สำหรับรถ MPV 7 ที่นั่งอย่าง Toyota Avanza แม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าชาวไทย แต่สำหรับตลาดอินโดนีเซียถือว่าเป็นรถที่ได้รับการนิยมเป็นอย่างมาก และถึงตัวถังปัจจุบันจะมีอายุอานามกว่า 7 ปีแล้วนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2012 แต่ทางอินโดนีเซียก็ขอปรับโฉม Minor Change ลายขายต่อไปอีกสักระยะหน่อย
ดีไซน์ด้านหน้ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมากับไฟหน้าแบบ 2 ชั้นที่มองแล้วดูคล้ายคลึงกับรถมินิแวนหรูอย่าง Toyota Voxy ไฟหน้าส่วนบนจะเป็นแบบ LED พร้อมทั้งออกแบบกระจังหน้าใหม่ให้เชื่อมระหว่างไฟคู่บน ส่วนของช่องระบายอากาศที่กันชนหน้าจะมาในรูปทรงคล้ายๆตัว X ออกแบบให้เชื่อมและต่อเนื่องกับกรอบไฟตัดหมอกด้านหน้า เช่นเดียวกับในส่วนด้านท้ายที่มีการออกแบบไฟท้ายใหม่แบบ 2 แฉกพร้อมแถบโครเมียมลากเชื่อมระหว่างไฟท้าย กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ และสปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ใหม่ รวมทั้งมีเสาอากาศแบบครีบฉลามมาให้ ล้ออัลลอยจะเป็นลายใหม่ที่มีตั้งแต่ขนาด 14-15 นิ้ว
และแน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งเวอร์ชั่นก็คือ Veloz ที่จะมีการออกแบบภายนอกให้ดูสปอร์ตขึ้นกว่าตัวปกติ ซึ่งจะมีรายละเอียดของช่องระบายอากาศกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกที่ดูสปอร์ตขึ้น กระจังหน้าจะเป็นแบบ Radiator Grille พ่นสี Dark Chrome Garnish ด้านข้างรถจะมีการติดตั้งสเกิร์ตและกันกระแทกด้านข้างมาให้ ส่วนด้านท้ายจะมากับโคมไฟท้ายใหม่ที่มีรายละเอียดในโคมเป็นสีดำ ออกแบบกันชนท้ายใหม่และสปอยเลอร์ใหม่ที่ดูแตกต่างจากรุ่นปกติ ในรุ่นท็อปสุดจะมีชุดตกแต่งสีดำบริเวณที่ติดตั้งทะเบียนรถด้วย ส่วนล้ออัลลอยจะได้ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน
เข้ามาภายในห้องโดยสาร รอบนี้จะมีการปรับดีไซน์ของมาตรวัดใหม่ให้ทันสมัยขึ้น รุ่นปกติจะเป็นมาตรวัดสีฟ้า ส่วนรุ่น Veloz จะเป็นโทนสีแดง เช่นเดียวกับโทนสีภายในที่จะมีการตกแต่งให้ต่างกันตามสไตล์รถ รุ่นปกติจะใช้สีแบบทูโทนดำและเบจ ส่วนรุ่น Veloz จะเป็นโทนสีดำล้วนพร้อมเบาะที่มีรายละเอียดตกแต่งสีแดงบนตัวเบาะ แดชบอร์ดตรงกลางยังมีการออกแบบในส่วนของจุดติดตั้งวิทยุและปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศใหม่ คราวนี้ทุกรุ่นย่อยจะได้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นมาตรฐาน
Avanza ตัวปกติรุ่น 1.3 E จะได้เครื่องเสียงวิทยุแบบ 2 DIN รองรับการเล่น CD FM/AM อีกทั้งยังเชื่อมต่อ iPod/iPhone , USB และ Bluetooth ได้ ส่วน Avanza ตัวปกติรุ่น 1.3 G จะได้หน้าจอสัมผัส รองรับการเล่น DVD รองรับการเชื่อมต่อ USB AUX และ Bluetooth อีกทั้งยังเชื่อมต่อ iPod/iPhone ได้ด้วยเช่นกัน ส่วน Avanza ตัวปกติรุ่น 1.5 G และ Veloz ทุกรุ่นย่อย จะได้หน้าจอสัมผัสเช่นเดียวกัน แต่เพิ่มการรองรับระบบอินโฟเทนเมนต์ T-Link มีระบบโทรออกฉุกเฉิน และลำโพง 6 ตัว พิเศษกว่าใน Veloz ทุกรุ่นย่อยจะได้หน้าจอที่เป็นระบบ Dual Zone Output Setting ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นใน Veloz ตัวท็อป 1.5 ลิตรจะติดตั้งจอเพดานมาให้
ขุมพลังของรถจะมีทางเลือกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที
ทุกรุ่นจะมีทางเลือกระบบส่งกำลังทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ระบบความปลอดภัยของรถ แม้จะเป็นรถปี 2019 แล้วแต่ระบบควขคุมการทรงตัวก็ยังคงไม่มีการติดตั้งมาให้ใน Avanza โฉมล่าสุด โดยทุกรุ่นจะมากับระบบความปลอดภัยดังต่อไปนี้
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ระบบเบรก ABS
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- คานกันกระแทกด้านข้าง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลัง 3 จุด
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
Toyota Avanza Minor Change จำหน่ายที่อินโดนีเซียในราคาตั้งแต่ 191.1 - 221.2 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 4.2 - 4.86 แสนบาท) ส่วนรุ่น Veloz จะจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 215.6 - 239.4 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 4.74 - 5.26 แสนบาท และจะมีโอกาสมาขายในไทยหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องติดตามต่อไป
ที่มา Toyota Indonesia - (Avanza) / (Avanza Veloz)
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย