ค่ายรถหรูแห่งอเมริกา Cadillac ได้ทำการเปิดตัว All-New Cadillac Escalade เจเนเรชั่นที่ 5 รถ SUV หรูระดับเรือธงของค่าย แน่นอนว่าตัวรถจะใช้พื้นฐานเดียวกับ Chevrolet Tahoe และ GMC Yukon
Cadillac Escalade เป็นที่รู้กันดีในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างเท่ห์ ในเจเนเรชั่นที่ 5 ก็ยังคงได้รับการออกแบบให้ดูหรูหราและแข็งแกร่งเช่นเคย ดีไซน์จะเป็นไปตาม Cadillac ยุคใหม่ โดยมากับกระจังหน้าขนาดใหญ่โตที่ขนาบข้างด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่วางตามแนวนอน
ด้านข้างตัวถังจะคล้ายคลึงกับลูกพี่ลูกน้องในเครือ แต่สำหรับ Escalade จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วเป็นมาตรฐาน ส่วนด้านท้ายจะต่างจากพี่น้องร่วมตัวถังค่ายอื่นคือรุ่นนี้จะได้ไฟท้าย LED แนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น โคมไฟท้ายมีรายละเอียดภายในแบบ 3 มิติ ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา
การเปลี่ยนโฉมครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีรูปแบบการตกแต่ง Sport มาให้ จะมาพร้อมกับกระจังหน้าสีดำที่เป็นตะแกรงแบบตาข่ายพร้อมทั้งภายในสีดำ ลูกค้ายังสามารถเกรด Platinum ที่เป็นเกรดท็อปสุด ที่จะมากับการตกแต่งภายในและภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโดยสารผู้ขับขี่จะพบกับพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังพร้อมหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่แบบ OLED รวมๆแล้วมีขนาดถึง 38 นิ้วแบบจอโค้ง ซึ่งมีความหนาแน่นของพิกเซลเป็นสองเท่าของโทรทัศน์ 4K
โดยจอสี 38 นิ้วจะแบ่งออกเป็นแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 14.2 นิ้ว, หน้าจอกลางซึ่งเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้วและจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7.2 นิ้วที่อยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัย
คุณสมบัติความไฮเทคของรถยังไม่หมดเท่านี้เพราะ Escalade ใหม่จะติดตั้งระบบนำทางความที่สมจริงมากยิ่งขึ้น โดยการแสดงวิดีโอสภาพจราจรแบบสดๆบนแผงหน้าปัดและแสดงข้อมูลทิศทางไว้ส่วนบนหน้าจอ ระบบยังรวมฟังก์ชั่นเสียงที่จะสั่งเราผ่านลำโพงด้านซ้ายของรถ
สำหรับเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ติดตั้งมาให้ก็จะมี กระจกมองหลังพร้อมกล้องแสดงภาพและระบบ Night Vision ซึ่งใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยเช่นเดียวกับการตรวจจับคนเดินเท้าและสัตว์ขนาดใหญ่ ลูกค้ายังสามารถเลือกแพ็คเกจการลากจูง Trailering Integration Package ที่จะมากับระบบช่วยเบรกรถลากจูงด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตารถลากจูงพร้อมแจ้งเตือนจากกล้องที่จับรอบทิศทางได้ถึง 9 มุมมอง ตัวกล้องของ Escalade ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานนั้นยังเป็นกล้องแบบ Surround Vision ที่ใช้กล้อง 4 ตัวในการมองเห็นทิวทัศน์รอบตัวรถ
ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อระบบความบันเทิงสำหรับที่นั่งด้านหลังซึ่งมากับหน้าจอสัมผัสขนาด 12.6 นิ้ว เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถใช้การเล่นเกม ฟังเพลงและดูวิดีโอผ่านการเชื่อมต่อจาก HDMI และ USB เช่นเดียวกับการรองรับการเชื่อมสมาร์ทโฟน Android ได้ สำหรับคนขับนั้น หน้าจอยังสามารถ “แนะนำ” จุดหมายปลายทางให้กับคนขับซึ่งสามารถยอมรับหรือปฏิเสธได้
สำหรับการตกแต่งภายในห้องโดยสารนั้นจะใช้หนังระดับพรีเมี่ยม ตกแต่งด้วยลายไม้และโลหะ ไนอกจากนั้นแล้วยังมีไฟบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Lighting, แผงประตูเรืองแสง และตะแกรงเหล็กลำโพงที่ทำจากสแตนเลส ลูกค้ายังจะได้รับตัวเลือกการตกแต่งโทนสีภายในไม่น้อยกว่า 8 สีและ 8 ตัวเลือกการตัดแต่ง” รวมถึงตัวเลือกใหม่ สีเบจ Gideon Whisper Beige ซึ่งมี “ ผ้าทอแบบกำหนดเองที่เพิ่มสไตล์และบรรยากาศในระดับใหม่”
Escalade ยังมาพร้อมกับระบบเสียงจาก AKG ในรุ่นพื้นฐานจะมีลำโพง 19 ตัวและซับวูฟเฟอร์ 1 ตัวในขณะที่ยังมีออปชั่นให้เลือกเป็นลำโพง 36 ตัวและแอมพลิไฟเออร์ 3 ตัว
ออปชั่นอย่างหลังนี้จะมีอีกฟังก์ชั่นพิเศษคือระบบการเพิ่มประสิทธิภาพการสนทนาที่ใช้ไมโครโฟนและลำโพงเพื่อปรับปรุงการสนทนาระหว่างผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ตัวควบคุมระดับเสียงเฉพาะสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
ต้องขอบคุณแพลตฟอร์มใหม่และระบบช่วงล่างหลังอิสระ ทำให้ Escalade โฉมใหม่นั้นกว้างขวางกว่ารุ่นก่อนมาก ในรุ่นมาตรฐานจะมีพื้นที่วางขาแถวที่สามเพิ่มขึ้น 40% เป็น 886 มิลลิเมตร ส่งผลให้รถคันนี้มีเนื้อที่แถวที่ 3 ที่กว้างที่สุดในกลุ่ม พื้นที่เก็บของด้านหลังแถวที่สามเพิ่มขึ้นอีก 68% เป็น 722 ลิตร ในขณะที่ความจุโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 3,089 ลิตรอีกด้วย
ผู้ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมสามารถรับ Escalade ESV ซึ่งยาวกว่ารุ่นมาตรฐาน 404 มิลลิเมตร มีพื้นที่วางขาแถว 3 มากถึง 933 มิลลิเมตร และพื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 3,585 ลิตร
ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติของ Cadillac จะติดตั้งใน Escalade ด้วย โดยระบบจะช่วยในการ "ขับขี่แบบอัตโนมัติ" บนทางหลวงมากกว่า 200,000 ไมล์ (321,869 กิโลเมตร) ในแผ่นดินแคนาดาและสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้จะเป็นไปได้ด้วย “ข้อมูลแผนที่จาก LiDAR, GPS ความแม่นยำสูง, ระบบคเตือนอาการเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย รวมกล้องและเซ็นเซอร์เรดาร์รอบคัน
นอกจากนี้ Cadillac เพิ่งประกาศการอัปเดตที่อนุญาตให้รถสามารถเปลี่ยนเลนอัตโนมัติได้ เมื่อระบบเปิดใช้งานผู้ขับขี่จะต้องใช้สัญญาณไฟเลี้ยว และรถจะเปลี่ยนไปเลนที่ต้องการโดยอัตโนมัติเมื่อพบเจอทางที่เหมาะสม
Escalade ใหม่จะทำการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 6.2 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 426 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 623 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้จะมีระบบวาล์วแปรผัน, เทคโนโลยี Stop/Start และระบบปิดการทำงานของกระบอกสูบบางตัว Cadillac กล่าวว่าคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถปรับสมดุลขุมพลังอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 3.0 ลิตร 6 หกสูบ พละกำลัง 281 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 623 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการขับขี่นั้น เราสามารถคาดหวังคุณภาพการขับขี่ การควบคุม และการตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระ และยังมีระบบควบคุมการช่วงล่างด้วยแม่เหล็ก Magnetic Ride Control ซึ่งจะปรับลดแรงกระแทกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การขับขี่ที่สะดวกสบาย
นอกจากนี้ยังมากับระบบกันช่วงล่าง Air Ride Adaptive Suspension ที่สามารถปรับระดับได้อัตโนมัติ ระบบจะลดความสูงของการขับขี่โดยอัตโนมัติที่ความเร็วบนทางหลวงเพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้ลดความสูงของรถได้อีก 51 มิลลิเมตรเพื่อให้เข้าออกรถได้สะดวกขึ้น ท้ายสุดนั้นผู้ขับขี่ยังสามารถเพิ่มความสูงเมื่อขับบนพื้นถนนออฟโรดได้ด้วย
Escalade ใหม่ยังติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะส่งแรงบิดไปยังล้อหลังด้วยแรงฉุดพลังมหาศาลเพื่อช่วยในการขับขี่บนพื้นถนนขรุขระและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
All-New Cadillac Escalade จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 3 และจะประกาศราคาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ที่มา Carscoops
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย