ค่ายสี่ห่วงเยอรมัน Audi ได้ทำการเผยโฉมรถแวกอนตัวแรงโฉมใหม่ล่าสุด RS6 Avant ก่อนจะมีการเปิดตัวต่อสาธารณชนภายในงาน Frankfurt Motor Show 2019 เดือนกันยายนที่กำลังจะมาถึง
ด้วยขุมพลังความแรงที่มากับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ความจุ 4.0 ลิตรที่มากับพละกำลัง 600 แรงม้า 600 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ quattro สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.6 วินาที ก่อนที่จะทะยานไปยังความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. อันเป็นความเร็วที่ล็อคไว้ หากอยากได้ท็อปสปีดเพิ่มโปรดสั่ง Dynamic Package ที่จะเพิ่มเป็น 280 กม./ชม. หากยังไม่ได้ใจก็ต้องสั่ง Dynamic Package Plus ที่จะเพิ่มเป็น 306 กม./ชม.
เครื่องบล็อกนี้ยังเป็นระบบ Mild-Hybrid ที่มากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 โวลต์ซึ่งให้พลังงานกับระบบเทอร์โบไฟฟ้าเพื่อลดอาการรอรอบแบบเครื่องเทอร์โบทั่วไปด้วย
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพแล้ว เจ้าแวกอนคันนี้มาพร้อมกับระบบกันช่วงล่างแบบถุงลม (Adaptive air suspension) และเฟืองท้ายแบบสปอร์ตที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าโค้งโดยการกระจายแรงบิดอไปยังล้อหลังแต่ละล้อ
นอกจากนี้ยังมีระบบบังคับเลี้ยวที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมซึ่งพวงมาลัยจะยิ่งคืนเร็วเมื่อหักเลี้ยวพวงมาลัยด้วยองศาที่มากขึ้น เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อระบบช่วงล่างสปอร์ต RS Dynamic Ride Control ได้ด้วย
Audi RS6 Avant มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 6 โหมดที่แตกต่างกัน ได้แก่ auto, comfort, dynamic ,efficiency และมีอีก 2 โหมดที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้ชื่อว่า RS1 และ RS2 ที่สามารถกำหนดค่าได้อย่างอิสระและสามารถเรียกใช้โหมดเหล่านี้ได้ด้วยการกดปุ่ม RS Mode บนพวงมาลัย
สำหรับการออกแบบภายนอกนั้น Audi ได้ยกระดับความดุดันเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ โดยมากับไฟหน้าทรง
เดียวกับ Audi A7 พร้อมกระจังหน้าแบบ Singleframe ตะแกรงรังผึ่งสีดำเงา เสริมด้วยช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ดีไซน์ดุ และลิ้นกันชนหน้าสีเงิน สเกิร์ตด้านข้างมีดีไซน์ที่ดูเกรี้ยวกราดขึ้น และสปอยเลอร์ท้ายรถดีไซน์ใหม่ นอกจากนี้ยังมีล้อขนาดใหญ่พร้อมกับระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก ด้านท้ายมากับท่อไอเสียคู่และกันชนหลังดีไซน์ใหม่พร้อมครีบรีดอากาศหรือ diffuser ดีไซน์ดุดัน
ห้องโดยสารยังคงพบกับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ Infotainment พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วและจอแสดงผลควบคุมระบบปรับอากาศขนาด 8.6 นิ้ว เบาะนั่งรถจะเป็นแบบสปอร์ตที่มีสัญลักษณ์ RS และพวงมาลัยฐานตัด มีการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน แป้นคันเร่งแบบโลหะผสมและติดตรา Quattro สีแดงบนแดชบอร์ด Audi ยังยืนยันอีกว่าหน้าปัดดิจิตอลนั้นยังถูกออกแบบการแสดงผลเฉพาะรุ่น RS ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงดันลมยาง, แรงบิด, กำลังเครื่องยนต์, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, แรงดันบูสท์, รอบเวลา, การวัดอัตราเร่ง และ แรงจี
ที่มา Carscoops
ด้วยขุมพลังความแรงที่มากับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ความจุ 4.0 ลิตรที่มากับพละกำลัง 600 แรงม้า 600 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ quattro สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.6 วินาที ก่อนที่จะทะยานไปยังความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. อันเป็นความเร็วที่ล็อคไว้ หากอยากได้ท็อปสปีดเพิ่มโปรดสั่ง Dynamic Package ที่จะเพิ่มเป็น 280 กม./ชม. หากยังไม่ได้ใจก็ต้องสั่ง Dynamic Package Plus ที่จะเพิ่มเป็น 306 กม./ชม.
เครื่องบล็อกนี้ยังเป็นระบบ Mild-Hybrid ที่มากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 โวลต์ซึ่งให้พลังงานกับระบบเทอร์โบไฟฟ้าเพื่อลดอาการรอรอบแบบเครื่องเทอร์โบทั่วไปด้วย
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพแล้ว เจ้าแวกอนคันนี้มาพร้อมกับระบบกันช่วงล่างแบบถุงลม (Adaptive air suspension) และเฟืองท้ายแบบสปอร์ตที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าโค้งโดยการกระจายแรงบิดอไปยังล้อหลังแต่ละล้อ
นอกจากนี้ยังมีระบบบังคับเลี้ยวที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมซึ่งพวงมาลัยจะยิ่งคืนเร็วเมื่อหักเลี้ยวพวงมาลัยด้วยองศาที่มากขึ้น เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อระบบช่วงล่างสปอร์ต RS Dynamic Ride Control ได้ด้วย
Audi RS6 Avant มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 6 โหมดที่แตกต่างกัน ได้แก่ auto, comfort, dynamic ,efficiency และมีอีก 2 โหมดที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้ชื่อว่า RS1 และ RS2 ที่สามารถกำหนดค่าได้อย่างอิสระและสามารถเรียกใช้โหมดเหล่านี้ได้ด้วยการกดปุ่ม RS Mode บนพวงมาลัย
สำหรับการออกแบบภายนอกนั้น Audi ได้ยกระดับความดุดันเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ โดยมากับไฟหน้าทรง
เดียวกับ Audi A7 พร้อมกระจังหน้าแบบ Singleframe ตะแกรงรังผึ่งสีดำเงา เสริมด้วยช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ดีไซน์ดุ และลิ้นกันชนหน้าสีเงิน สเกิร์ตด้านข้างมีดีไซน์ที่ดูเกรี้ยวกราดขึ้น และสปอยเลอร์ท้ายรถดีไซน์ใหม่ นอกจากนี้ยังมีล้อขนาดใหญ่พร้อมกับระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก ด้านท้ายมากับท่อไอเสียคู่และกันชนหลังดีไซน์ใหม่พร้อมครีบรีดอากาศหรือ diffuser ดีไซน์ดุดัน
ห้องโดยสารยังคงพบกับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ Infotainment พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วและจอแสดงผลควบคุมระบบปรับอากาศขนาด 8.6 นิ้ว เบาะนั่งรถจะเป็นแบบสปอร์ตที่มีสัญลักษณ์ RS และพวงมาลัยฐานตัด มีการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน แป้นคันเร่งแบบโลหะผสมและติดตรา Quattro สีแดงบนแดชบอร์ด Audi ยังยืนยันอีกว่าหน้าปัดดิจิตอลนั้นยังถูกออกแบบการแสดงผลเฉพาะรุ่น RS ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงดันลมยาง, แรงบิด, กำลังเครื่องยนต์, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, แรงดันบูสท์, รอบเวลา, การวัดอัตราเร่ง และ แรงจี
ที่มา Carscoops
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย