ในที่สุดค่ายตราดาว Mercedes-Benz ก็ได้ทำการเผยโฉม E-Class รุ่นปรับโฉมใหม่ (Minor Change) กับการปรับโฉมภายนอกครั้งใหญ่ ยิ่งตัวถังซีดานที่เห็นนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายเลย
ด้านหน้าได้สลัดไฟหน้า 4 ดวง ทิ้งไปจนหมดสิ้น ด้วยด้านหน้าตามสไตล์ตราดาวยุคใหม่ ผสานการออกแบบระหว่าง Mercedes-Benz CLS และ Mercedes-AMG GT 4-Door มาพร้อมไฟหน้าทรงใหม่ที่เรียวยาวขึ้น กระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ที่ออกแบบให้รับกับไฟหน้า ไฮไลต์เด็ดคงจะเป็นไฟท้ายที่เปลี่ยนทรงจากไฟก้อนแนวตั้งเป็นไฟท้ายแนวนอน (ส่วนรุ่น Estate จะเป็นไฟท้ายทรงเดิมแต่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดโคมไฟใหม่)
เข้ามาภายในห้องโดยสารจะพบกับการเปลี่ยนแปลงในส่วนของพวงมาลัยที่เป็นทรงใหม่ นับเป็น Mercedes-Benz ครั้งแรกที่ใช้พวงมาลัยทรงนี้ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบ 2 โซน มีการตกแต่งพวงมาลัยให้เลือก 3 แบบ คือ หนังล้วน หนังและลายไม้ และ พวงมาลัยแบบฐานตัดดีไซน์สปอร์ต เบาะนั่ง แผงคอนโซลหน้า แผงประตูมีวัสดุให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นหนัง Artico, หนัง Nappa ที่ตัดเย็บเป็นลายเพชร
แผงหน้าปัดดิจิตอลยังมีการออกแบบในส่วนของกราฟิกใหม่ หน้าจอดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว 2 จอจะถูกติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน หรือ จะเลือกออปชั่นเป็น 2 หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วก็ได้ จอทั้ง 2 รูปแบบสามารถใช้เข้าถึงฟังก์ชั่นและปรับตั้งค่าได้หลากหลาย แน่นอนว่ารองรับระบบ MBUX ของค่ายด้วย อีกทั้งยังสามารถควบคุมได้โดยใช้ทัชแพดใหม่บริเวณคอนโซลกลาง หรือควบคุมหน้าจอด้วยเสียงหรือท่าทางมือก็ได้
E-Class ใหม่จะมีเบาะนั่งแบบ energizing seat kinetics พร้อมฟังก์ชั่นนวดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำงานควบคู่ไปกับระบบ energizing comfort control ที่ควบคุมการทำงานของระบบภายในห้องโดยสาร โดยจะมาช่วยเสริมเสียงดนตรี ปรับแสงสีภายในห้องโดยสารและควบคุมการนวด นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม "PowerNap" ที่มีให้ในรุ่น Plug-In Hybrid มีประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่เมื่อต้องการงีบภายในรถระหว่างชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างทาง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ยังคงมีให้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น
E-Class Minor Change ยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่งสู่อนาคตของขุมพลังขับเคลื่อนด้วยการมีทางเลือกขุมพลัง Plug-In Hybrid ให้เลือกถึง 7 ขุมพลังทั้งในตัวถัง Saloon และ Estate มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC รวมทั้งมีเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยขุมพลังเบนซินจะมีพละกำลังทางเลือกตั้งแต่ 156-367 แรงม้า (PS) และรุ่นดีเซลพละกำลัง 160-330 แรงม้า (PS)
ทางค่ายยังมีการนำเสนอเครื่องยนต์เบนซินใหม่รหัส M254 ความจุ 2.0 ลิตร 4 สูบแบบ Mild Hybrid ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Integrated Starter-Generator (ISG) พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า ที่มาพร้อมกับ EQ Boost ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังอีก 20 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร เครื่องตัวนี้จะเป็นแบบ Mild Hybrid พร้อมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์
Mercedes-Benz ยังเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินรหัส M256 ความจุ 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียงใน E-Class เป็นครั้งแรกซึ่งมีระบบ ISG เช่นกัน โดยมากับพละกำลัง 367 แรงม้า และ EQ Boost นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล OM656 และ OM654 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วย
