์ 3 ประตูยุค 1960s และท้ายที่สุดก็ถูกต่อยอดกลายเป็นแบรนด์ Range Rover แทน

ที่มา Paultan

วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560

เปรียบเทียบสเปคและออปชั่น Toyota Yaris 1.2 G VS. Nissan Note 1.2 V [Part I]

  เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ทาง Toyota ได้ทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับ Toyota Yaris รถอีโคคาร์แฮตซ์แบ็คยอดนิยมของค่ายที่ครองแชมป์ในตลาดมายาวนาน การปรับครั้งนี้ถือว่าได้อัพเดตรูปโฉมและเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถได้มากขึ้น


  ดังนั้นผมจึงไม่รอช้านำข้อมูลของ Toyota Yaris 1.2 G ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด มาทำการเปรียบเทียบสเปคและออปชั่นกับ Nissan Note 1.2 V ตัวรองท็อป ที่เอารุ่นนี้มาเทียบเพราะเป็นรุ่นที่มีสเปคค่อนข้างใกล้เคียงกันกันที่สุด
   ส่วนตารางด้านล่างต่อไปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบสเปคและออปชั่นต่างๆ หวังว่าข้อมูลต่อไปนี้จะมีประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ ไปชมกันได้เลย


มิติภายนอก
Toyota Yaris 1.2 GNissan Note 1.2 V 
ความยาว (มม.)
4145
4105
ความกว้าง (มม.)
1730
1695
ความสูง (มม.)
1500
1535
ระยะฐานล้อ (มม.)
25502600
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มม.)135155

 อุปกรณ์มาตรฐาน

อุปกรณ์มาตรฐาน
Toyota Yaris 1.2 GNissan Note 1.2 V
ไฟหน้า

โปรเจคเตอร์ พร้อมด้วย LED Light Guiding
แบบฮาโลเจน โปรเจคเตอร์
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
พร้อมระบบ Follow-Me-Home
-
ไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำได้
-
มี
กระจังหน้า

ตกแต่งด้วยโครเมี่ยม พร้อมกระจังหน้าด้านล่างสีดำเงา 
แบบโครเมี่ยม
แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง
มี
ไฟท้ายแบบ LEDแบบ Signature Light
ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้มีมี
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยว
มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมี่ยมมี
กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน Acoustic Glassมี
-
เสาอากาศแบบครีบฉลามมี
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้าสีเงินเมทัลลิกวัสดุสีเงิน
วัสดุหุ้มแผงข้างประตูหุ้มผ้า บริเวณที่วางแขนหุ้มผ้า
วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าเปียโนแบล็คสีดำ
วัสดุหุ้มเบาะนั่งผ้าสีดำผ้าสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเบจ
วัสดุตกแต่งหัวเกียร์หุ้มหนัง 
ตกแต่งด้วยแถบเมทัลลิก
วัสดุสีเงิน
วัสดุตกแต่งฐานเกียร์สีดำเปียโนแบล็ควัสดุสีเงิน
วัสดุหุ้มพวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแถบเมทัลลิกยูรีเธน
พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPS ปรับระดับสูง-ต่ำได้ปรับระดับสูง-ต่ำได้
คอนโซลกลางพร้อมกล่องเก็บของหุ้มผ้า บริเวณฝาปิดมี 
กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนึบด้านคนขับมีมี
กระเป๋าหลัง/ช่องใส่เอกสารเบาะนั่งคู่หน้ามีมี
เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้มีมี
เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับ 60:40มีพับแบบชิ้นเดียว
กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดดคู่หน้ามีมี
มือเปิดประตูด้านในสีเงินชุบโครเมี่ยม
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารมี
มี (และมีด้านหน้าแบบแยกซ้าย-ขวาด้วย)
ไฟอ่านแผนที่มีอ
มี
ราวมือจับ4 ตำแหน่ง
3 ตำแหน่ง
กุญแจรีโมทอัจฉริยะมี
มี
Push Startมี
มี
มาตรวัดแบบเรืองแสงมีแบบ Fine Vision Meter
มาตรวัดอัจฉริยะ Multi-Information Display (MID) แสดงผลข้อมูลการขับขี่มี
มี
มาตรวัดแสดงระยะการเข้ารับบริการ-
มี
มาตรวัดแสดงอุณหภูมิภายนอกมี
มี
นาฬิกาดิจิตอลบนหน้าปัดมี
มี
ที่บังแดดด้านหน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารมี
มี
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า/ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารมี
มี
ช่องจ่ายไฟ 12Vมี
มี
ไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด Eco Meterมี
-
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมี
มี
ระบบเครื่องเสียง


วิทยุ CD/AM/FM/MP3/WMA  พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX ,  ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth รองรับโทรศัพท์ และการเล่นเพลง
วิทยุ CD MP3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอสี 5 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Aux-in และ USB 
ลำโพง (ตัว)44

   
ขุมพลัง/แซสซีส์/ระบบเบรก
ขุมพลัง/แซสซีส์/ระบบเบรก
Toyota Yaris 1.2 GNissan Note 1.2 V
แบบเครื่องยนต์

3NR-FE 1.2 ลิตร แถวเรียง DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i
เบนซิน HR12DE 1.2 ลิตร แถวเรียง DOHC 3 สูบ 12 วาล์ว 
ความจุ (ซีซี.)
1,197
1,198
พละกำลัง (แรงม้า)/รอบต่อนาที
86 / 6,000
79 / 6,000
แรงบิด (นิวตันเมตร)/รอบต่อนาที
108 / 4,000106 / 4,400
ระบบส่งกำลัง

เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lockเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT with D-Step Logic
ระบบกันสะเทือนหน้า

แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง

ทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกหน้า

ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกหลังดรัมเบรกดรัมเบรก

ระบบความปลอดภัย
   
ระบบความปลอดภัย
Toyota Yaris 1.2 GNissan Note 1.2 V
ไฟตัดหมอกคู่หน้า
มี
-
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED
มี
-
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
มี
มี
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อม EBD และ BAมีมี
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC / VDCมีมี
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC มีมี
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC / HSAมีมี
ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้ามีมี
ถุงลมด้านข้าง+ม่านด้านข้าง+เข่าคนขับมี-
จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIXมีมี
ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังจากภายในรถ? (ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ เพราะไม่มีระบุนโบรชัวร์)มี
สัญญาณกะระยะถอยหลังมี-
สัญญาณกันขโมยและกุญแจ Immoblizerมีมี
ราคา

Toyota Yaris 1.2 GNissan Note 1.2 V
ราคา (บาท)

609,000
(ราคาพิเศษ-31 ต.ค. 60)
568,000

วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

เปรียบเทียบสเปคและออปชั่น Toyota Yaris ATIV 1.2 S VS. Mazda 2 Sedan 1.3 High Plus

  ตลาดอีโคคาร์ได้กลับมาร้อนแรงอีกครั้งเมื่อการมาถึงของ Toyota Yaris ATIV อีโคคาร์ซีดานน้องใหม่จากค่ายสามห่วงที่หวังจะมากอบโกยยอดขายจากบรรดาอีโคคาร์ซีดานหลายค่าย นั่นยังรวมถึง Mazda 2 เบนซิน 1.3 ลิตร รถอีโคคาร์เฟส 2 ที่กำลังกอบโกยยอดอย่างสนุกสนาน 

  และเท่าที่ทราบจากคนของ Toyota เขาก็เคยเล่าให้ฟังว่า Yaris ATIV ก็มีเป้าหมายหลักในการมาท้าชิงกับ Mazda 2 Sedan เบนซิน 1.3 ลิตร  ดังนั้น เราจึงนำ Toyota Yaris ATIV รุ่น S ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด มาเปรียบเทียบกับ Mazda 2 1.3 High Plus เพื่อมาดูว่า 2 คันนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง 


   ดีไซน์ภายนอก Toyota จะมาแนวกลางๆ ไม่ได้หวือหวามากแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ สามารถมองได้นานๆ เข้าถึงได้ทุกวัย ส่วน Mazda จะมาแนวสปอร์ต ดูขี้เล่น และรูปโฉมที่เอาใจวัยรุ่น โดยรวมแล้วก็สวยทั้งคู่ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน


  ภายในห้องโดยสารนั้น Toyota จะมีแนวการออกแบบที่ดูเรียบๆเช่นกัน แต่ก็มีการตกแต่งหลายๆจุดให้ดูสปอร์ตขึ้น เช่น การใช้ตะเข็บโทนสีแดงรอบคัน ส่วน Mazda จะมาแนวล้ำสมัย ตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่มบนคอนโซลหน้าและรอบๆคัน ทำให้รู้สึกดูหรูหราและดูแพง

  ส่วนตารางด้านล่างต่อไปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบสเปคและออปชั่นต่างๆ หวังว่าข้อมูลต่อไปนี้จะมีประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ ไปชมกันได้เลย


มิติภายนอก
Toyota Yaris ATIV 1.2 SMazda 2 1.3 High Plus
ความยาว (มม.)
4425
4320
ความกว้าง (มม.)
1730
1695
ความสูง (มม.)
1475
1470
ระยะฐานล้อ (มม.)
25502570
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มม.)133152

 อุปกรณ์มาตรฐาน

อุปกรณ์มาตรฐาน
Toyota Yaris ATIV 1.2 SMazda 2 1.3 High Plus
ไฟหน้า

โปรเจคเตอร์รมดำวงแหวนสีแดง พร้อมไฟ LED Light Guiding
LED Projector 
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
พร้อมระบบ Follow-Me-Home
-
กระจังหน้า

ตกแต่งด้วยโครเมี่ยมรมดำ กระจังหน้าด้านล่างสีดำเงา ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
สี Gun Metallic
แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง
มี
ไฟท้ายแบบ LEDมี-
ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้มีมี
กระจกมองข้าง

สีดำเปียโนแบล็ค พร้อมแถบสีแดงและไฟเลี้ยวพร้อมไฟเลี้ยว
มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมี่ยมมี
กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน Acoustic Glassมี
มี
เสาอากาศแบบครีบฉลามแบบฝังกระจกหลัง
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้าสีเงินเมทัลลิกหนังสีน้ำตาลและวัสดุสีเงินวาว
วัสดุหุ้มแผงข้างประตูหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดงหุ้มหนังสีน้ำตาล
วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าเปียโนแบล็คเปียโนแบล็ค
วัสดุหุ้มเบาะนั่งเบาะผ้าลายสปอร์ต พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ตเบาะหนังสีดำทูโทน
วัสดุตกแต่งหัวเกียร์หุ้มหนัง 
ตกแต่งด้วยแถบเมทัลลิก
หนังสีดำ
วัสดุตกแต่งฐานเกียร์สีดำเปียโนแบล็คสีดำเปียโนแบล็ค
วัสดุหุ้มพวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแถบเมทัลลิกหุ้มหนังสีดำ / สีเงินวาว
พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPS ปรับระดับสูง-ต่ำได้ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
คอนโซลกลางพร้อมกล่องเก็บของหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดงบริเวณฝาปิดมี เป็นช่องเก็บของและที่วางขวดน้ำ
กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนึบด้านคนขับมีมี
กระเป๋าหลัง/ช่องใส่เอกสารเบาะนั่งคู่หน้ามีมี
เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้มีมี
เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับ 60:40-มี
กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดดคู่หน้ามีมี
มือเปิดประตูด้านในสีเงินสีเงินซาติน
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารมี
มี (และมีด้านหน้าแบบแยกซ้าย-ขวาด้วย)
ไฟอ่านแผนที่มี
มี
ราวมือจับ4 ตำแหน่ง
3 ตำแหน่ง
กุญแจรีโมทอัจฉริยะมี
มี
Push Startมี
มี
สวิตซ์ Drive Selection-มี
มาตรวัด

แบบเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT 4.2 นิ้ว
วัดรอบแบบอนาล็อก และมี
- หน้าจอ Active Driving Display แบบสี 
- จอแสดงผลข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง
ไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด Eco Meterมี
-
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมี
มี
ระบบเครื่องเสียง


วิทยุ AM/FM/CD/MP3/WMA พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว 
วิทยุ AM/FM พร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับโทรศัพท์และการเล่นเพลงพร้อมระบบโทรออกด้วยเสียง
มี
ระบบจดจำเสียง (Voice Recognation)-
มี
ช่องต่อ USB มี
มี 2 ช่อง 
ช่องต่อ HDMIมี
-
ช่องต่อ SD Cardมี
มี
ลำโพง6 ตัว
6 ตัว
ระบบส่องสว่างภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ มี
-
กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้ามี
มี
ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP-
มี

   
ขุมพลัง/แซสซีส์/ระบบเบรก
ขุมพลัง/แซสซีส์/ระบบเบรก
Toyota Yaris ATIV 1.2 SMazda 2 1.3 High Plus
แบบเครื่องยนต์

3NR-FE แถวเรียง DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i
เบนซิน SKYACTIV-G 1.3 ลิตร แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 
ความจุ (ซีซี.)
1,197
1,299
พละกำลัง (แรงม้า)/รอบต่อนาที
86 / 6,000
93 / 5,800
แรงบิด (นิวตันเมตร)/รอบต่อนาที
108 / 4,000123 / 4,000
ระบบส่งกำลัง

เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift LockSKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic
ระบบกันสะเทือนหน้า

แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง

ทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม
ระบบเบรกหน้า

ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกหลังดรัมเบรกดรัมเบรก

ระบบความปลอดภัย
   
ระบบความปลอดภัย
Toyota Yaris ATIV 1.2 SMazda 2 1.3 High Plus
ไฟตัดหมอกคู่หน้า
มี
แบบ LED
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED
มี
มี
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
มี
มี
กล้องมองหลัง
มีมี
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อม EBD และ BAมีมี (ป้องกันล้อล็อคแบบ 4W-ABS)
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC / DSCมีมี
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC /TCSมีมี
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC / HLAมีมี
ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้ามีมี
ถุงลมด้านข้าง+ม่านด้านข้าง+เข่าคนขับมี-
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS-มี
สัญญาณกะระยะถอยหลังมีมี 4 จุด
สัญญาณกันขโมยและกุญแจ Immoblizerมีมี
ราคา

Toyota Yaris ATIV 1.2 SMazda 2 1.3 High Plus
ราคา (บาท)

619,000
(ราคาพิเศษ-31 ต.ค. 60)
670,000

Like Box