แม้ว่าช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชาวไทยจะต้องเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่ นั่นก็คือ การที่เราได้สูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แต่งานใหญ่ครั้งนี้ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม ไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด แต่ที่สำคัญเลยคือการจัดงานครั้งนี้ทางผู้จัดงานและค่ายรถต่างคำนึงถึงสถานการณ์ตอนนี้ จึงมีการคุมโทนการจัดการโดยเฉพาะการแต่งกายของสาวพริตตี้ที่ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม หลังจากผมได้ไปชมงานมาแล้ว ต้องขอชมเชยในเรื่องนี้มาก รู้สึกว่าพริตตี้ดูสวยมีราศีมากกว่าปีที่ผ่านๆมา ถ้าเป็นไปได้ขอให้คงโทนแบบนี้จนไปถึงงาน Motor Show 2017 หรือ Expo 2017 เลยยิ่งดี
ภายในงานปีนี้ยังคงมีไฮไลต์สำคัญต่างๆจากค่ายรถมากหน้าหลายตามาให้เราได้ชมกันเช่นเคยครับ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาชมกันได้เลย
Aston Martin
ค่ายสปอร์ตแดนผู้ดีถึงแม้ไม่มีรถใหม่เข้ามาเปิดตัวแต่ก็ยังมีรถสปอร์ตหลากรุ่นมาจัดแสดงไม่ว่าจะเป็น Aston Martin V8 Vantage , Aston Martin DB9 และ Aston Martin Vanquish ใครชอบสปอร์ตค่ายนี้อยู่แล้วไม่ควรพลาด
BMW / MINI
ค่ายรถหรูอย่าง BMW นั้นมีไฮไลต์ภายในงานที่น่าสนใจหลายคันเลยทีเดียว ขอเริ่มที่พระเอกอย่าง BMW M4 GTS รุ่นพิเศษตัวแรงที่ผลิตแค่ 600 คันในโลก ที่สำคัญก็คือมีโควตาเข้ามาในไทย 2 คันด้วยกัน กับราคาค่าตัว 13,999,000 บาท
คันต่อมาคือ BMW 330e Plug-In Hybrid Luxury รุ่นประกอบในประเทศ กับราคาค่าตัว 2,599,000 บาท ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่า BMW 320d ช่วงนำเข้ามาใหม่ๆเสียอีกครับ
อีกคันก็คือ BMW X3 xDrive20d M Sport รถอเนกประสงค์คันหรูของค่ายที่ได้เสริมชุดแต่ง M Sport Package ให้ดูสปอร์ตและครบครันมากขึน กับราคาค่าตัว 3,599,000 บาท
และต่อกันที่ BMW X5 xDrive40e M Sport รถอเนกประสงค์รุ่นใหญ่ที่เอามาประกอบในประกอบ จากราคาเดิม 5,399,000 บาท พอประกอบในประเทศ (และหั่นออปชั่นบางอย่าง) เหลือราคา 4,699,000 บาท
ปิดท้ายด้วย BMW i8 Protonic Red Edition สีแดงพิเศษที่ทำให้รถดูจี๊ดจ๊าดมากขึ้น ในราคาค่าตัวเท่าเดิม 11,899,000 บาท
มาดูกันที่ค่าย MINI บ้างครับ ในปลายปีนี้จะมีไฮไลต์สำคัญก็คือ MINI Seven รุ่นพิเศษที่ตกแต่งให้สวยงามและมีเอกลักษณ์มากขึ้น มี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ ตัวถัง Hatch 3 ประตู ราคา 2,890,000 บาท และรุ่น Hatch 5 ประตู ราคา 2,930,000 บาท
Chevrolet
ค่ายนี้ยังไม่มีรถใหม่เปิดตัวช่วงปลายปี แต่ก็มีการดึงดูดผู้คนด้วยการนำ Chevrolet Captiva มาทำสีโครเมียม รวมทั้งนำ Colorado รุ่นล่าสุดมาตกแต่งให้บึกบึนขึ้นจอดโชว์บนเวทีงาน และนำ Trailblazer มาแต่งโชว์เช่นกัน
Ford
ค่ายวงรีสีฟ้ายังไม่มีรถใหม่มาเปิดตัวในงาน แต่มีโปรโมชั่นเด็ดๆให้กับรถหลายๆรุ่นก่อนสิ้นปี ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ https://www.ford.co.th/buying/latest-offers/?bannerid=OLA_161116_THMKT4YE_YTMH ครับ
Foton
ไฮไลต์ของค่ายรถจีนรายนี้เลยก็คือกระบะ Foton Tunland ที่พร้อมมาสู้ศึกตลาดกระบะเมืองไทย ชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Cummins จากอเมริกา วางจำหน่ายในราคา 514,900-826,200 บาท ใครสนใจอยากไปชมกระบะน้องใหม่ก็แวะได้ที่งานครับ
Honda
ใครที่คาดหวังว่า Honda จะเปิดตัว All-New Honda CR-V หรือจะมีเซอร์ไพรซ์ Honda Civic Hatchback สุดท้ายค่ายนี้ยังคงไร้เงารถใหม่ช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามก็ยังไง Honda Civic ก็ยังคงเป็นตัวชูโรงและคนก็แน่นบูธเช่นเคย
Hyundai
ค่ายรถแดนโสมปีนี้นำต้นแบบ Hyundai Enduro Concept มาจอดโชว์ภายในงาน เพื่อดึงดูดประชาชนเข้าชมบูธ
ที่น่าสนใจสุดๆคือ All-New Hyundai Tucson คันสีน้ำเงินโดดเด่น ที่เอามาโชว์เรียกน้ำย่อยก่อนวางขายจริงในไทยปีหน้า เครื่องยนต์ที่จะจำหน่ายในไทยคือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Sequential Shift Mode ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-time on demand
และอีกคันที่น่าสนใจคือ Hyundai H-1 Elite+ ซึ่งเพิ่มเติมออปชั่นจากตัว Elite ธรรมดาคือ หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen จาก Pioneer หน้าจอเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 10.1 นิ้ว และ กล้องมองภาพขณะถอยจอด
Isuzu
ค่ายนี้มีตัวชูโรงในงานคือ Isuzu D-Max MY2017 และ Isuzu MU-X MY2017 ที่เพิ่งปรับอุปกรณ์ไปไม่นานนั่นเอง น่าจะสร้างความสนใจให้กับสาวกและผู้ซื้อได้ไม่น้อยทีเดียว
Jaguar / Land Rover
ค่ายเสือทะยานแดนผู้ดีมีไฮไลต์เด็ดเลยคือ Jaguar F-Pace รถ SUV คันแรกของค่าย ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรตระกูล Ingenium พละกำลัง 180 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
– Jaguar F-Pace Pure 2.0 AWD ราคา 4,699,000 บาท
– Jaguar F-Pace R-Sport 2.0 AWD ราคา 5,499,000 บาท
– Jaguar F-Pace Portfolio 2.0 AWD ราคา 5,999,000 บาท
ส่วนค่าย Land Rover ก็ไม่มีอะไรใหม่ แต่ก็มีรถมาจัดแสดงทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Land Rover Discovery Sport , Range Rover , Range Rover Evoque
Lexus
ค่ายรถหรูจากญี่ปุ่นรายนี้มีไฮไลต์สำคัญเลยคือ Lexus IS Minor Change ที่ปรับหน้าตาภายนอกและภายในให้ทันสมัยมากขึ้น มีขุมพลังให้เลือก 2 แบบ ได้แก่
* เครื่องยนต์เบนซิน 8AR-FTS 4 สูบแถวเรียง Dual VVT-iw 2.0 ลิตร พละกำลัง 241 แรงม้า ที่ 4,800-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650-4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
* เครื่องยนต์เบนซิน 2AR-FSE 4 สูบ แถวเรียง Dual VVT-i D-4S ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังทั้งระบบ 223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT W/S-Mode
มีทางเลือกด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่
- IS300h Luxury 3,065,000 บาท (ราคาพิเศษจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2,999,000 บาท)
- IS300h Premium 3,615,000 บาท
- IS200t F-Sport 4,375,000 บาท
- IS200t F-Sport 4,375,000 บาท
Mazda
ค่าย Mazda ที่ก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะเปิดตัว Mazda 3 Minor Change ช่วงปลายปี สุดท้ายก็ถูกเลื่อนไปเป็นช่วงมกราคมปี 60 แทน ทำให้ไม่มีรถใหม่เปิดตัวในงาน แต่อย่างน้อยก็มีตัวเด่นๆอย่าง Mazda CX-3 และ CX-5 รวมทั้งการจัดแสดงรถเป็นสีแดงแทบทั้งบูธ น่าจะเรียกความสนใจให้ใครหลายๆคนได้ดีทีเดียว
Mercedes-Benz
ค่ายรถหรูดาวสามแฉกรายนี้ก็ไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง BMW เลย พร้อมเข็นรถรุ่นใหม่หลายรุ่นเข้ามาเปิดตัวภายในงาน เริ่มที่รถหรูทรงวากอนอย่าง Mercedes-Benz E-Class Estate โฉมใหม่ที่มาอวดโฉมครั้งแรกในงานนี้เลย มีจำหน่ายในรุ่น E220d Estate AMG Dynamic กับราคา 4,740,000 บาท
ต่อด้วย Mercedes-Benz C-Class Cabriolet หรือเวอร์ชั่นเปิดหลังคาของ C-Class Coupe ที่เข้ามาจำหน่ายในรุ่น C300 Cabriolet AMG Dynamic มากับราคา 4,240,000 บาท
และที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวเปิดประทุนก็คือ Mercedes-Benz C250 Coupe ทีล่าสุดตอนนี้ได้นำเข้ามาประกอบในประเทศไทยแล้ว และมีการเพิ่มออปชั่นใหม่ๆเข้าไปหลายอย่าง ยังคงมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่น Sport และ AMG Dynamic ราคาค่าตัวถูกลงกว่าเดิม 150,000-200,000 บาท โดยมีราคาที่ 3,240,000-3,590,000 บาท
คันต่อมาคือ Mercedes-Benz CLA-Class Minor Change ที่ัยังคงมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดานและ Shooting Brake ทำตลาดในรุ่น CLA200 Urban / CLA250 AMG Dynamic และ CLA250 Shooting Brake AMG Dymanic ราคาค่าตัวเท่าเดิม 2,140,000-3,140,000 บาท
(ลืมถ่ายรถในงานมา เลยขอเอาภาพรถที่ถ่ายในห้างมาแทนครับ)
มาดูทางฝั่งของรถที่ปรับอุปกรณ์ใหม่กันบ้าง เริ่มที่ Mercedes-Benz GLA-Class ใหม่ที่มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่นปี 2017 โดยการเปลี่ยนหน้าจอกลางใหม่ พวงมาลัยทรงใหม่ รวมทั้งเพิ่มระบบช่วยเบรก Active Brake Assist และปรับเพิ่มเติมอีกหลายรายการ โดยรุ่นท็อปลดราคา 50,000 บาท ทำให้ช่วงราคาค่าตัวใหม่นั้นอยู่ที่ 2,090,000-2,390,000 บาท
อีกคันก็คือ Mercedes-Benz C350e Plug-In Hybrid รุ่นปรับอุปกรณ์ปี 2017 ที่ปรับนิดๆด้วยการเพิ่มกรอบสีฟ้าในโคมไฟหน้า และคาลิปเปอร์เบรกสีฟ้า ส่วนราคาค่าตัวก็เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ (ราคา 2,640,000-3,690,000 บาท)
ปิดท้ายด้วย 2 ตัวแรง Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe มากับขุมพลังเบนซิน 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด ที่ 367 แรงม้า ที่ 5,500 - 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ราคาอยู่ที่ 5,190,000 บาท
ท้ายสุด Mercedes-AMG GLE43 4MATIC Coupe ที่ใช้ขุมพลังเดียวกับ Mercedes-AMG C43 เลย มันก็คือการเอา GLA450 AMG มาเปลี่ยนชื่อเท่านั้นเอง ราคาอยู่ที่ 7,990,000 บาท
MG
ค่ายรถแดนผู้ดีในเงื้อมมือแดนมังกรรายนี้กำลังเติบโตเรื่อยๆในเมืองไทย ล่าสุดส่งรถรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดปลายปีนี้ 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ MG GS ที่มากับทางเลือกขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ พละกำลัง 167 แรงม้า พร้อมสารพัดระบบความปลอดภัยที่จัดเต็ม กับราคาค่าตัวที่ถูกแสนถูก โดยมีราคาอยู่ที่ 890,000 - 990,000 บาท
อีกคันหนึ่งก็คือ MG3 ที่ได้ทำการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 1.5 V ที่ได้ทำการเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สเกิร์ตด้านข้าง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 579,000 บาท
Mitsubishi
ค่ายทรีไดมอนด์นำรถต้นแบบ MPV Crossover สีเหลืองโดดเด่นอย่าง Mitsubishi XM Concept มาจัดแสดงภายในงาน ซึ่งรถคันนี้จะกลายเป็นรุ่นขายจริงที่จะมาเป็นคู่แข่ง Honda BR-V โดยจะวางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รอชมเวอร์ชั่นขายจริงได้ปีหน้า แต่ตอนนี้ชมต้นแบบกันไปพลางๆก่อนครับ
คันต่อมาคือ Mitsubishi Triton ที่เปิดตัวรุ่นพิเศษใหม่ Limited Edition 2017 ที่มากับสีขาวมุก ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 18 นิ้ว ภายในติดตั้งจอเพดานและเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 861,000-906,000 บาทครับ
ปิดท้ายด้วย Mitsubishi Pajero Sport MY2017 ที่ปรับออปชั่น "เฉพาะรุ่นท็อป" เท่านั้น โดยมีการเพิ่มเติมที่ฉีดน้ำไฟหน้า ชุดแต่งใต้กันชนหน้า สปอยเลอร์ด้านหลัง รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control มีราคาอยู่ที่ 1,529,000 บาทครับ
Nissan
ค่ายนี้นำกระบะต้นแบบ Nissan Navara Enguard Concept มาจัดแสดงภายในงาน แล้วก็ Nissan Navara Black Edition สีแดงโดดเด่นบนเวทีงานเลย ทีน่าสนใจคือการเปิดตัว Nissan X-Trail พร้อมชุดแต่งพิเศษ X-Tremer Package ที่ต้องจ่ายเพิ่ม 30,000 บาทครับ ปิดท้ายด้วย Nissan Sylphy รุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ใหม่ ที่ปรับให้รองรับ E85 ในเครื่อง 1.6 ลิตร นอกจากนั้นแล้ว ยังแอบมี Nissan Leaf คันสีฟ้ามาจอดให้ดูในงานด้วย
Peugeot
ค่ายรถแดนน้ำหอมที่เงียบจากการเปิดตัวโมเดลใหม่ในไทยมาพอสมควร ปลายปีนี้มีไฮไลต์เด็ดที่น่าติดตามก็คือ Peugeot 408 e-THP โฉมใหม่ล่าสุดที่น่าจะนำเข้ามาจากมาเลเซียตามเคย สนนราคาอยู่ที่ 1,690,000 บาท และยังมี Peugeot 308 SW ราคาค่าตัว 2,390,000 บาทมาให้ชมด้วย ใครอยากเห็นคันจริงก็ไปชมได้ภายในงานครับ
Porsche
ค่ายรถหน้ากบรายนี้มีรุ่นพิเศษอย่าง Porsche Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition ที่ตกแต่งภายนอกด้วยล้ออัลลอย 20 นิ้วลาย RS Spyder คิ้วซุ้มล้อสีเดียวกับตัวร ขอบกระจกสีดำทั้ง 4 ประตูกระจกตัดแสง dark-tinted privacy glass ภายในติดตั้งเบาะหนังแท้ทรงสปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara ระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE Surround Sound system ในราคา 8,200,000 บาทครับ และยังมีการเปิดราคา Porsche 718 Cayman ในราคาเริ่มที่ 6,990,000 บาท
Rolls-Royce
ค่ายอัครมหายานยนต์หรูมีการนำ Rolls-Royce Phantom Drophead Coupe ซึ่งรถคันนี้มีความสำคัญคือเป็นรุ่นส่งท้าย Phantom โฉมปัจจุบัน และเป็นรถคันท้ายๆของสายการผลิตปี 2016 ด้วย
Subaru
ค่ายดาวลูกไก่ มีพระเอกคือ Subaru XV STi ที่ติดตั้งชุดแต่งแท้จากโรงงาน ได้แก่ ล้ออัลลอยลายใหม่ สเกิร์ตหน้า-ข้าง-หลัง สปอยเลอร์หลัง และเหล็กค้ำโช้ค ส่วนภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีดำสลับส้ม เดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม, ชุดพรมปูพื้น และหัวเกียร์ STI ในราคา 1,438,000 บาทครับ
Suzuki
ค่าย Suzuki ก็ไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ มีเพียงแค่ Suzuki Ertiga ที่เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ GX ซึ่งเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆจากรุ่น GL ให้ครบครันมากขึ้น กับราคาค่าตัว 695,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีการกระตุ้นตลาดรถเล็กด้วยการเปิดตัว Suzuki Celerio Limited ที่เสริมสติ๊กเกอร์รอบคัน ในราคาเริ่มต้นที่ 366,000 บาท
Toyota
