วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยืนยันแล้ว! Ford Ranger Raptor เตรียมเปิดตัวในไทยวันที่ 7 ก.พ. ปีหน้า

  ใกล้การเปิดตัวเข้ามาเต็มที่แล้วสำหรับกระบะ Ford Ranger Raptor ที่ถือว่าเป็นกระบะระดับตัวท็อปสุดของตระกูล Ranger เลยก็ว่าได้ ล่าสุดได้รับการยืนยันจากสื่อหลายสำนักแล้วว่าจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่กรุงเทพ ประเทศไทย ภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 


  แน่นอนว่า Ford Ranger Raptor จะวางตำแหน่งทางการตลาดที่สูงกว่า Wildtrak อย่างแน่นอน  การตกแต่งรูปโฉมภายนอกนั้นจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากพี่ใหญ่ที่ขายในอเมริกาอย่าง Ford F-150 Raptor ที่ขายดีมากในตลาดสหรัฐ เชื่อว่า Ford คงมองถึงจุดนี้จึงทำให้พวกเขาได้ถ่ายทอดความแข็งแกร่งและความเท่จากรุ่นพี่ F-150 มาสู่รุ่นน้องอย่าง Ranger ด้วย


   ภายนอกเท่าที่เห็นจะมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ให้ดูแข็งแกร่งและมีความเป็นออฟโรดมากขึ้น ออกแบบซุ้มล้อให้ใหญ่โตกว่ารุ่นปกติและยกตัวถังให้สูงขึ้น ขยายความกว้างในช่วงล้อหน้าและหลัง ทำให้รถดูใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปกติพอสมควร นอกจากนี้คาดว่าน่าจะมีการปรับปรุงในส่วนของระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อรองรับการลุยและเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นยังไม่มีภาพการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ออกมา


  แต่ที่แน่ๆตอนนี้สามารถยืนยันได้ชัดแล้วว่า Ford Ranger Raptor จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 แบบด้วยกัน ซึ่งอ้างอิงจากคลิปทีเซอร์ที่ปล่อยมาล่าสุด โดยมีโหมดต่างๆดังนี้ 
- โหมด Normal ใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน
- โหมด Street ใช้ในการขับขี่ทางเรียบที่ต้องใช้ความเร็ว
โหมด Weather ใช้ในการขับขี่พื้นที่สภาพอากาศฝนตกหรือหิมะ
โหมด Mud and Sand ใช้ในการลุยเส้นทางดินและทราย
โหมด Baja ใช้ในการขับขี่ที่ใช้ความเร็วบนพื้นทราย
- โหมด Rock Crawl ใช้ในการขับขี่บนเส้นทางที่มีโขดหิน

ขุมพลังนั้นมีข่าวคร่าวว่าจะมากับเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่แบบ Ecoblue ซึ่งมีชื่อตระกูลให้เรียกเล่นๆว่า "แพนเธอร์ (Panther)" โดยจะมีขุมพลัง 2 แบบ ได้แก่
- เครื่องดีเซลความจุ 2.0 ลิตรแบบเทอร์โบเดี่ยว พละกำลังประมาณ 180-190 แรงม้า 
เครื่องดีเซลความจุ 2.0 ลิตรแบบเทอร์โบคู่ พละกำลังประมาณ 213 แรงม้า
ระบบส่งกำลังมีความเป็นไปได้ที่จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

ขึ้นหน้าเว็บแบบนี้ ยืนยันว่ามาไทยแน่นอน!
  ส่วนราคาค่าตัวนั้นยังไม่ทราบเพราะรถยังไม่เปิดตัว แต่คิดว่าน่าจะมีราคาที่แพงแน่นอน แต่จะมีทีเด็ดอะไรนอกเหนือจากที่กล่าวมาหรือไม่ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้า รู้กัน!

ภาพจากคลิปที่เพจ Ford Australia

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box