วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2562

2020 Porsche 718 Cayman GT4 & 718 Boxster Spyder สองสปอร์ตตัวจี๊ด สุดจัดในตระกูล 718

  ค่ายสปอร์ตหน้ากบจากเยอรมันได้ทำการเผยโฉม 2 สปอร์ตตัวแรงรุ่นใหม่ในตระกูล 718 นั่นคือ Porsche 718 Cayman GT4 & 718 Boxster Spyder หลังจากที่ได้ทำการวิ่งทดสอบก่อนเปิดตัวกันมาอย่างยาวนาน
  ทั้งสองรุ่นนี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่โหดสุดในตระกูล 718 เวอร์ชั่นขับขี่บนถนนเลยก็ว่าได้ ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร Boxer 6 สูบแบบหายใจเอง ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ โดยมีพละกำลังสูงสุดที่ 420 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำให้ทั้ง 2 คันนี้สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น โดย 718 Boxster Spyder จะมีความเร็วสูงสุดที่ 301 กม./ชม. ในขณะที่ 718 Cayman GT4 มีความเร็วสูงสุดที่ 304 กม./ชม. โดย 718 Cayman GT4 รุ่นใหม่นี้สามารถทำเวลาต่อรอบในสนามย่อย Nordschleife (ที่เป็นส่วนหนึ่งของสนาม Nürburgring) ได้เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 10 วินาที 

   เครื่องยนต์ตัวนี้ยังได้รับการติดตั้ง ระบบควบคุมกระบอกสูบแบบแปรผันที่สามารถขัดจังหวะในกระบวนการฉีดเชื้อเพลิงชั่วคราวใน 1 หรือ 2 กระบอกสูบ เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงให้น้อยลง เครื่องยนต์ยังติดตั้งท่อไอดีแบบแปรผันและหัวฉีด Piezo หลายตัวที่ทาง Porsche กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งหลายตัวกับเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง

   ภายนอกของ 718 Cayman GT4 ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวแข่งอย่าง GT4 Clubsport โดยมากับสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่แบบติดตั้ง Fix ไว้ด้านหลังและปรับขึ้นลงไม่ได้ รวมทั้งครีบรีดอากาศขนาดใหญ่ที่กันชนท้าย ด้วยการปรับปรุงเหล่านี้ส่งผลให้รถมีค่าแรงกดมากขึ้นกว่าเดิมถึง 50% ด้านหน้ายังมาพร้อมกับกันชนดีไซน์ดุที่มีลิ้นกันชนด้านหน้ายื่นออกมา ส่วนด้านข้างมีช่องระบายอากาศที่ออกแบบให้นูนออกมาจากตัวรถเล็กน้อย

  ส่วน 718 Boxster Spyder จะมีการออกแบบฝาท้ายให้โค้งนูนขึ้นมา 2 จุดและเชื่อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ลอยเหนือขึ้นมา และติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายที่ปรับระดับขึ้นลงได้ จะทำงานที่ความเร็ว 120 กม./ชม. และมาพร้อมกับครีบรีดอากาศที่กันชนท้ายซึ่งช่วยให้ 718 Boxster Spyder เป็น Boxster รุ่นแรกที่สามารถสร้างแรงกดอากาศพลศาสตร์ที่เพลาท้ายได้

   เข้ามาภายในห้องโดยสารจะพบกับหัวเกียร์แบบสั้น และพวงมาลัยแบบ GT Sport ไฮไลต์อื่นๆก็จะมีเบาะนั่งแบบ  Sport Seats Plus ที่หุ้มด้วย Alcantara ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาหรือเป็นสีเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกออปชั่นการตกแต่งได้อีกมากมาย รวมถึงแพ็คเกจตกแต่งภายใน Spyder Classic ที่จะมากับเบาะหนังสีแดง Bordeaux Red และสีดำ, ตกแต่งด้วยโทนสี GT Silver Metallic และหลังคาผ้าใบสีทูโทน

   แน่นอนว่าทั้งสองรุ่นนี้จะใช้แซสซีส์เดียวกัน นั่นหมายความว่าทั้งสองจะติดตั้งระบบจัดการช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management system และปรับความสูงตัวรถลดลง 30 มิลลิเมตร วิศวกรยังติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Stability Management system ได้รับการปรับแต่งใหม่ (ซึ่งสามารถปิดใช้งานได้) และระบบช่วยกระจายแรงบิด Vector Torque Vectoring ที่มีเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยกลไก

  เมื่อถึงเวลาเบรก คนขับจะยิ้มได้ทันทีเมื่อได้รู้ว่าทั้งสองรุ่นนี้ติดตั้งระบบเบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมคาลิเปอร์แบบ  Aluminum Monobloc Fixed ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อชุดเบรกคอมโพสิตเซรามิกได้อีกด้วย สำหรับ 718 Cayman GT4 ยังสามารถติดตั้งแพ็คเกจ Clubsport ซึ่งเพิ่มแถบเหล็กกันโคลง , ชุดดับเพลิงและเข็มขัดนิรภัย 6 จุดที่ด้านข้างของคนขับได้ด้วย

   สำหรับราคาค่าตัวนั้น 718 Boxster Spyder มีราคาเริ่มต้นที่ 96,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,007,000 บาท) ในขณะที่ 718 Cayman GT4 มีราคาเริ่มที่ 99,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,098,000 บาท) (ไม่รวมค่าขนส่งปลายทาง 1,250 ดอลลาร์ หรือประมาณ 39,000 บาท) ส่วนเมืองไทยนั้นคาดว่าทางตัวแทนคงจะไม่พลาดที่จะเอามาให้เศรษฐีไทยได้จับจองครับ

ภาพจาก Carscoops / Motor1 / Netcarshow

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารยานยนต์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ครับ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box