ดีไซน์ภายนอกยังคงอยู่ภายใต้ธีม Exciting H Design!!! อยู่ แต่ถือว่ามีการพลิกโฉมจากเจเนเรชั่นที่ 9 หรือรุ่นที่แล้วแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ว่าได้ ด้านหน้านั้นมีแรงบันดาลใจมาจาก Honda Civic เจเนเรชั่นล่าสุด แต่ดูมีเหลี่ยมสันมากกว่า และที่ขาดไม่ได้คือไฟหน้าแบบ LED ใหม่ที่ดูเรียวขึ้น เส้นสายด้านข้างดูมีโค้งมน ออกแบบให้หลังคาลาดเทไปทางด้านหลังคล้ายๆรถ Fastback และออกแบบให้มีกระจกโอเปร่าด้านหลังเหมือน Honda Civic FC เป๊ะ ส่วนด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายใหม่ที่ดูมีเหลี่ยมสันและล้ำมากขึ้น และพอเสริมเข้ากับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ดูเต็มซุ้มล้อทำให้เพิ่มความสปอร์ตขึ้นมาได้ดีทีเดียว
All-New Honda Accord จะมีโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงขึ้นแต่น้ำหนักเบา โดยการใช้เหล็กที่มีความแข็งและทนต่อการบิดตัวสูง ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถจะลดลงมาราวๆ 49.9-79.8 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ มีการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น มีการใช้วัสดุคุณภาพสูงตกแต่งภายในห้องโดยสาร มากับพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ แผงหน้าปัดใหม่แบบดิจิตอล คอนโซลกลางมีการย้ายตำแหน่งช่องระบบปรับอากาศมาไว้ใต้ชุดหน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ผลของการยืดขนาดตัวรถให้ยาวขึ้น ทำให้มีฐานล้อรถที่ยาวขึ้น ส่งผลต่อผู้โดยสารด้านหลังที่มีพื้นที่วางขามากกว่าเดิม Honda ยังออกแบบที่วางแขนตรงกลางให้ใหญ่ให้เราวางแขนได้แบบเต็มๆแขนเลย รวมถึงเบาะนั่งที่โอบไหล่มากขึ้น
ฟังก์ชันใหม่ๆที่น่าสนใจใน Accord โฉมล่าสุดก็จะมีเบาะนั่งที่สามารถปล่อยลมอุ่นๆหรือเย็นได้ที่คู่หน้า , จอ Head-Up Display , แท่นชาร์จไร้สาย และรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE
สำหรับขุมพลังนั้นถือว่าเป็นอีกจุดเด่น สำหรับตลาดสหรัฐฯ ที่ได้เอาเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 พละกำลัง 278 แรงม้าออกไป แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ไดเรคอินเจคชั่นเทอร์โบพร้อม i-VTEC® มากับพละกำลัง 252 แรงม้าที่ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ 10 สปีด และมีทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดมาให้
ส่วนเครื่องเบนซิน 2.4 ลิตร พละกำลัง 185 แรงม้า ก็ถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ไดเรคอินเจคชั่นเทอร์โบพร้อม Dual Variable Timing Control (Dual VTC) มากับพละกำลัง 192 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดมาให้เช่นกัน
และที่ขาดไม่ได้เลยคือรุ่น Hybrid ที่มากับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atkinson cycle พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวเลขสมรรถนะยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ Honda บอกว่าได้มีการปรับสมรรถนะให้ดีขึ้นและแบตเตอรี่กับมอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่กินเนื้อที่สัมภาระมากเกินควร
ในด้านการขับขี่ All-New Honda Accord จะมากับระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทและมัลติลิงก์บริเวณด้านหลัง ไฮไลต์ใหม่ๆก็จะมีระบบปรับช่วงล่าง Adaptive Damper System และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง
ระบบความปลอดภัยทาง Honda จะติดตั้งระบบ Honda Sensing ไว้ในทุกรุ่นย่อยของ Accord ที่จำหน่ายในอเมริกา ระบบความปลอดภัยต่างๆทั้งหลายก็จะมี
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และคอยเบรกเพื่อช่วยรักษาระยะห่าง รวมทั้งตรวจจับป้ายจราจรด้านหน้า Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow and Traffic Sign Recognition
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)- Traffic Sign Recognition (TSR)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System™ (CMBS™)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยเบรก Forward Collision Warning (FCW)
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information
- เซ็นเซอร์ถอยจอดด้านหน้าและหลัง
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง Cross Traffic Monitor
- ระบบช่วยตรวจจับอาการเหนื่อยล้าขณะขี่ Driver Awareness Monitor
- กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้หลายระดับพร้อมเส้นกะระยะ
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control
- ระบบเบรก ABS EBD
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS),
- ถุงลมนิรภัย 8 ใบ (คู่หน้า+ด้านข้าง+ม่าน+เข่าผู้โดยสาร+เข่าคนขับ)
All-New Honda Accord น่าจะมีการเปิดตัวเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดในปี 2018 แต่จะเป็นช่วงไหนเมื่อไหร่ยังเร็วไปที่จะสืบทราบข้อมูล ต้องร้องเพลงรอต่อไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย