สนใจออกรถ Mazda วันนี้ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ จัดหนักส่วนลด+ของแถม เพียงคุณแสดงตัวว่ากดติดตามเพจ Car News Update (แคปโพสต์ให้ดูด้วย) สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : anuntasooragath ครับ
หลังจากที่ Toyota ประเทศไทยได้ทำการเปิดตัว All-New Toyota Commuter และ Hiace ไปแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีเวอร์ชั่นหรูอย่าง Ventury แต่คราวนี้ไม่ใช่ Venrury แล้วแถมมากับความหรูหราที่ยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งมาภายใต้ชื่อ All-New Toyota Majesty นั่นเอง
หลายท่านคงคุ้นชื่อ Majesty กันพอสมควร เพราะว่าก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2006 ทาง Toyota เคยเปิดตัว Ventury Majesty ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร พร้อมเบาะภายในห้องโดยสารสุดหรูแบบ Exclusive Limousine Seat 7 ที่นั่งอีกทั้งยังเป็นเบาะหนังเกรด A และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในราคา 2,200,000 บาท แต่ก็ได้ยุติการจำหน่ายไปในปี 2010 แต่ก่อนนั้นหลายอย่างยังโล้นๆอยู่ คราวนี้จัดเต็มกว่ามาก
ดีไซน์ภายนอกมีการออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ให้แตกต่างจาก Hiace และ Commuter ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าใหม่แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบโครเมียม กันชนหน้าดีไซน์ใหม่เสริมด้วยโครเมียม ด้านข้างมีการเสริมเติมแต่งด้วยคิ้วด้านข้างโครเมียม ประตูหลังแน่นอนว่าจะมี 2 ข้างซ้าย-ขวาสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้ในรุ่น Premium ขึ้นไป สำหรับในส่วนด้านท้ายจะมากับโคมไฟท้ายแบบ LED โดยไฟท้ายจะเสริมด้วยแถบโครเมียมลากต่อเนื่องจากซ้ายจรดขวา เช่นเดียวกับล้อที่ทุกรุ่นจะได้ลายใหม่แบบปัดขอบเงาดำขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีโทนสีให้เลือกทั้งดำและเบจ (ขึ้นกับรุ่นย่อยและสีภายนอก) มีการตกแต่งด้วยลายไม้เพิ่มความหรูหรา มากับเบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์ ทุกรุ่นจะจัดวางตำแหน่งที่นั่งแบบ 9 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางส่วนเบาะผู้โดยสารสามารถปรับมือได้ 4 ทิศทาง ในส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 ตั้งแต่รุ่น Premium ขึ้นไปจะมาแบบ Captain Seat ที่เห็นแล้วแอบชวนให้นึกถึงภายในของ Toyota Alphard และ Veilfire สามารถปรับเอนไฟฟ้าและมีระบบบริหารด้านหลังไฟฟ้า ด้านข้างยังมีการเสริมไฟ Illumination ช่วยเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
ความน่าสนใจอื่นๆก็มี การติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รุ่นท็อปสุดจะได้ทั้งระบบนำทางและระบบ T-Connect Telematics รองรับการเล่น CD DVD และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยเฉพาะรุ่นท็อปจะได้ลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง น่าเสียดายที่แถวหลังดันไม่มีจอเพดานสำหรับผู้โดยสารเหมือน Ventury ที่เพิ่งตกรุ่นไป
ระบบ T-Connect Telematics ใน All-New Toyota Majesty จะมีคุณสมบัติดังนี้
* Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด
สำหรับขุมพลัง ทุกรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV ความจุ 2.8 ลิตร มากับพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 1,600 - 2,200 รอบ/นาที บล็อกเดียวกับที่ใช้ใน Commuter โฉมล่าสุด ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติพร้อม Sequentail Shift
ระบบความปลอดภัยถือว่าจัดมาให้แบบเต็มพิกัด โดยเฉพาะรุ่นท็อปจะมีชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ ซึ่งจะมีดังนี้
All-New Toyota Majesty มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Standard 1,709,000 บาท
- Premium 1,899,000 บาท
- Grande ราคา 2,199,000 บาท
คู่แข่งสำคัญของ Toyota Majesty ก็คงหนีไม่พ้น Hyundai H-1/Grand Starex และ Kia Grand Carnival โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 300 คัน/เดือน ใครสนใจสามารถไปชมคันจริงได้ที่งาน Big Motor Sale 2019 วันที่ 16-25 สิงหาคมนี้ที่ไบเทค บางนา
-----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลสเปคและออปชั่นของ All-New Toyota Majesty
* มิติภายนอก ยาว 5,265 มิลลิเมตร กว้าง 1,950 มิลลิเมตร สูง 1,990 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,210 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยว 5.5 เมตร ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร
* ระบบกันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท และเหล็กกันโคลง
* ระบบกันสะเทือนหลัง 4-Link คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
* ระบบเบรก หน้า/หลังแบบดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
* ระบบบังคับเลี้ยวแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง
* ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R17
รุ่น Standard ราคา 1,709,000 บาท
หลังจากที่ Toyota ประเทศไทยได้ทำการเปิดตัว All-New Toyota Commuter และ Hiace ไปแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีเวอร์ชั่นหรูอย่าง Ventury แต่คราวนี้ไม่ใช่ Venrury แล้วแถมมากับความหรูหราที่ยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งมาภายใต้ชื่อ All-New Toyota Majesty นั่นเอง
ภายในห้องโดยสารมีโทนสีให้เลือกทั้งดำและเบจ (ขึ้นกับรุ่นย่อยและสีภายนอก) มีการตกแต่งด้วยลายไม้เพิ่มความหรูหรา มากับเบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์ ทุกรุ่นจะจัดวางตำแหน่งที่นั่งแบบ 9 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางส่วนเบาะผู้โดยสารสามารถปรับมือได้ 4 ทิศทาง ในส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 ตั้งแต่รุ่น Premium ขึ้นไปจะมาแบบ Captain Seat ที่เห็นแล้วแอบชวนให้นึกถึงภายในของ Toyota Alphard และ Veilfire สามารถปรับเอนไฟฟ้าและมีระบบบริหารด้านหลังไฟฟ้า ด้านข้างยังมีการเสริมไฟ Illumination ช่วยเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
ความน่าสนใจอื่นๆก็มี การติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รุ่นท็อปสุดจะได้ทั้งระบบนำทางและระบบ T-Connect Telematics รองรับการเล่น CD DVD และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยเฉพาะรุ่นท็อปจะได้ลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง น่าเสียดายที่แถวหลังดันไม่มีจอเพดานสำหรับผู้โดยสารเหมือน Ventury ที่เพิ่งตกรุ่นไป
ระบบ T-Connect Telematics ใน All-New Toyota Majesty จะมีคุณสมบัติดังนี้
* Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด
* My TOYOTA Wi-Fi กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้พร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์ ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็กเกจ
* Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชั่น
* Packing Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่
* SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางกรณี
* OPS (Operator Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ
สำหรับขุมพลัง ทุกรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV ความจุ 2.8 ลิตร มากับพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 1,600 - 2,200 รอบ/นาที บล็อกเดียวกับที่ใช้ใน Commuter โฉมล่าสุด ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติพร้อม Sequentail Shift
ระบบความปลอดภัยถือว่าจัดมาให้แบบเต็มพิกัด โดยเฉพาะรุ่นท็อปจะมีชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ ซึ่งจะมีดังนี้
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย (SRS Airbags) 9 ตำแหน่ง (คู่หน้า, หัวเข่าคนขับ, ด้านข้างในห้องผู้โดยสารด้านหน้า, บริเวณม่านในห้องผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง)
- ระบบเบรก ABS
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เฉพาะรุ่นท็อปจะเป็นแบบ Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre-Collision System) เฉพาะรุ่น Grande
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beams) เฉพาะรุ่น Grande
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDA (Lane Departure Alert) เฉพาะรุ่น Grande
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ VSW (Vehicle Sway Warning) เฉพาะรุ่น Grande
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (Back Camera)
- กล้องวีดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ด้านหน้ารถ DVR (Digital Video Recorder)
- กล้องมองรอบคัน PVM (Panoranic View Monitor) ยกเว้นรุ่น Standard
- ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitoring System) ยกเว้นรุ่น Standard
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether) 4 ตำแหน่ง
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
- ระบบป้องกันการโจรกรรม และ Immobilizer
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหน้า ELR 3 จุด 3 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 1 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 2 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 3 ELR 3 จุด 4 ที่นั่ง
All-New Toyota Majesty มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Standard 1,709,000 บาท
- Premium 1,899,000 บาท
- Grande ราคา 2,199,000 บาท
คู่แข่งสำคัญของ Toyota Majesty ก็คงหนีไม่พ้น Hyundai H-1/Grand Starex และ Kia Grand Carnival โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 300 คัน/เดือน ใครสนใจสามารถไปชมคันจริงได้ที่งาน Big Motor Sale 2019 วันที่ 16-25 สิงหาคมนี้ที่ไบเทค บางนา
-----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลสเปคและออปชั่นของ All-New Toyota Majesty
* มิติภายนอก ยาว 5,265 มิลลิเมตร กว้าง 1,950 มิลลิเมตร สูง 1,990 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,210 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยว 5.5 เมตร ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร
* ระบบกันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท และเหล็กกันโคลง
* ระบบกันสะเทือนหลัง 4-Link คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
* ระบบเบรก หน้า/หลังแบบดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
* ระบบบังคับเลี้ยวแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง
* ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R17
รุ่น Standard ราคา 1,709,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- กระจังหน้าโครเมียม
- กระจกมองข้างโครเมียม
- มือจับประตูโครเมียม
- กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม
- กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ
- สเกิร์ตรอบคัน
- สปอยเลอร์หลัง
- คิ้วกันกระแทกด้านข้าง
- ประตูบานสไลด์ (ซ้าย/ขวา)
- กลไกช่วยปิด (Easy Door Closer) สำหรับประตูบานสไลด์ (ซ้าย/ขวา) และประตูหลัง
- ไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ
- ที่ปัดน้ำฝนหน้าอัตโนมัติ
- ที่ปัดน้ำฝนหลังปรับระดับได้
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์ ปรับระดับสูง-ต่ำ และเข้า-ออกได้
- มาตรวัดเรืองแสง Optitron
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID) พร้อมไฟแสดงการทำงานของระบบ ECO
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
- ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง
- ช่องต่ออุปกรณ์เสริม USB 7 ตำแหน่ง
- ไฟส่องบันไดข้างพร้อมไฟ Illumination
- ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง พร้อมไฟ
- ไฟส่องแผนที่
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- เครื่องเล่น DVD/CD จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Bluetooth
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 2 ตอน
- เบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหน้า คนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหน้า ผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหลัง แถวที่ 1 แบบ 2 ที่นั่ง ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมที่วางแขนแบบพับได้
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหลัง แถวที่ 2 แบบ 2 ที่นั่ง ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมที่วางแขนแบบพับได้
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหลัง แถวที่ 3 แบบ 4 ที่นั่ง พับแยก 50:50 ได้
- กุญแจรีโมท
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบ Jam Protection ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบเซ็นทรัลล็อก
- ระบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย (SRS Airbags) 9 ตำแหน่ง (คู่หน้า, หัวเข่าคนขับ, ด้านข้างในห้องผู้โดยสารด้านหน้า, บริเวณม่านในห้องผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง)
- ระบบเบรก ABS
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (Back Camera)
- กล้องวีดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ด้านหน้า (DVR)
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX and Top Tether) 4 ตำแหน่ง
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
- ระบบป้องกันการโจรกรรม และ Immobilizer
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหน้า ELR 3 จุด 3 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 1 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 2 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
- เข็มขัดนิรภัยห้องโดยสารด้านหลัง เบาะแถวที่ 3 ELR 3 จุด 4 ที่นั่ง
รุ่น Premium ราคา 1,899,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น Standard 190,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานและความปลอดภัยที่เพิ่มเติมจากรุ่น Standard
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ประตูบานสไลด์ (ซ้าย/ขวา) ระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ สามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้จากคนขับ
- พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยลายไม้ ปรับระดับสูง-ต่ำ และเข้า-ออกได้
- เบาะนั่งห้องโดยสารด้านหลัง แถวที่ 1 แบบ 2 ที่นั่ง แบบ Captain Seat ปรับได้ 4 ทิศทาง (ปรับเอนไฟฟ้า) พร้อมที่รองขา และระบบบริหารหลังไฟฟ้า
- กล้องมองรอบคัน PVM (Panoranic View Monitor)
รุ่น Grande ราคา 2,199,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น Premium 300,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานและความปลอดภัยที่เพิ่มเติมจากรุ่น Premium
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ไม่มีอะไรต่างจากรุ่น Premium
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- ระบบนำทาง Navigator
- ระบบ T-connect TELEMATICS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre-Collision System)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beams)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDA (Lane Departure Alert)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ VSW (Vehicle Sway Warning)
- ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitoring System)
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย