วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

All-New Honda Accord เจเนเรชั่นที่ 10 เผยโฉมอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว พร้อมขายจริงพฤษภาคมนี้

   สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวก Honda เมื่อทางค่ายได้ทำการเผยโฉม All-New Honda Accord เจเนเรชั่นที่ 10 อย่างเป็นทางการในไทย ก่อนเปิดราคาอย่างเป็นทางการรวมทั้งพร้อมขายจริงในเดือนพฤษภาคม และจะนำไปโชว์ตัวต่อสาธารณะชนอีกครั้งภายในงาน Bangkok Motor Show 2019 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 27 มี.ค. นี้


   รูปทรงภายนอกไม่ได้ต่างจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกามากมายนัก แต่อาจจะมีความแตกต่างในด้านการจัดออปชั่นบ้าง ดีไซน์ภายนอกยังคงอยู่ภายใต้ธีม Exciting H Design!!! อยู่ แต่ถือว่ามีการพลิกโฉมจากเจเนเรชั่นที่ 9 หรือรุ่นที่แล้วแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ว่าได้ ด้านหน้านั้นมีแรงบันดาลใจมาจาก Honda Civic เจเนเรชั่นล่าสุด แต่ดูมีเหลี่ยมสันมากกว่า และที่ขาดไม่ได้คือไฟหน้าแบบ LED ใหม่ที่ดูเรียวขึ้น เส้นสายด้านข้างดูมีโค้งมน ออกแบบให้หลังคาลาดเทไปทางด้านหลังคล้ายๆรถ Fastback และออกแบบให้มีกระจกโอเปร่าด้านหลังเหมือน Honda Civic FC เป๊ะ ส่วนด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายใหม่ที่ดูมีเหลี่ยมสันและล้ำมากขึ้น ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17-18 นิ้ว

   All-New Honda Accord จะมีสัดส่วนขนาดตัวถังยาว 4,894 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,775 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นรถ 131.3 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวถังอยู่ที่ 1,464 - 1,568 กิโลกรัม

    ภายในห้องโดยสารก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ มีการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น มีการใช้วัสดุคุณภาพสูงตกแต่งภายในห้องโดยสาร โดยภายในมีให้เลือกทั้งโทนสีดำ สีไอเวอรี่เบจ และสีน้ำตาลขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสีภายนอกรถ และนอกจากนี้ยังมีพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ แผงหน้าปัดใหม่พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว คอนโซลกลางมีการย้ายตำแหน่งช่องระบบปรับอากาศมาไว้ใต้ชุดหน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advance Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay อีกด้วย ออปชั่นอย่างอื่นที่น่าสนใจก็จะมี อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย และ HEAD-UP DISPLAY ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า

   ขุมพลังทางเลือกของ All-New Honda Accord ในไทยจะมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
- รุ่นเบนซินธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC TURBO พละกำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตรที่ 1,500 - 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับเชื้อเพลิงสูงสุด E85
- รุ่น Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC พละกำลังสูงสุดที่ 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร รวมพละกำลังทั้งระบบที่ 215 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับเชื้อเพลิงสูงสุด E20 พร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ความจุไฟฟ้า 1.3 kWh

  ระบบพวงมาลัยของ All-New Honda Accord จะเป็นแบบดูอัลพีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (DP-EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.1 เมตร, ระบบเบรกหน้าดิสก๋เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน เบรกหลังดิสก์เบรก , ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์อิสระพร้อมเหล็กกันโคลง

   ทางด้านระบบความปลอดภัยถือว่ารอบนี้มาค่อนข้างเต็มทีเดียว โดยมีระบบดังต่อไปนี้
 - ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ เฉพาะรุ่น Turbo EL
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS : Multi-View Camera System) เฉพาะ Hybrid Tech
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (CTM : Cross Traffic Monitor) เฉพาะ Hybrid Tech
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) เฉพาะ Hybrid Tech
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด เฉพาะ Hybrid Tech
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS) มีใน Hybrid ทุกรุ่นยกเว้น Turbo EL
- ถุงลมคู่หน้า (i-SRS)
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist)
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS) มีใน Hybrid ทุกรุ่นยกเว้น Turbo EL
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- ระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER พร้อมสัญญาณกันขโมย
- กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic) มีใน Hybrid ทุกรุ่นยกเว้น Turbo EL
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK) มีใน Hybrid ทุกรุ่นยกเว้น Turbo EL
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing มีใน Hybrid ทุกรุ่นยกเว้น Turbo EL
  • ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS : Collision Mitigation Braking System™)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS :  Lane Keeping Assist System)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB : Auto High-Beam)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow (LSF)
   All-New Honda Accord มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL (เพิ่มเงิน 12,000 บาท) , สีเงิน LUNAR SILVER METALLIC , สีเทา MODERN STEEL METALLIC และ สีดำ CRYSTAL BLACK PEARL (เพิ่มเงิน 8,000 บาท)

  ส่วนรุ่นย่อยของ All-New Honda Accord จะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Turbo EL ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,500,000 บาท
- Hybrid ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,650,000 บาท
- Hybrid Tech ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,800,000 บาท
โดยราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในช่วงวางจำหน่ายจริงซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนใครอยากไปชมคันจริงก็รอชมได้ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2019 ที่จะเริ่มขึ้นในวันทื่ 27 มี.ค. - 7 เม.ย. นี้ ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานีครับ

รุ่น Turbo EL ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,500,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/50 R17
- ไฟหน้าแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบเปิด - ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียม
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ท่อไอเสียคู่ มีเฉพาะรุ่นนี้
- เสาอากาศครีบฉลาม
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- สีภายในสีไอเวอรี่เบจ/สีดำ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์
- ชุดตกแต่งภายในลายไม้
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
- ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry/Exit)
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้
- พนักเท้าแขนด้านหลังแบบเปิดผ่านห้องสัมภาระท้าย
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
- ช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System)
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) มีเฉพาะรุ่นนี้
- ปุ่ม ECON
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
- รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC)
ระบบความปลอดภัย
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- ถุงลมคู่หน้า (i-SRS)
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist)
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- ระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER พร้อมสัญญาณกันขโมย
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)


รุ่น Hybrid ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,650,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น Turbo EL ประมาณ 150,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Turbo EL)
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R18
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น Turbo EL)
- ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ พร้อมปุ่มควบคุม ACC with LSF และ LKAS
- กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
- ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง , ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อม Sub-Woofer
- ลำโพง 10 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น Turbo EL)
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
- เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
- กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic)
- อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK)
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing
  • ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS : Collision Mitigation Braking System™)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS :  Lane Keeping Assist System)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB : Auto High-Beam)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow (LSF)
รุ่น Hybrid Tech ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,800,000 บาท (เพิ่มเงินจากรุ่น Hybrid ประมาณ 150,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid)
- ซันรูฟ พร้อมระบบ One-Touch
- ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
- สปอยเลอร์หลัง
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid)
- สีภายใน สีน้ำตาล/สีดำ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์พร้อมปุ่มควบคุม ACC with LSF, LKAS และ HUD
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (HUD)
ระบบความปลอดภัย (เพิ่มเติมจากรุ่น Hybrid)
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS : Multi-View Camera System) 
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (CTM Cross Traffic Monitor)
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System)
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
  

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box