เจ้าตลาดของเราปีนี้ แน่นอนที่สุดว่าจะนำรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาด 2 รุ่นมาจัดแสดงภายในงาน นั่นก็คือ Toyota Corolla Altis Minor Change ที่ปรับโฉมและเพิ่มเติมออปชั่นกับระบบความปลอดภัยมากขึ้น และอีกคันก็คือ Toyota Yaris TRD Sportivo กับสีเหลืองใหม่ที่ดูสดใสกว่าเดิม
Volvo
ปิดท้ายที่ค่ายรถหรูจากสวีเดน ที่มีการเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นด้วยกันคันแรกก็คือ Volvo V40 Minor Change ที่ปรับดีไซน์ภายนอกของรถให้หรูหราและทันสมัยขึ้น และยังคงซึ่งระบบความปลอดภัยครบครัน มากับเครื่องยนต์เบนซิน Drive-E 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 190 แรงม้าในราคา 1,749,000 บาท
คันต่อมาซึ่งเป็นไฮไลต์เลยคือ All-New Volvo S90 ซีดานหรูคันใหม่ วางจำหน่ายในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียงคอมมอนเรลทวินเทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.0 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้า พร้อมระบบความปลอดภัยเพียบในราคา 3,990,000 บาท
นอกจากนี้ยังมี Volvo XC90 D5 Momentum รุ่นประกอบมาเลเซีย มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 235 แรงม้า ราคาจำหน่าย 4,190,000 บาท
และทั้งหมดนี้คือรถที่มาจัดแสดงภายในงาน ซึ่งผมยกตัวอย่างมาในส่วนที่คาดว่าหลายท่านน่าจะสนใจครับ จริงๆภายในงานยังมีไฮไลต์เด็ดอีกมากมาย ฉะนั้นใครสนใจก็ลองไปเดินชมงานได้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี Hall 1-3 งานจัดถึงวันที่ 12 ธันวาคม ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่ ใครมีโอกาสก็ไปชมกันได้เลยครับ
ค่าย Mazda ที่ก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะเปิดตัว Mazda 3 Minor Change ช่วงปลายปี สุดท้ายก็ถูกเลื่อนไปเป็นช่วงมกราคมปี 60 แทน ทำให้ไม่มีรถใหม่เปิดตัวในงาน แต่อย่างน้อยก็มีตัวเด่นๆอย่าง Mazda CX-3 และ CX-5 รวมทั้งการจัดแสดงรถเป็นสีแดงแทบทั้งบูธ น่าจะเรียกความสนใจให้ใครหลายๆคนได้ดีทีเดียว
Mercedes-Benz
ค่ายรถหรูดาวสามแฉกรายนี้ก็ไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง BMW เลย พร้อมเข็นรถรุ่นใหม่หลายรุ่นเข้ามาเปิดตัวภายในงาน เริ่มที่รถหรูทรงวากอนอย่าง Mercedes-Benz E-Class Estate โฉมใหม่ที่มาอวดโฉมครั้งแรกในงานนี้เลย มีจำหน่ายในรุ่น E220d Estate AMG Dynamic กับราคา 4,740,000 บาท
ต่อด้วย Mercedes-Benz C-Class Cabriolet หรือเวอร์ชั่นเปิดหลังคาของ C-Class Coupe ที่เข้ามาจำหน่ายในรุ่น C300 Cabriolet AMG Dynamic มากับราคา 4,240,000 บาท
และที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวเปิดประทุนก็คือ Mercedes-Benz C250 Coupe ทีล่าสุดตอนนี้ได้นำเข้ามาประกอบในประเทศไทยแล้ว และมีการเพิ่มออปชั่นใหม่ๆเข้าไปหลายอย่าง ยังคงมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่น Sport และ AMG Dynamic ราคาค่าตัวถูกลงกว่าเดิม 150,000-200,000 บาท โดยมีราคาที่ 3,240,000-3,590,000 บาท
คันต่อมาคือ Mercedes-Benz CLA-Class Minor Change ที่ัยังคงมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดานและ Shooting Brake ทำตลาดในรุ่น CLA200 Urban / CLA250 AMG Dynamic และ CLA250 Shooting Brake AMG Dymanic ราคาค่าตัวเท่าเดิม 2,140,000-3,140,000 บาท
(ลืมถ่ายรถในงานมา เลยขอเอาภาพรถที่ถ่ายในห้างมาแทนครับ)
มาดูทางฝั่งของรถที่ปรับอุปกรณ์ใหม่กันบ้าง เริ่มที่ Mercedes-Benz GLA-Class ใหม่ที่มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่นปี 2017 โดยการเปลี่ยนหน้าจอกลางใหม่ พวงมาลัยทรงใหม่ รวมทั้งเพิ่มระบบช่วยเบรก Active Brake Assist และปรับเพิ่มเติมอีกหลายรายการ โดยรุ่นท็อปลดราคา 50,000 บาท ทำให้ช่วงราคาค่าตัวใหม่นั้นอยู่ที่ 2,090,000-2,390,000 บาท
อีกคันก็คือ Mercedes-Benz C350e Plug-In Hybrid รุ่นปรับอุปกรณ์ปี 2017 ที่ปรับนิดๆด้วยการเพิ่มกรอบสีฟ้าในโคมไฟหน้า และคาลิปเปอร์เบรกสีฟ้า ส่วนราคาค่าตัวก็เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ (ราคา 2,640,000-3,690,000 บาท)
ปิดท้ายด้วย 2 ตัวแรง Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe มากับขุมพลังเบนซิน 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด ที่ 367 แรงม้า ที่ 5,500 - 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ราคาอยู่ที่ 5,190,000 บาท
ท้ายสุด Mercedes-AMG GLE43 4MATIC Coupe ที่ใช้ขุมพลังเดียวกับ Mercedes-AMG C43 เลย มันก็คือการเอา GLA450 AMG มาเปลี่ยนชื่อเท่านั้นเอง ราคาอยู่ที่ 7,990,000 บาท
MG
ค่ายรถแดนผู้ดีในเงื้อมมือแดนมังกรรายนี้กำลังเติบโตเรื่อยๆในเมืองไทย ล่าสุดส่งรถรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดปลายปีนี้ 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ MG GS ที่มากับทางเลือกขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ พละกำลัง 167 แรงม้า พร้อมสารพัดระบบความปลอดภัยที่จัดเต็ม กับราคาค่าตัวที่ถูกแสนถูก โดยมีราคาอยู่ที่ 890,000 - 990,000 บาท
อีกคันหนึ่งก็คือ MG3 ที่ได้ทำการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 1.5 V ที่ได้ทำการเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สเกิร์ตด้านข้าง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 579,000 บาท
Mitsubishi
ค่ายทรีไดมอนด์นำรถต้นแบบ MPV Crossover สีเหลืองโดดเด่นอย่าง Mitsubishi XM Concept มาจัดแสดงภายในงาน ซึ่งรถคันนี้จะกลายเป็นรุ่นขายจริงที่จะมาเป็นคู่แข่ง Honda BR-V โดยจะวางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รอชมเวอร์ชั่นขายจริงได้ปีหน้า แต่ตอนนี้ชมต้นแบบกันไปพลางๆก่อนครับ
คันต่อมาคือ Mitsubishi Triton ที่เปิดตัวรุ่นพิเศษใหม่ Limited Edition 2017 ที่มากับสีขาวมุก ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 18 นิ้ว ภายในติดตั้งจอเพดานและเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 861,000-906,000 บาทครับ
ปิดท้ายด้วย Mitsubishi Pajero Sport MY2017 ที่ปรับออปชั่น "เฉพาะรุ่นท็อป" เท่านั้น โดยมีการเพิ่มเติมที่ฉีดน้ำไฟหน้า ชุดแต่งใต้กันชนหน้า สปอยเลอร์ด้านหลัง รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control มีราคาอยู่ที่ 1,529,000 บาทครับ
Nissan
ค่ายนี้นำกระบะต้นแบบ Nissan Navara Enguard Concept มาจัดแสดงภายในงาน แล้วก็ Nissan Navara Black Edition สีแดงโดดเด่นบนเวทีงานเลย ทีน่าสนใจคือการเปิดตัว Nissan X-Trail พร้อมชุดแต่งพิเศษ X-Tremer Package ที่ต้องจ่ายเพิ่ม 30,000 บาทครับ ปิดท้ายด้วย Nissan Sylphy รุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ใหม่ ที่ปรับให้รองรับ E85 ในเครื่อง 1.6 ลิตร นอกจากนั้นแล้ว ยังแอบมี Nissan Leaf คันสีฟ้ามาจอดให้ดูในงานด้วย
Peugeot
ค่ายรถแดนน้ำหอมที่เงียบจากการเปิดตัวโมเดลใหม่ในไทยมาพอสมควร ปลายปีนี้มีไฮไลต์เด็ดที่น่าติดตามก็คือ Peugeot 408 e-THP โฉมใหม่ล่าสุดที่น่าจะนำเข้ามาจากมาเลเซียตามเคย สนนราคาอยู่ที่ 1,690,000 บาท และยังมี Peugeot 308 SW ราคาค่าตัว 2,390,000 บาทมาให้ชมด้วย ใครอยากเห็นคันจริงก็ไปชมได้ภายในงานครับ
Porsche
ค่ายรถหน้ากบรายนี้มีรุ่นพิเศษอย่าง Porsche Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition ที่ตกแต่งภายนอกด้วยล้ออัลลอย 20 นิ้วลาย RS Spyder คิ้วซุ้มล้อสีเดียวกับตัวร ขอบกระจกสีดำทั้ง 4 ประตูกระจกตัดแสง dark-tinted privacy glass ภายในติดตั้งเบาะหนังแท้ทรงสปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara ระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE Surround Sound system ในราคา 8,200,000 บาทครับ และยังมีการเปิดราคา Porsche 718 Cayman ในราคาเริ่มที่ 6,990,000 บาท
Rolls-Royce
ค่ายอัครมหายานยนต์หรูมีการนำ Rolls-Royce Phantom Drophead Coupe ซึ่งรถคันนี้มีความสำคัญคือเป็นรุ่นส่งท้าย Phantom โฉมปัจจุบัน และเป็นรถคันท้ายๆของสายการผลิตปี 2016 ด้วย
Subaru
ค่ายดาวลูกไก่ มีพระเอกคือ Subaru XV STi ที่ติดตั้งชุดแต่งแท้จากโรงงาน ได้แก่ ล้ออัลลอยลายใหม่ สเกิร์ตหน้า-ข้าง-หลัง สปอยเลอร์หลัง และเหล็กค้ำโช้ค ส่วนภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีดำสลับส้ม เดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม, ชุดพรมปูพื้น และหัวเกียร์ STI ในราคา 1,438,000 บาทครับ
Suzuki
ค่าย Suzuki ก็ไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ มีเพียงแค่ Suzuki Ertiga ที่เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ GX ซึ่งเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆจากรุ่น GL ให้ครบครันมากขึ้น กับราคาค่าตัว 695,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีการกระตุ้นตลาดรถเล็กด้วยการเปิดตัว Suzuki Celerio Limited ที่เสริมสติ๊กเกอร์รอบคัน ในราคาเริ่มต้นที่ 366,000 บาท
Toyota
Volvo
ปิดท้ายที่ค่ายรถหรูจากสวีเดน ที่มีการเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นด้วยกันคันแรกก็คือ Volvo V40 Minor Change ที่ปรับดีไซน์ภายนอกของรถให้หรูหราและทันสมัยขึ้น และยังคงซึ่งระบบความปลอดภัยครบครัน มากับเครื่องยนต์เบนซิน Drive-E 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 190 แรงม้าในราคา 1,749,000 บาท
คันต่อมาซึ่งเป็นไฮไลต์เลยคือ All-New Volvo S90 ซีดานหรูคันใหม่ วางจำหน่ายในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียงคอมมอนเรลทวินเทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.0 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้า พร้อมระบบความปลอดภัยเพียบในราคา 3,990,000 บาท
นอกจากนี้ยังมี Volvo XC90 D5 Momentum รุ่นประกอบมาเลเซีย มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 235 แรงม้า ราคาจำหน่าย 4,190,000 บาท
และทั้งหมดนี้คือรถที่มาจัดแสดงภายในงาน ซึ่งผมยกตัวอย่างมาในส่วนที่คาดว่าหลายท่านน่าจะสนใจครับ จริงๆภายในงานยังมีไฮไลต์เด็ดอีกมากมาย ฉะนั้นใครสนใจก็ลองไปเดินชมงานได้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี Hall 1-3 งานจัดถึงวันที่ 12 ธันวาคม ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่ ใครมีโอกาสก็ไปชมกันได้เลยครับ
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย