สิ้นสุดการรอคอย หยุดทุกการคาดเดา เมื่อทาง Toyota Motor Thailand ได้ทำการเปิดตัวรถ SUV รุ่นใหม่ "All-New Toyota Corolla Cross" เป็นครั้งแรกในโลก นับว่าคันนี้ถือว่าเป็นการเติมเต็มจุดบอดในส่วนที่ C-HR นั้นไม่สามารถให้ได้นั่นเอง
แม้ว่า Toyota จะบอกว่าคันนี้เป็น C-Segment SUV แต่ตำแหน่งทางการตลาดนั้นก็ยังคงเป็นคู่แข่งกับ Honda HR-V, Mazda CX-30, Nissan Kicks, Subaru XV แต่ทาง Toyota ก็ได้ชูจุดเด่นถึงขนาดตัวรถที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ด้วยขนาดมิติตัวถังที่ยาว 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,825 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,640 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 161 มิลลิเมตร (เทียบกับ C-HR ตัวรถจะยาวกว่า 100 มิลลิเมตร กว้างกว่า 30 มิลลิเมตร สูงกว่า 55 มิลลิเมตร มีความยาวฐานล้อเท่ากัน และมีระยะต่ำสุดจากพื้นสูงกว่า 7 มิลลิเมตร)
ดีไซน์ภายนอกเสมือนการนำ Toyota C-HR เข้าไปผสมกับ Toyota RAV4 และนำเอา DNA จาก Toyota หลายรุ่นมาใส่จนกลายมาเป็นรถ SUV คันนี้ ล้อมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17-18 นิ้วแล้วแต่รุ่นย่อย ความน่าสนใจคือ รุ่น Hybrid ตัวรองและท็อปจะได้ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ และเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Activated พิเศษในตัวท็อปจะมีหลังคามูนรูฟและราวหลังคามาให้ด้วย
เข้ามาภายในห้องโดยสาร จะพบกับคอนโซลจาก Toyota Corolla Altis เกือบทั้งดุ้น ต่างแค่ฐานคอนโซลกลาง หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งการตกแต่งภายในใหม่ เข้ามาจะพบกับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ T-Connect ที่ประกอบไปด้วย
- Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพ
- TheftTrack ติดตามรถหายเมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานงาน ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.
- Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนผ่านเขตพื้นที่ที่เจ้าของรถกำหนดไว้
- SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางกรณี)
- Maintenance Reminder แจ้งเตือนเข้าศูนย์บริการพร้อมประสานงานนัดหมาย
- Vehicle Information แสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่ สรุปทริปการเดินทาง พร้อมแชร์ลงโซเชียลได้ อีกทั้งมีบริการแจ้งเตือนการต่อทะเบียนรถประจำปีด้วย
- Insurance (PHYD) ประกันภัยรถ "ขับดี ลดให้" สิทธิพิเศษด้วยเบี้ยประกัน จ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่และช่วยแจ้งเตือนต่อประกันภัยล่วงหน้าอัตโนมัติ (สำหรับการทำประกันภัยบริษัทฯ ตามที่กำหนดเท่านั้น)
- Concierge Service บริการผู้ช่วยส่วนตัว
ภายในสำหรับรุ่น Hybrid ตัวรองและตัวท็อปจะมีสีแดง Terra Rossa ให้เลือกด้วย (ขึ้นกับสีภายนอก) ส่วนนอกนั้นจะบังคับภายในดำทุกรุ่น รายละเอียดอื่นๆที่น่าสนใจก็จะมีเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะหลังปรับพับได้ 60:40 , พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา, พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ, ระบบปรับอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง อีกทั้งยังมีความจุสัมภาระด้านหลังถึง 487 ลิตร มากกว่า C-HR 162 ลิตร อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับ C-HR ก็มีออปชั่นบางอย่างที่หายไป เช่น ระบบกรองอากาศ Nanoe, เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold เป็นต้น
หรือถ้าเทียบกับ Corolla Altis เจ้า Corolla Cross ยังไม่มีหน้าจอ Head-Up Display, แท่นชาร์จไฟไร้สาย, ไม่มีเบาะผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า แถมยังได้ Dynamic Radar Cruise Control ที่ไม่ใช่ All-Speed อีกด้วย
- เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 2ZR-FE ความจุ 1.8 ลิตร พละกำลัง 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE Atkinson cycle 1.8 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรต์ รวมกำลังทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ที่ทาง Toyota เคลมว่าสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ 23.3 กม./ลิตร
อีกหนึ่งความน่าแปลกใจก็คือ แม้ว่ารถคันนี้จะพัฒนาบนพื้นฐาน TNGA-C เหมือนกับ Corolla Altis และ C-HR แต่กลับมาใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ผิดจากรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ๆ ของ Toyota ที่เป็นอิสระแบบปีกนกคู่หรือ Double Wishbone
ระบบความปลอดภัยของรถจะมีดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
- ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED (เฉพาะ Hybrid Premium และ Hybrid Premium Safety)
- ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ELR 3 จุด 3 ที่นั่ง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ด้านข้าง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ม่านด้านข้าง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS หัวเข่าฝั่งคนขับ
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether)
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) พร้อมมุมมองแบบ 3D View เฉพาะ Hybrid Premium Safety
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
- ระบบแจ้งเตือนลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) เฉพาะ Hybrid Premium และ Hybrid Premium Safety
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) เฉพาะ Hybrid Premium และ Hybrid Premium Safety
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) เฉพาะ Hybrid Premium และ Hybrid Premium Safety
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) เฉพาะ Hybrid Premium Safety
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) มีทุกรุ่น ยกเว้น Hybrid Premium Safety จะเป็น Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) เฉพาะ Hybrid Premium Safety
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) เฉพาะ Hybrid Premium Safety
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist) เฉพาะ Hybrid Premium Safety
- ระบบเตือนการโจรกรรม
- สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
สีตัวถังมีทั้งหมด 7 สี ดังนี้
- สีขาวมุก Platinum White Pearl
- สีดำ Attitude Black Mica
- สีเทาฟ้า Celestite Grey Metallic
- สีบรอนซ์เงิน Metal Stream Metallic
- สีเทาอมน้ำตาล Graphite Metallic
- สีแดง Red Mica Metallic
- สีน้ำเงิน Nebula Blue
สีภายในห้องโดยสาร
- สีดำ ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น HYBRID PREMIUM / HYBRID PREMIUM SAFETY สีขาวมุก, ดำ และ เทาฟ้า
- สีแดง Terra Rossa เฉพาะ HYBRID PREMIUM / HYBRID PREMIUM SAFETY สีขาวมุก, ดำ และ เทาฟ้า
ราคาจำหน่ายมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- 1.8 SPORT 989,000 บาท * ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน มีจำนวนจำกัด)
- HYBRID SMART 1,019,000 บาท
- HYBRID PREMIUM 1,089,000 บาท
- HYBRID PREMIUM SAFETY 1,199,000 บาท
Toyota Corolla Cross จะไปจัดแสดงให้เราได้สัมผัสและทดลองขับได้ภายในงาน ฺBangkok Motor Show 2020 ตั้งแต่วันที่ 15-26 กรกฎาคมนี้ ก่อนลงโชว์รูมพร้อมกันทั่วประเทศ 24 กรกฎาคมครับ
ข้อมูลและสเปค Toyota Corolla Cross
- มิติภายนอกยาว 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,825 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร
- ฐานล้อยาว 2,640 มิลลิเมตร
- ระดับต่ำสุดจากพื้น (วัดจากจุดต่ำสุดของรถ) 161 มิลลิเมตร
- ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบช่วงล่างหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน / ระบบเบรกหลังดิสก์เบรก
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร
- ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร (Hybrid) และ 47 ลิตร (เบนซิน)
1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
(ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 959,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- กระจังหน้าสีดำ
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Halogen
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟเลี้ยวด้านหน้า
- ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Follow-Me-Home
- ไฟท้ายLED
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ
- ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
- เสาอากาศแบบครีมฉลาม
- มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วขอบกระจกประตูสีดำ
- แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว และฝาครอบล้อ พร้อมยางขนาด 215/60 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก
- สีภายในสีดำ
- เบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์
- พวงมาลัยและวัสดุตกแต่งฐานเกียร์ หุ้มหนัง
- มือเปิดประตูด้านในโครเมียม
- เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40
- พนักพิงเบาะด้านหลังปรับเอนได้ 1 จังหวะ
- พนักวางแขนด้านหน้าปรับเลื่อนหน้า-หลัง
- พนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
- กระเป๋าหลังเบาะนั่งด้านหน้าเบาะผู้โดยสาร
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ 4 ตำแหน่ง
- กระจกแต่งหน้า บริเวณแผงบังคับแดดคู่หน้าพร้อมไฟส่องสว่าง
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- ไฟในห้องโดยสาร
- แผงกั้นสัมภาระด้านท้าย
- ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
- ราวมือจับ 4 ตำแหน่ง (Assist Grip) พร้อมราวแขวนเสื้อด้านหลัง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย
- ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) 4.2 นิ้ว
- จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และ USB
- ระบบ Apple CarPlay
- ระบบโทรออกด้วยเสียง
- ระบบ T-Connect
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
- ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
- ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ELR 3 จุด 3 ที่นั่ง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ด้านข้าง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS ม่านด้านข้าง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS หัวเข่าฝั่งคนขับ
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether)
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
- ระบบเตือนการโจรกรรม
- สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
Hybrid Smart 1,019,000 บาท (เพิ่มเงิน 30,000-60,000 บาทจาก 1.8 Sport)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.8 Sport)
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED แบบ Hybrid
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) LED แบบ Light Guiding
- ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED
- ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
- กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass)
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/60 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.8 Sport)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา
- ระบบ EV Mode
- ระบบ Sport และ ECO Mode
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น 1.8 Sport)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Smart)
- กระจังหน้าสีดำเงา
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ พร้อมระบบ Reverse Link
- คิ้วขอบกระจกประตูโครเมียม
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R18
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Smart)
- ภายในสีแดง Terra Rossa / สีดำ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- วัสดุตกแต่งคอนโซลกลางแบบ Piano Black
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ไฟส่องสว่างบริเวณประตูคู่หน้าและที่วางแก้วน้ำ
- ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
- เซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Activated
- ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้อัตโนมัติ
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) 7 นิ้ว
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Smart)
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ระบบแจ้งเตือนลมยาง (Tire Pressure Monitoring System)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
Hybrid Premium Safety 1,199,000 บาท (เพิ่มเงิน 110,000 บาทจาก 1.8 Sport)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Premium)
- หลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า
- ราวหลังคา
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Premium)
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic)
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid Premium)
- กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) พร้อมมุมมองแบบ 3D View
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย