ตัวรถพรางไว้ค่อนข้างแน่นหนาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ก็เดาได้ว่าหน้าตาของรถก็คงจะเหมือนตัวแฮตซ์แบ็คที่เปิดตัวไปแล้ว และในส่วนด้านท้ายก็จะออกแบบให้เข้ากับตัวรถเจเนเรชั่นใหม่ซึ่งจะเป็นไปในทางที่เรียบหรูมากขึ้นจากเดิมที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว
ภายในห้องโดยสารก็คงจะยกคอนโซลทั้งหมดจาก i30 มา ได้แก่ กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะถอย ลำโพงแบบพรีเมี่ยม รองรับ Bluetooth และ My Music Functionality ออปชั่นหน้าจอสีสัมผัสขนาด 8 นิ้วมีพร้อมระบบนำทาง และรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Apple CarPlay หรือ Android Auto
ขุมพลังของรถก็จะมีขุมพลังเบนซินให้เลือก 3 ขุมพลังด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร มากับพละกำลัง 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร ตามด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ พละกำลัง 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตรเทอร์โบ T-GDi พละกำลัง 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 242 นิวตัน-เมตร
และนอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซลดีเซล 1.6 ลิตร ที่มีให้เลือก 3 ระดับความแรง ได้แก่ พละกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร / พละกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และรุ่นแรงสุด พละกำลัง 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 300 นิวตัน-เมตร
ทางด้านระบบความปลอดภัยเหล่านี้ ก็คงจะยกมาใส่ในตัว Wagon ด้วยเช่นกัน - ระบบเบรกอัตโนมัติที่ทำงานร่วมกับระบบเตือนการปะทะรถคันหน้า (Autonomous Emergency Braking with Front Collision Warning System)- Smart Cruise Control
- ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนรถขณะถอยหลัง (Lane Keeping Assist System)
- ระบบแสดงผลการจำกัดความเร็ว Speed Limit Information Function
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
คาดว่าการเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดของ Hyundai i30 Cross Wagon น่าจะมีขึ้นราวๆงาน Geneva Motor Show 2017 ช่วงเดือนมีนาคมครับ
ที่มา Carscoops
มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย