วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Spyshot รถทดสอบคาดว่าเป็น Ford Ranger Raptor

  มีตากล้องมือดีแอบถ่ายรถกระบะจากค่าย Ford Ranger ที่กำลังวิ่งทดสอบในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา แต่ตัวรถมีทรวดทรงที่ดูแปลกตา ค่อนข้างบึกบึนและมาแนวออฟโรดไม่เหมือนรุ่นปกติ หลายฝ่ายเลยคาดว่านี่คือ Ranger ในเวอร์ชั่นที่ฮาร์ดคอร์มากขึ้น (กว่า Wildtrak) วางตัวเป็นคู่แข่ง Chevrolet Colorado ZR2 ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ โดยตอนนี้มีชื่อเรียกเล่นๆว่า "Ford Ranger Raptor"

   จากภาพของรถทดสอบคันนี้จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลายจุดจากรุ่นปกติ ภายนอกดูเหมือนจะมีตะแกรงกระจังหน้าขนาดใหญ่กว่าเดิม กันชนหน้าดูมีความเป็นออฟโรดมากขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่กว่ากันชนรุ่นปกติ ด้านข้างมีการออกแบบบังโคลนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ยกตัวถังรถให้สูงขึ้นกว่าเดิม มีล้ออัลลอยลายพิเศษและยางแบบออฟโรด ส่วนภายในยังไม่มีภาพออกมา

  ขุมพลังยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า Ford อาจจะวางเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร Ecoboost V6 จาก F-150 รุ่นปกติ ซึ่งมีพละกำลัง 325 แรงม้า พร้อมแรงบิด 542 นิวตัน-เมตร ถ้าจำหน่ายด้วยเครื่องยนต์นี้จริง รถคันนี้จะแรงกว่าคู่แข่ง Chevy Colorado ZR2 ที่มีเครื่องยนต์เบนซิน 3.6 ลิตร V6 พละกำลัง 308 แรงม้า พร้อมแรงบิด 372 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังคาดว่าจะใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

  Ford Ranger Raptor จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่คงต้องตามดูต่อไป แต่ที่แน่ๆ Ranger เวอร์ชั่นปกติของสหรัฐฯจะเปิดตัวในปี 2019 ครับ

ที่มา Motor1.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

All-New Honda Brio Amaze จะเปิดตัวที่อินเดียปี 2018

   Honda Brio Amaze รถซีดานขนาดกะทัดรัดเตรียมเปิดตัว "โฉมใหม่หมดจด : All-New" ภายใต้ Codename การพัฒนา "Honda 2UB" โดยจะทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน Auto Expo 2018 ที่จัดขึ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

   Honda Brio Amaze เจเนเรชั่นที่ 2 จะได้รับการพัฒนาโดยแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Honda ในประเทศไทย โดยนำข้อมูลพื้นฐานตัวรถจากฝ่ายวิศวกรและ R&D ของอินเดียมาต่อยอดพัฒนารถนั่นเอง Amaze โฉมใหม่จะเริ่มผลิตที่โรงงาน Tapukara ของ Honda ในรัฐราชสถานของอินเดียในเดือนมิถุนายน 2018 และโรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์ทั่วโลก

   รายละเอียดของ Amaze โฉมใหม่ยังไม่มีออกมามากนัก อย่างไรก็ตาม Amaze โฉมใหม่จะยังคงเดินตามรอยรุ่นปัจจุบันคือ มีความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตรเหมือนเดิม แต่จะมีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นมากขึ้นโดยหยิบยืมการออกแบบจากรุ่นพี่ในค่ายมาใช้ และ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบรถเลย ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปีนี้อาจจะได้เห็นรถทดสอบวิ่งพรางตัวในไทยหรืออินเดียก็เป็นได้

  ฟีเจอร์ใหม่ๆที่คาดว่าจะเพิ่มเข้ามา ก็น่าจะมีกระจกมองข้างปรับพับด้วยระบบไฟฟ้า , ไฟ LED Daytime Running Lights และไฟท้ายแบบ LED ส่วนภายในก็อาจจะมีระบบปรับอากาศตอนหลัง รวมทั้งระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส

  สำหรับขุมพลังนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร i-DTEC 4 สูบ ที่น่าจะปรับปรุงให้รีดสมรรถนะได้มากกว่า 100 แรงม้าเทียบกับรุ่นปัจจุบัน และเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร i-VTEC ที่น่าจะยังคงไว้เหมือนเดิม ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ส่วนเกียร์อัตโนมัตินั้นทาง Honda กำลังศึกษาระบบเกียร์ AMT ของ Maruti Suzuki Swift Dzire เพื่อนำมาเป็นตัวอย่างในการปรับปรุงระบบเกียร์ และกำลังตัดสินใจว่าจะใส่ระบบเกียร์อัตโนมัติลงในเครื่องดีเซล จากรุ่นปัจจุบันที่มีเกียร์อัตโนมัติ CVT (ที่พัฒนาภายใต้ EarthDream Technology) เฉพาะเครื่องเบนซินเท่านั้น

   Honda Brio Amaze เจเนเรชั่นใหม่จะเปิดตัวก่อน Brio Hatchback และสำหรับเมืองไทยนั้น Brio Hatchback และ Brio Amaze นั้นจะมีโอกาสได้ไปต่อหรือไม่ก็มิอาจทราบได้เพราะยอดขายก็ค่อนข้างน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่า Honda เมืองไทยจะเอาอย่างไรต่อไป คงต้องติดตามดูครับ

ที่มา Car and Bike

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

All-New BMW X3 โฉมใหม่ที่มาครบทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยี

  ค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW ได้ทำการเปิดตัว All-New BMW X3 รถอเนกประสงค์สุดหรูเจเนเรชั่นที่ 3 ที่ยกระดับความสะดวกสบาย อัพเกรดสมรรถนะ รวมทั้งเพิ่มเติมทั้งประสิทธิภาพและระบบความปลอดภัยที่ครบครันมากขึ้น

   ดีไซน์ภายนอกถือว่าพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนมากพอสมควร ถือว่าเป็นรถ SUV ตระกูล X รุ่นแรกที่มาใช้กระจังหน้าไตคู่แบบ 3 มิติ กรอบไฟตัดหมอกใหม่ทรงหกเหลี่ยมและมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โคมไฟหน้า LED ทรงใหม่ไม่ได้ออกแบบเชื่อมติดกับกระจังหน้าแบบรุ่นก่อนแต่ดูมีความเพรียวมากขึ้น เส้นสายด้านข้างยังคงกลิ่นอาย X3 รุ่นก่อนๆไว้ครบถ้วนแต่ดูทะมัดทะแมงและมีมัดกล้ามมากขึ้น ส่วนด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ทรงสวยแบบ 3 มิติ และท่อไอเสียคู่ด้านท้าย

  ภายในห้องโดยสารถือว่ายกระดับความหรูหราและความทันสมัยจากรุ่นก่อนได้มากทีเดียว คอนโซลกลางมาในทรงหกเหลี่ยมเหมือน BMW รุ่นใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาก็จะมี ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน เบาะนั่งคู่หน้าปรับลมอุ่นหรือเย็นได้ หลังคาแบบพาโนรามิก X3 โฉมใหม่ยังมากับสัดส่วนการพับเบาะ 40:20:40 นอกเหนือจากนี้ BMW ยังมีหน้าปัดแบบดิจิตอลเหมือน BMW รุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังมีแสงไฟในห้องโดยสารให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน

   BMW ยังภูมิใจนำเสนอ Head-Up Display ใหม่ที่แสดงผลใหญ่ขึ้น 75% และยังเคลมว่าสามารถแสดงข้อมูลที่ครบถ้วน มีกราฟฟิคที่สวยงาม และความละเอียดคมชัดที่สุดในกลุ่มคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีออปชั่น Remote 3D View ซึ่งสามารถมองรอบคันรถได้ 360 องศาผ่านทางแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
   
  ขุมพลังเบื้องต้นมีให้เลือกหลายแบบทั้งดีเซลและเบนซิน ทุกรุ่นจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด 
- รุ่น xDrive20d มากับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ พละกำลัง 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8 วินาที ค่าการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 142-132 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 18.52-20 กม./ลิตร 
- รุ่น xDrive30d มากับเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ พละกำลัง 265 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที ค่าการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 158-149 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.67-17.54 กม./ลิตร 
- รุ่น xDrive30i มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ พละกำลัง 248 แรงม้า มากกว่ารุ่น xDrive28i  อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลา 6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
- รุ่น M40i รุ่นเรือธงของ X3 ในรูปแบบ M Performance มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ พละกำลัง 360 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.

  ระบบความปลอดภัย ทาง BMW ได้ทำการติดตั้งระบบ Active Protection เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะตรวจจับสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ หากมีการตรวจพบความเสี่ยงจากการปะทะกัน ระบบจะทำงานและป้องกันผู้ขับขี่ในหลากหลายวิธี เช่น  เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าจะรั้งกลับอัตโนมัติ และระบบจะปิดกระจกหน้าต่างด้านข้างและหลังคาพาโนรามิก 

  ระบบอื่นๆก็จะมี Active Cruise Control พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ระบบเตือนมุมอับสายตา Active Blind Spot Protection , ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Warning , ระบบป้องกันคนเดินเท้าในเวลากลางวัน Daytime Pedestrian Protection , ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง Frontal Collision Warning with City Collision Mitigation , ระบบเตือนจุดบอดด้านหลัง Cross Traffic Alert rear , ระบบจำกัดความเร็ว Speed Limit Info (ทำงานร่วมกับระบบนำทาง) ทาง BMW ยังมีแพ็คเกจ Driving Assistant Plus ให้เลือกเป็นออปชั่นซึ่งจะเพิ่มระบบรักษารถให้อยู่ในเลน Active Lane Keeping Assistant ทำงานร่วมกับระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านข้าง Side Collision Avoidance, ระบบช่วยขับขี่ในสภาพจราจรแออัด Traffic Jam Assistant, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ Evasion Aid และ ระบบเตือนจุดบอด Cross Traffic Alert ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

   BMW จะทำการเปิดตัว X3 เจเนเรชั่นใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน Frankfurt Motor Show 2017 เดือนกันยายนนี้ และจะวางขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่วนเมืองไทยจะเปิดตัวตามมาเมื่อไหร่ต้องติดตาม

ที่มา Carscoops

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Isuzu D-Max MY2017 เตรียมปรับเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ ที่เพิ่ม ABS ในรุ่นล่าง

   ค่าย Isuzu เตรียมเพิ่มทางเลือกให้กับกระบะ D-Max ในรุ่นปี 2017 หลังจากที่หลายคนน่าจะเคยบ่นๆกันว่า D-Max ไม่ใส่ ABS มาให้ในรุ่นล่างๆ ดังนั้นในรุ่นปี 2017 ทาง Isuzu จึงเตรียมเพิ่มรุ่นที่มี ABS มาให้ในเกรดล่างๆ

   ข้อมูลนี้ผมได้มาจากสมาชิกในเพจ ซึ่งนำข้อมูลมาให้ เป็นเอกสารที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ ดังนั้นผมจึงเรียบเรียงข้อมูลมา และเผยแพร่เท่าที่จะทำได้
   สำหรับรุ่นย่อยที่จะเพิ่มเข้ามา ซึ่งเพิ่มระบบ ABS มาให้ก็จะมีดังนี้
ตัวถังตอนเดียว Spark
รุ่น 1.9 Ddi B ราคา 539,000 บาท (+จากรุ่นไม่มี ABS 9,000 บาท)
รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 564,000 บาท (+จากรุ่นไม่มี ABS 9,000 บาท)

ตัวถังตอนครึ่ง Spacecab
รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 602,000 บาท (+จากรุ่นไม่มี ABS 10,000 บาท)
รุ่น 1.9 Ddi L ราคา 665,000 บาท (+จากรุ่นไม่มี ABS 10,000 บาท)
ตัวถังสี่ประตู Cab 4
รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 683,000 บาท (+จากรุ่นไม่มี ABS 10,000 บาท)
หมายเหตุ : สำหรับเกรด B และ S ไม่มีสีน้ำเงินบอลติกจำหน่าย
สำหรับรถเกรด L ไม่มีสีดำและออสเตรเลียนโคลจำหน่าย

  การปรับปรุงจะมีในเกรด B , S , L ตามรุ่นย่อยที่กล่าวมาเท่านั้น เกรด Z และ Z-Prestige หรือรุ่น Hi-Lander หรือ V-Cross ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอะไรทั้งสิ้น

  Isuzu D-Max ที่เพิ่มรุ่นย่อยใหม่จะวางขายเมื่อไหร่นั้นยังไม่ทราบ ต้องรอดูต่อไป


  

แอบถ่ายว่าที่กระบะ Ssangyong โฉมใหม่ (Codename : Ssangyong Q200)

   หลายคนอาจจะรู้จักกระบะ Ssangyong ในชื่อ "Actyon Sports" ที่นำมาโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ต้นปีที่ผ่านมา กับราคาค่าตัว 1.68 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามอายุตัวถังของรถก็ค่อนข้างมากแล้วจึงสมควรต่อการเปลี่ยนโฉมใหม่ และตอนนี้โฉมใหม่ภายใต้ Codename ว่า Ssangyong Q200 ก็กำลังวิ่งทดสอบอยู่


 พูดง่ายๆคือ Ssangyong Q200 ก็คือโฉมใหม่ของ Ssangyong Actyon Sports หรืออีกชื่อ Korando Sports นั่นเอง โดยรูปโฉมภายนอกนั้นจะมีใบหน้าอ้างอิงจากรถ SUV หรู Ssangyong Rexton แต่ก็ได้ลดทอนความหรูลงไปพอสมควร สังเกตจากไฟหน้ารถทดสอบจะเป็นแบบ HID และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเมื่อเทียบกับ Rexton ที่ใช้ 20 นิ้ว 

  ประตูหลังของ Q200 มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และด้วยเส้นสายตัวรถที่ไม่ลาดเอียงแบบรุ่นเดิมแล้ว ส่งผลให้พื้นที่กรอบกระจกบานท้ายมากขึ้นกว่าเดิม และดูเผินๆว่ากระบะท้ายจะมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนภายในยังไม่มีภาพออกมา แต่ดีไซน์น่าจะเหมือน Rexton

  สื่อเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าเครื่องยนต์รถคันนี้จะมากับเครื่องดีเซลรหัส e-XDi220 ความจุ 2.2 ลิตร มากับพละกำลัง 187 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ส่วนเครื่องยนต์เบนซินน่าจะมากับเครื่องรหัส e-XGDi200T ความจุ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ

   การเปิดตัวอย่างเป็นทางการน่าจะมีขึ้นอย่างช้าในปี 2018 ส่วนเมืองไทยนั้นก็ยากที่จะรู้ว่าจะมาขายหรือไม่

ที่มา autotribune / Instagram

  
   

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

2018 Lexus CT200h Minor Change ปรับโฉมพร้อมเพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่

  แม้ว่า Lexus CT200h จะมีอายุอานามที่สมควรต่อการเปลี่ยนโฉมแล้ว และเคยปรับโฉม Minor Change ไปแล้วเมื่อปี 2014 รวมทั้งมีการถึงการยุติการพัฒนารถรุ่นนี้แล้วแทนที่ด้วยครอสโอเวอร์ แต่ล่าสุดทาง Lexus ได้ทำการปรับโฉมอีกรอบให้กับ CT200h เพื่อยืดอายุตลาดออกไปอีกสักระยะ

   ภายนอกของรถมีการออกแบบลายตะแกรงกระจังหน้าใหม่ และยังคงดีไซน์กระจังหน้า Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์ไว้เช่นเคย ไฟหน้าออกแบบรายละเอียดใหม่พร้อมไฟ LED Daytime Running Lights ภายในโคมทรง L-Shape ที่ออกแบบให้อยู่เหนือหลอดโปรเจคเตอร์ ในส่วนกันชนหน้ายังมีการออกแบบกรอบไฟตัดหมอกใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายมีการดีไซน์โคมไฟท้ายให้ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยขึ้น รวมถึงกันชนท้ายที่ดูสปอร์ตกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยลายใหม่เพิ่มเข้ามา มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 15-17 นิ้ว สำหรับรุ่น F-Sport จะมีสีตัวถังเพิ่มเข้ามา 2 สี ได้แก่ สีส้ม Lava Orange CS  และสีน้ำเงิน Heat Blue CL 

   ภายในห้องโดยสารยังคงดีไซน์เดิมที่คุ้นเคย ตกแต่งด้วยโทนสีที่ให้ความสวยงามและหรูหรารวมทั้งวัสดุคุณภาพสูง แต่ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือหน้าจอตรงกลางขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10.3 นิ้วจากเดิม 7 นิ้ว 

   Lexus CT200h 2018 ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส 2ZR-FXE ความจุ 1.8 ลิตร Atkinson cycle 4 สูบ ผสานการทำงานกับระบมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ รวมพละกำลังทั้งระบบ 134 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ eCVT 

   ส่วนระบบความปลอดภัยจะมีการติดตั้ง Lexus Safety System + ซึ่งก็จะมีระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชน Pre-Collision System (PCS), ระบบ  Dynamic Radar Cruise Control , ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA) พร้อมฟังก์ชั่นการควบคุมที่พวงมาลัย , ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) และระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) 

  Lexus CT200h 2018 จะจำหน่ายในญี่ปุ่น จีน ภูมิภาคยุโรป และอื่นๆ ยกเว้นสหรัฐอเมริกาที่จะเลิกจำหน่ายรุ่นนี้

ที่มา Paultan

วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หลุดอีกรอบแบบชัดขึ้นกับ 2018 Toyota Land Cruiser Prado Minor Change

  ก่อนหน้านี้เคยมีภาพหลุดใบหน้าของ Toyota Land Cruiser Prado Minor Change ตามอ่านข้อมูลได้ที่ หลุดดีไซน์ของ Toyota Land Cruiser Prado Minor Change แต่ล่าสุดคราวนี้มีภาพหลุดออกมาให้เห็นแบบเต็มคันทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารเลย

  ภาพหลุดทั้งหลายยังคงมาจากอินสตาแกรมชื่อ hamad1two3 ที่ได้ปล่อยภาพดีไซน์ภายนอกและภายในห้องโดยสารของ Toyota Land Cruiser Prado รุ่นใหม่ให้หลายๆคนได้เห็นกัน 

  Toyota Land Cruiser Prado Minor Change ถือเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 2 นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 และมีการปรับโฉมครั้งแรกในปี 2013 สำหรับภายนอกในรุ่นปี 2018 ถือว่ามีการปรับใบหน้าครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ มากับชุดไฟหน้าที่ดูเรียวขึ้นกว่าเดิม กระจังหน้าซี่ตรง 5 แถวที่ดูมีรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม และยังออกแบบกันชนหน้ารวมทั้งกรอบไฟตัดหมอกทรงใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายจะมีการปรับรายละเอียดกันชนท้ายและไฟท้ายใหม่

   ภายในห้องโดยสารถือว่ามีการปรับเปลี่ยนที่เยอะพอสมควร พวงมาลัย 4 ก้านทรงใหม่เหมือน Toyota Crown ออกแบบรายละเอียดมาตรวัดใหม่ คอนโซลกลางมีการออกแบบช่องแอร์ใหม่ ชุดหน้าจอสัมผัสใหม่ ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศและปุ่มระบบขับเคลื่อนใหม่แทบทั้งหมด ซึ่งเพิ่มความทันสมัยและหรูหรามากขึ้น

   เครื่องยนต์นั้นยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับรุ่นปัจจุบันจะมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2TR-FE ขนาด 2.7 ลิตร และเบนซินรหัส 1GR-FE  V6 ขนาด 4.0 ลิตร ส่วนเครื่องดีเซลก็จะใช้เครื่องรหัส 1GD-FTV ความจุ 2.8 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 5L-E ความจุ 3.0 ลิตร

   ระบบความปลอดภัยก็จะมีการติดตั้งชุดระบบ Toyota Safety Sense P ซึ่งก็จะมีระบบเตือนก่อนการชนพร้อมตรวจจับคนเดินถนน (Pre-Collision System with Pedestrian Detection function), ระบบเตือนไม่ให้ออกนอกเลนพร้อมช่วยปรับพวงมาลับ (Lane Departure Alert with Steering Assist function), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) และ Dynamic Radar Cruise Control

   Toyota Land Cruiser Prado Minor Change จะเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่นวันที่ 12 กันยายนนี้ ส่วนเมืองไทยน่าจะมีการนำเข้ามาขายโดยผู้นำเข้าอิสระหลังจากนั้นครับ

ที่มา Indianautosblog / Instagram
   

Peugeot Pick Up กระบะจากแดนน้ำหอมขายแค่แอฟริกาเท่านั้น

  หลังจากการตายของกระบะ Peugeot Hoggar ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถเก๋ง 207 และหลังการเปิดตัว 208 ไปแล้วนั้น Peugeot ก็ไม่มีกระบะขายอีกต่อไป จนกระทั่งตอนนี้ค่ายรถแดนน้ำหอมรายนี้ก็ได้เปิดตัวกระบะใหม่ "Pick Up"

  พิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ รถคันนี้มีชื่อรุ่นว่า Pick Up ตามรูปลักษณ์เลย สำหรับ Peugeot Pick Up คันนี้จะมุ่งเน้นการขายไปที่ตลาดแอฟริกาเท่านั้น ที่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของกระบะ Peugeot 403 , 404 และ 504 ด้วยรูปลักษณ์ที่อาจจะดูตกยุคอันเนื่องมาจากรถคันนี้เป็นการนำกระบะจากจีน Dongfeng Nissan Rich (ที่ใช้โครงสร้าง Nissan Big-M) มาเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ ปรับแต่งโคมไฟหน้านิดหน่อย และปรับจุดอื่นๆเล็กน้อยเท่านั้น

  Peugeot Pick Up จะมีขนาดความยาวตัวถัง 5.08 เมตร ความสูงจากพื้นตัวถังจนถึงพื้นถนนอยู่ระหว่าง 210-215 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่น ส่วนกระบะท้ายมีความยาว 1.4 เมตร กว้าง 1.39 เมตร มีตะขอยึดมาให้ สามารถน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 815 กิโลกรัม 

   ขุมพลังนั้นมากับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลขนาด 2.5 ลิตรที่มีกำลังพละกำลัง 115 แรงม้าและแรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเอารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับระบบขับสี่จะมีโหมด 4 Low และ 4 High มาให้ด้วย

Dongfeng Nissan Rich

   Peugeot ไม่ได้ปล่อยภาพภายในห้องโดยสารออกมา แต่ทางค่ายบอกว่าจะมีความกว้างขวางสบายและรองรับผู้โดยสารได้อย่างดี อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดมากับรถจะมีระบบปรับอากาศแบบมือหมุน กระจกไฟฟ้า วิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดีและพอร์ต USB กระจกไฟฟ้าแบบปรับได้ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ใบ และระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก และเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง

   Peugeot Pick Up ใหม่จะวางจำหน่ายทั่วทวีปแอฟริกาในเดือนกันยายนนี้ในรูปแบบตัวถังดับเบิ้ลแค็บ

ที่มา Carscoops

วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Toyota Aqua (Prius C) Minor Change ปรับโฉมอีกรอบกับไฮบริดตัวเล็ก

  Toyota Aqua หรือที่เรารู้จักในชื่อ Prius C ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมานำเข้ามาขายในไทยเล่นๆคันละ 1,399,000 บาทและก็เลิกขายไปนานแล้ว ล่าสุด Toyota ได้ทำการอัพเดตหน้าตาอีกรอบหลังจากที่ปรับโฉมก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2014

  งานออกแบบภายนอกมีการปรับเปลี่ยนโคมไฟหน้าทรงใหม่ที่ดูสวยทันสมัยมากขึ้น ออกแบบกระจังหน้าใหม่และกรอบไฟตัดหมอกใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ส่วนด้านท้ายมีการออกแบบกันชนท้ายใหม่ที่ดูดีกว่าเดิม ปรับรายละเอียดไฟท้ายให้ทันสมัยมากขึ้น

   ทีเด็ดสำคัญน่าจะเป็นการเปิดตัว Line-Up ใหม่ในเวอร์ชั่นครอสโอเวอร์ที่มีการออกแบบด้านหน้าใหม่สไตล์สปอร์ตดุดัน เสริมด้วยขอบซุ้มล้อพลาสติกสีดำรอบคัน มีราวหลังคามาให้ และยังมีล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 16 นิ้ว 

   ภายในยังคงดีไซน์เดิมๆ แต่มีการอัพเดตจอ TFT ตรงกลางใหม่ให้แสดงผลข้อมูลได้หลากหลายมากขึ้น ลูกค้าจะได้สัมผัสชุดเบาะนั่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ รวมทั้งมีตัวเลือกเบาะหนังเทียวมาสีขาวมาให้

   เครื่องยนต์ยังคงใช้ขุมพลังไฮบริดที่มากับเครื่องเบนซินขนาด 1.5 ลิตรผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังทั้งระบบ 100 แรงม้า PS  มีการปรับแต่งเครื่องยนต์จนทำให้รุ่นนี้มีอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 38.0 กม./ลิตร รุ่น Crossover จะประหยัดน้อยกว่านิดหน่อยที่ 34.4 กม./ลิตร

  Toyota Aqua วางจำหน่ายแล้วในญี่ปุ่นในราคาเริ่มต้นที่ 1,785,240 เยน (หรือประมาณ 546,000 บาทไทย) ส่วนรุ่น Crossover จะตามมาในเดือนกรกฎาคมในราคา 2,062,800 เยน (ประมาณ 630,000 บาท)

ที่มา Carscoops

Like Box