Mercedes-Benz E-Class Minor Change จะเปิดตัวในยุโรปช่วงครึ่งหลังของปี โดยจะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูร้อนนี้ (ราวๆมิถุนายน) ตามด้วยฐานล้อยาวสำหรับตลาดจีนเท่านั้น ส่วนรุ่น Coupe และ Cabriolet จะเปิดตัวในปลายปีนี้
ส่วนเมืองไทยคาดว่าน่าจะได้สัมผัส Mercedes-Benz E-Class Minor Change ช่วงปลายปีนี้ครับ ยังไงสาวกตราดาวต้องติดตามชม
ที่มา Carscoops / ภาพเพิ่มเติมจาก Netcarshow
แผงหน้าปัดดิจิตอลยังมีการออกแบบในส่วนของกราฟิกใหม่ หน้าจอดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว 2 จอจะถูกติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน หรือ จะเลือกออปชั่นเป็น 2 หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วก็ได้ จอทั้ง 2 รูปแบบสามารถใช้เข้าถึงฟังก์ชั่นและปรับตั้งค่าได้หลากหลาย แน่นอนว่ารองรับระบบ MBUX ของค่ายด้วย อีกทั้งยังสามารถควบคุมได้โดยใช้ทัชแพดใหม่บริเวณคอนโซลกลาง หรือควบคุมหน้าจอด้วยเสียงหรือท่าทางมือก็ได้
- ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Speed Assist
- ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist Distronic
- ระบบช่วยคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน Active Steering Assist
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Active Blind Spot Assist
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมเซ็นเซอร์ช่วยในการถอยจอด Active Parking Assist with Parktronic
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบช่วยหยุดรถและออกตัวอัตโนมัติ Active Stop-and-Go Assist
E-Class Minor Change ยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่งสู่อนาคตของขุมพลังขับเคลื่อนด้วยการมีทางเลือกขุมพลัง Plug-In Hybrid ให้เลือกถึง 7 ขุมพลังทั้งในตัวถัง Saloon และ Estate มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC รวมทั้งมีเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยขุมพลังเบนซินจะมีพละกำลังทางเลือกตั้งแต่ 156-367 แรงม้า (PS) และรุ่นดีเซลพละกำลัง 160-330 แรงม้า (PS)
ทางค่ายยังมีการนำเสนอเครื่องยนต์เบนซินใหม่รหัส M254 ความจุ 2.0 ลิตร 4 สูบแบบ Mild Hybrid ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Integrated Starter-Generator (ISG) พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า ที่มาพร้อมกับ EQ Boost ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังอีก 20 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร เครื่องตัวนี้จะเป็นแบบ Mild Hybrid พร้อมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์
Mercedes-Benz ยังเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินรหัส M256 ความจุ 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียงใน E-Class เป็นครั้งแรกซึ่งมีระบบ ISG เช่นกัน โดยมากับพละกำลัง 367 แรงม้า และ EQ Boost นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล OM656 และ OM654 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วย
Mercedes-Benz E-Class Minor Change จะเปิดตัวในยุโรปช่วงครึ่งหลังของปี โดยจะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูร้อนนี้ (ราวๆมิถุนายน) ตามด้วยฐานล้อยาวสำหรับตลาดจีนเท่านั้น ส่วนรุ่น Coupe และ Cabriolet จะเปิดตัวในปลายปีนี้
ส่วนเมืองไทยคาดว่าน่าจะได้สัมผัส Mercedes-Benz E-Class Minor Change ช่วงปลายปีนี้ครับ ยังไงสาวกตราดาวต้องติดตามชม
ที่มา Carscoops / ภาพเพิ่มเติมจาก Netcarshow
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย